เมียประยุทธ์ ทําตัวเหมือนเจ้า

  ทนายเบญจรัตน์ ร้อง ปอท. ตรวจสอบภาพ คนนามสกุล จันทร์โอชา ผิดหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562 เวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความองค์กรปกป้องความยุติธรรมและพระพุทธศาสนา เข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อขอให้ตรวจสอบบุคคล 2 ราย มีภาพปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ในลักษณะเลียนแบบเชื้อพระวงศ์ รวมถึงตรวจสอบการใช้ถ้อยคำของผู้คนในโลกโซเชียลว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่

          น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวว่า ตามที่มีภาพของบุคคลทั้งสอง ซึ่งมีนามสกุลเดียวกันกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในลักษณะเลียนแบบที่ไม่เหมาะสม จนคนทั่วไปที่ไม่ทราบ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นเชื้อพระวงศ์หรือไม่ จึงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร โดยจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบภาพว่าเข้าข่ายความผิดใด รวมถึงบุคคลในทวิตเตอร์ที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ ก่อนพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ตนไม่ได้ปกป้องใคร แต่ต้องการให้ทุกคนทราบว่าความสามัคคีจะเกิดขึ้น ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะปัญหาปัจจุบันเกิดจากความไม่ยุติธรรมของกฎหมาย นักการเมืองทุกคนทั้ง ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงนายกรัฐมนตรีต้องได้รับการตรวจสอบเช่นกัน

          โดยสำหรับภาพบุคคล 2 รายดังกล่าว คือ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี

ทำไปได้! พบข่าวปลอมกล่าวหา “อาจารย์น้อง” ภริยานายกรัฐมนตรี ติดเข็มกลัดตัว C โยงองค์กรอีกศาสนาหนึ่ง ทั้งๆ ที่เป็นเพียงอักษาตัวแรกนามสกุล “จันทร์โอชา” โฆษกรัฐงัดภาพโต้ ยันเป็นพุทธศาสนิกชน

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสมเกียรติ โอสถสภา นักวิชาการโพสต์ภาพอินโฟกราฟฟิก ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตำหนิการแชร์ข่าวปลอม กล่าวหาว่า ผศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา ติดเข็มกลัดตัวซี (C) ซึ่งเป็นอักษรตัวแรกของนามสกุล “จันทร์โอชา” (Chan-O-Cha) อ้างเป็นสัญลักษณ์เลขาธิการใหญ่สำนักงานอิสลามภาคพื้นเอเชียใต้ ซึ่งไม่ป็นความจริง และไม่เป็นธรรมกับครอบครัว พร้อมย้ำว่า คนไทยทุกศาสนาอยู่ร่วมกัน เคารพและเรียนรู้ในวิถีชีวิตที่แตกต่าง ซึ่งจะนำไปสู่ความสงบสุขของคนในสังคมไทย

ด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กภาพนายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายผ้าไตรแก่พระภิกษุสงฆ์ และสักการะพระพุทธรูป พร้อมชี้แจงยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา ทั้งสองเป็นพุทธศาสนิกชน ทุกคนที่ติดตามภารกิจของนายกฯ และภริยา ทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางด้านพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่าทั้งสองได้แสดงตนในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดีมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช หรือการประกอบพิธีทางศาสนาอื่น ๆ รวมทั้งประเพณีปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง นายกฯและภริยา ก็จะเข้าร่วมงานทำบุญตักบาตรต้อนรับปีใหม่ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เหมือนดังเช่นที่เคยเข้าร่วมงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย

วิจารณ์แซด! “แม่ผ่องพรรณ” เมียน้อง “ประยุทธ์” ต้อนรับอลังการ สร้างฝายตั้งชื่อตัวเอง

เผยแพร่: 16 ก.ย. 2559 14:40   ปรับปรุง: 16 ก.ย. 2559 16:48   โดย: MGR Online

“ผ่องพรรณ จันทร์โอชา” เมีย “ปรีชา” น้องชาย “ประยุทธ์” ทำตัวเวอร์วังอลังการ ทั้งทำพิธีมีทหารกางร่มให้ นั่งถ่ายรูปโดยที่คนอื่นนั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ แถมเปิดฝายสร้างจากภาษีประชาชน ตั้งชื่อ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ที่ปางปอย อ.ฝาง ชาวเน็ตถามเหมาะสมหรือไม่

ในเครือข่ายสังคมออนไลน์วิจารณ์บทบาท นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ภริยา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยภาพแรกเป็นโครงการฝายชะลอน้ำ ณ อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา (ปางปอย) หมู่ที่ 9 ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา โดยได้ตั้งชื่อฝายว่า “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา”

นอกจากนี้ ยังมีภาพการต้อนรับของข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่พบว่า นางผ่องพรรณ ขึ้นบนโพเดียม มีทหารคอยกางร่มให้ ในพิธีการพิธีหนึ่ง และยังมีภาพที่นางผ่องพรรณนั่งบนเก้าอี้ โดยมีข้าราชการคนอื่น ๆ นั่งขัดสมาธิกับพื้น ซึ่งหลายคนวิจารณ์ว่าเป็นการทำตัวตีตนเสมอผู้ใด รวมทั้งกรณีการสร้าง “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของระบบข้าราชการที่เลียนาย เอาหน้าแบบโง่ ๆ เงินที่ใช้สร้างฝายเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินส่วนตัว สวนทางกับที่นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวว่า ก่อนลงจากตำแหน่งคอร์รัปชันจะหมดไป

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ทีมสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพถ่าย “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ซึ่งเป็นฝายชะลอน้ำใน จ.เชียงใหม่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่กลับตั้งชื่อฝายตามชื่อของน้องสะใภ้ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ นางผ่องพรรณ จึงขอตั้งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นพี่สามี ว่า สิ่งที่น้องสะใภ้ของท่านกระทำนี้ เรียกว่า มีธรรมาภิบาลหรือเปล่า เหตุใดจึงปล่อยให้เอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อฝายชะลอน้ำ ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เอางบประมาณจากที่ไหนมาสร้าง ถ้าเป็นการใช้เงินหรือทรัพยากรของหลวงสร้าง แล้วเอาชื่อตัวเองมาแปะแบบนี้ ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญ หากต้องการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ทำไมจึงไม่ตั้งชื่อในลักษณะเฉลิมพระเกียรติ หรือตั้งชื่อตามหน่วยงานเจ้าของงบประมาณ หรือถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็นำชื่อชุมชนแถวนั้นมาตั้ง จะเหมาะสมกว่าเอาชื่อน้องสะใภ้นายกฯ มาตั้งหรือไม่ ชาวบ้านจะได้รู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ และเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์พัฒนาฝายชะลอน้ำดังกล่าว การตั้งชื่อฝายจึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย เพราะในวันข้างหน้า ชื่อของสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของชุมชนหรือมรดกทางวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวในท้องถิ่นนั้น ๆ ด้วย แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นพี่สามีคิดว่าเรื่องนี้ไม่เสียหาย ก็น่าจะเติมนามสกุลของท่านเข้าไปด้วย เป็น “ฝายแม่ผ่องพรรณ จันทร์โอชา” ไปเลย จะได้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลและคนรุ่นหลังจะได้จำนามสกุ ลของท่านได้ เพราะคงไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกท่าน และไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าชื่อของฝายนั้น มันจะเหยียบย่ำหัวใจคนฟังแค่ไหนก็ตาม

อนึ่ง สำหรับเรื่องวุ่น ๆ ของครอบครัว พล.อ.ปรีชา เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่เอกสารลับ บรรจุ นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชาย เข้ารับราชการในตำแหน่งรักษาราชการนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3 อัตราพลตรี รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 18 (15,000 บาท) และแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรี เหล่าสารบรรณ (สบ.) ซึ่ง พล.อ.ปรีชา ยอมรับว่า แต่งตั้งลูกชายตัวเองเป็นข้าราชการทหารจริง อ้างว่า ลูกชายจบปริญญาตรีมา ก็ต้องทำงาน เมื่อมีตำแหน่งว่างก็ให้เข้ามาทำงาน ซึ่งก็มีหลายคนในกองทัพที่ทำแบบนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกชายตนคนเดียวที่ทำแบบนี้ได้ ทำให้สังคมเกิดความกังขามาแล้ว

อนึ่ง นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา อดีตผู้จัดการสาขา ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนนเรศวร พิษณุโลก ปัจจุบันเป็นแม่บ้าน