ต่อใบขับขี่จาก2ปีเป็น5ปี กี่บาท

ต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

ตอนที่แล้วได้พูดถึงขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว 2 ปี เป็นชนิด 5 ปีไปแล้วนะคะ ย้ำอีกครั้งนะคะว่าใบขับขี่ในปัจจุบันได้ยกเลิกแบบตลอดชีพและใช้ชนิด 5 ปีทดแทน เพราะฉะนั้นเราจะมีนัดกับกรมการขนส่งทางบกทุกๆ 5 ปี สำหรับผู้ที่ใช้รถเป็นพาหนะในการเดินทางประจำอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แต่สำหรับผู้ที่นานๆใช้ทีก็ต้องหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุหน้าใบขับขี่อยู่เสมอนะคะ 

    เช่นกันกับ ใบขับขี่ชนิดชั่วคราว คือ หากไม่ต่ออายุหลังจากบัตรหมดอายุเกิน 1 ปี จะต้องเสียค่าปรับ แถมยังต้องเข้าทดสอบขับรถใหม่ ซึ่งก็คงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ นอกจากจะเสียเวลาในการมาติดต่อที่กรมการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้นแล้ว (เพราะต้องเพิ่มเวลาทดสอบขับรถด้วย) ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดระหว่างการทดสอบอีก ซึ่งปัจจุบันสนามสอบภาคปฏิบัติหลายสนามโดยเฉพาะที่ สำนักงานขนส่งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้ทำการเปลี่ยนระบบการตรวจการทดสอบจากการใช้เจ้าหน้าที่ มาเป็นระบบอิเลกทรอนิกส์ โดยใช้เซนเซอร์เป็นตัววัดการทดสอบ เรียกได้ว่าถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาก็หมดสิทธิ์อุทรณ์ร้อยเปอร์เซนต์คะ


    ที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ไดมีเจตนาจะข่มขู่แต่อย่างใดนะคะ เพียงแต่ไม่อยากให้ท่านผู้ใช้รถใช้ถนนละเลยหรือมองข้ามกับเรื่องพื้นฐาน ที่อาจจะทำให้เราต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับความวุ่นวายและปวดเศียรเวียนเกล้าในการที่จะต้องลางานทั้งวันเพื่อไปจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าไปต่อใบอนุญาตตามกำหนดแล้วรับรองได้เลยว่าใช้เวลาไม่เกินครึ่งวัน ท่านก็จะได้รับใบขับขี่ใบใหม่ที่ต่ออายุเรียบร้อยแล้วไปพกไว้ให้อุ่นใจอย่างแน่นอนคะ

สำหรับขั้นตอนการต่อใบอนุญาตชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี มี ขั้นตอนดังนี้


เอกสารที่ต้องเตรียม
1.ใบขับขี่รถยนต์ชนิด 5 ปีใบเดิม
2. บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา


ขั้นตอนต่อไปเมื่อเอกสารพร้อมแล้วมีดังนี้
ขั้นที่ 1 ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ โดยให้ไปที่ฝ่ายทะเบียนใบอนุญาตของแต่ละสำนักงาน ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการออกใบคำขอให้ จากนั้นก็นั่งรอเรียกชื่อต่อไปคะ
ขั้นที่ 2 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ก็เป็นขั้นตอนเดียวกันกับตอนที่เราทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่คะ คือ ทดสอบการมองเห็นสี     สายตาทางลึก  ทางกว้าง  ทดสอบปฏิกิริยาเท้า การทดสอบนี้ก็เพื่อเป็นการวัดสมรรถภาพ ณ ปัจจุบัน ว่ายังคงมีความพร้อมในการขับขี่อยู่หรือไม่
ขั้นที่ 3 อบรมภาคทฤษฎีจำนวน 1 ชม. เพื่อเป็นการทบทวนมารยาทในการใช้รถใช้ถนน รวมไปถึงกฎจราจรต่างๆ

ขั้นที่ 4  ชำระค่าธรรมเนียม / ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ / จ่ายใบขับขี่   หลังจากผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ไปที่ช่องชำระค่าธรรมเนียม เพื่อถ่ายรูปติดบัตรและชำระค่าธรรมเนียม 505 บาท ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ 


จากตอนที่แล้วซึ่งกล่าวถึงการเปลี่ยนใบอนุญาตจากชนิดชั่วคราว 2 ปี เป็นชนิด 5 ปี กับ การต่อใบอนุญาตจากชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ คือ


1. การเปลี่ยนใบอนุญาตจากชนิดชั่วคราว 2 ปี เป็นชนิด 5 ปี  ต้องใช้ใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานประกอบการยื่นเอกสาร ในขณะที่การต่อใบอนุญาตจากชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี ไม่ต้องใช้
2. การเปลี่ยนใบอนุญาตจากชนิดชั่วคราว 2 ปี เป็นชนิด 5 ปี  จะไม่มีการอบรมภาคทฤษฎี ในขณะที่การต่อใบอนุญาตจากชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี จะต้องเข้าอบรมภาคทฤษฎีเป็นเวลา 1 ชม. ค่ะ

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

การต่ออายุใบขับขี่ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ เนื่องจากในปัจจุบันใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพนั้นถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราว (2 ปี) และแบบ 5 ปี มาอัปเดตกันสักหน่อยดีกว่าว่า "เอกสารต่อใบขับขี่ปี 2565" จะต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง และมีค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ ทั้งหมดเท่าไหร่

การต่ออายุใบขับขี่ จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

 เอกสารต่อใบขับขี่ ชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่ชั่วคราวอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง
  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน 

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue>> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ประกอบไปด้วย

    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ

    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก

    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง

    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ

  3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
  4. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการอบรม, ทดสอบข้อเขียน และทดสอบขับรถ

การต่ออายุใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

เอกสารต่อใบขับขี่ ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง 
  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

  1. ปี 2565 กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ //dlt-elearning.com/
  2. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

    >> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

  3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก
    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง
    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ

  4. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
  5. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการทดสอบข้อเขียน, การสอบขับรถ และใบรับรองแพทย์ที่ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน

วิธีทำใบขับขี่ใหม่ 2565 (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์)

เอกสารที่ต้องใช้ทำใบขับขี่ใหม่ (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์)

  1. บัตรประชาชนตัวจริง
  2. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ 

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue 

    >> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

  2. วันที่ 1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย(ตาบอดสี สายตากว้าง-ลึก ความไวเท้า)
  3. อบรม 5 ชั่วโมง
  4. ทดสอบข้อเขียน จองคิวสอบขับรถ
  5. วันที่ 2 ทดสอบขับรถ และทำใบอนุญาต
  6. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 305 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 205 บาท

การต่อใบขับขี่ออนไลน์ กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยไม่ต้องเสียเวลาไปอบรมที่ขนส่ง ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อเข้ารับการอบรมออนไลน์ได้ โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้

  • ขั้นตอนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565 เสร็จไวภายใน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องไปขนส่ง

ลงทะเบียนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

  1. ลงทะเบียนในเว็บไซต์ //www.dlt-elearning.com/
  2. ดูวีดีโออบรม และตอบคำถามให้ถูกต้อง 3 ข้อ แล้วกรอกข้อมูลอีกรอบ
  3. กดตรวจสอบสถานะ 

ต่อใบขับขี่ออนไลน์

ทั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แล้วเสร็จสามารถบันทึกภาพหน้าจอเพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกเพื่อเข้ารับการทำใบขับขี่ตามวันเวลาที่นัดหมายต่อไป โดยสามารถทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งได้

ข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การต่อใบขับขี่

  • 5 ขั้นตอนจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
  • วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

ต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีต้องใช้อะไรบ้าง

เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง ใบขับขี่เดิม บัตรประชาชนฉบับจริง ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ต่อใบขับขี่ 5 ปีใช้เงินกี่บาท

2. เตรียมเงินมาต่อใบขับขี่ อัตราค่าธรรมเนียมใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จะต้องจ่ายค่าคำขอ 5 บาท ค่าใบขับขี่ 250 รวมเป็น 255 บาท ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปีเป็น 5 ปี เราต้องจ่ายค่าคำขอ 5 บาท รวมกับค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ราคา 500 บาท รวมเป็น 505 บาท

ต่อใบขับขี่ จาก2ปีเป็น5ปี 2565 กี่บาท

ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2 ปี ชำระ 100 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 105 บาท ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปี ชำระ 250 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 255 บาท ใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี ชำระ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท รวม 505 บาท

ต่อ ใบขับขี่ จาก 2 ปี เป็น 5 ปี ล่วงหน้าได้กี่เดือน

1. ผู้ขับขี่สามารถต่ออายุใบขับขี่ก่อนหมดอายุได้ล่วงหน้า 3 เดือน หรือภายใน 1 ปีหลังจากหมดอายุไปแล้วครับ 2. หากใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่กันเลยทีเดียว โดยการสอบข้อเขียน ข้อสอบมีอยู่ 50 ข้อ ผู้ขับขี่จะต้องตอบให้ถูก 45 ข้อจาก 50 ข้อ ถึงจะผ่านครับ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก