คอมเพรสเซอร์แอร์อินเวอร์เตอร์

ในส่วนของแอร์ที่มีอินเวอร์เตอร์ ระบบจะเร่งความเร็วมอเตอร์คอมเพรสเซอร์เมื่อต้องการทำความเย็นตามที่กำหนด และลดรอบมอเตอร์ลงเมื่ออุณหภูมิห้องเย็นกว่าที่กำหนดเล็กน้อย ซึ่งคอมเพรสเซอร์ยังคงทำงานโดยลดรอบลงจนอยู่ในสถานะแทบจะหยุดหมุนเลยก็ว่าได้ และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ตั้งไว้ประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส คอมเพรสเซอร์จะค่อยเร่งการทำงานมากขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิลง จึงทำให้อุณหภูมิโดยรวมในห้องใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่ผู้ใช้งานตั้งไว้มากกว่าแอร์แบบไม่มีอินเวอร์เตอร์ เหมาะสำหรับห้องที่เปิดใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ห้องที่ต้องการความเงียบ และต้องการรักษาอุณหภูมิห้องอย่างสม่ำเสมอ เช่น ห้องนอน สถานที่ทำงาน ออฟฟิศ ห้องหนังสือ เป็นต้น

ข้อดี แอร์อินเวอร์เตอร์

แอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์จะมีการประพยัดพลังงานมากกว่า เนื่องจากเมื่อความเย็นมาถึงจุดที่กำหนด คอมเพรสเซอร์จะทำงานช้าลง เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนระบบจึงไม่ต้องรีเซ็ตระบบใหม่ เพียงแต่เพิ่มรอบการทำงานมากขึ้น ซึ่งระบบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ของแอร์อินเวอร์เตอร์นั้นจะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นด้วย

นอกจากประเด็นเรื่องของความประหยัดแล้ว แอร์ที่มีระบบอินเวอร์เคอร์ยังมีความเวียบมากกว่าแอร์ธรรมดา เนื่องจากแอร์อินเวอร์เตอร์ใช้วิธีการลดรอบการทำงานลงในขณธที่ความเย็นคงที่แล้ว เมื่อมีการเปลี่ยนอุณหภูมิแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์เพียงแค่เพิ่มรอบการทำงานเท่านั้น เมื่อเทียบกับแอร์ธรรมดาที่จะรีเซ็ตการทำงานใหม่เมื่ออุณหภูมิในห้องเปลี่ยนจะทำให้เกิดเสียงดัง เพราะฉะนั้นแอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์จึงเงียบกว่ามาก

การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์

หลักการเลือกซื้อแอร์อินเวอร์เตอร์นั้นไม่ต่างกับหลักการเลือกซื้อแอร์ธรรมดาทั่วไปมากนัก นั่นคือควรเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง เพื่อที่จะได้ทำความเย็นได้ทั่วถึงและไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป นอกจากนี้แอร์แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์จะมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอื่นๆ ฟังก์ชั่นการใช้งานเสริมที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานให้ดีเพื่อจะได้เลือกแอร์อย่างเหมาะสม ที่สำคัญควรคำนึงถึงความประหยัดไฟด้วย และข้อควรคำนึงอีกประการคือการบริการหลังการขาย ควรเลือกซื้อจากแบรนด์หรือร้านที่มีบริการหลังการขายที่ดี เพราะในการใช้งานอาจเกิดปัญหาอยู่บ้าง บริการหลังการขายที่ดีจะช่วยลดความยุ่งยากและช่วยแก้ปัญหาการใช้งานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

หากท่านกำลังสงสัยว่าแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (inverter) คืออะไร แล้วมันต่างจากระบบธรรมดา (fix speed, non-inverter) อย่างไร บทความนี้เราจะมาอธิบายกันครับ

-----

เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมัยนี้เครื่องปรับอากาศมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ออกมาเยอะมาก จนแอร์ระบบธรรมดาแทบจะไม่มีออกมาขายกันเลย เช่นแอร์ไดกิ้นแบบติดผนังที่จะมีแค่ตัว SMASH วางจำหน่าย แต่ถ้าเป็นระบบ Inverter จะมีตั้งแต่ Super Smile, Super Smart ให้ท่านได้เลือกตามงบประมาณและความต้องการ

คำถามก็คือทำไมระบบนี้มันถึงได้รับความนิยมนักล่ะ มาดูกันครับ

ต้องท้าวความกันนิดนึงก่อนจะไปไกล ผมขอสรุปสั้น ๆ ให้ก่อนเพื่อให้เข้าใจคอนเซปต์ของทั้งสองระบบนะครับ ตามข้อความด้านล่างนี้

โดยแอร์ระบบ inverter นั้นจะสามารถควบคุมความเร็วของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์แอร์ได้หรือมีการทำงานแบบแปรผัน

พูดแบบตรงไปตรงมาก็คือ ถ้าห้องร้อน (เช่นตอนเปิดแอร์ใหม่ ๆ) มอเตอร์คอมเพรสเซอร์แอร์ (ตัวที่ตั้งอยู่นอกบ้าน นอกอาคาร คอยล์ร้อน แล้วแต่ท่านจะเรียก) ก็จะทำงานเต็มที่เพื่อให้ห้องเย็นเร็วที่สุด แล้วก็จะค่อย ๆ ลดการทำงานลงหรือหมุดช้าลงเมื่ออุณหภูมิห้องลดลง (ห้องเย็นขึ้น) จนบางครั้งพัดลมก็อาจจะหมุนเบา ๆ ช้า ๆ เนิบ ๆ แต่หมุนอยู่ไม่ตัดการทำงาน

ส่วนแอร์ระบบธรรมดา (fix speed, non-inverter) มอเตอร์คอมเพรสเซอร์แอร์ จะทำงาน 2 แบบเท่านั้น ก็คือ ทำงาน / ไม่ทำงาน แอร์ระบบธรรมดาจะทำงานจนกว่าอุณหภูมิห้องจะลดลงกว่าค่าที่ตั้งไว้ 2-4 องศา แล้วจึงตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ เมื่อห้องกลับมาร้อนอีกครั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะเริ่มการทำงานใหม่ เป็นแบบนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ

-----

ละด้วยรูปแบบการทำงานแบบแปรฝันนั่นเองที่ทำให้แอร์ระบบ inverter ประหยัดไฟ มากกว่าเพราะไม่ต้องตัด ๆ ต่อ ๆ การทำงานของคอมเพรสเซอร์

และแอร์ระบบ inverter ตัวคอมเพรสเซอร์จะทำงานได้ เงียบมากกว่า (เพราะไม่มีเสียงคอมแอร์ตัด) แต่ก็จะแลกมาด้วยระบบที่ซับซ้อนและราคาที่แพงกว่า

หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับคำว่าแอร์เย็นฉ่ำตอนใช้แอร์ระบบธรรมดา นั้นเป็นเพราะแอร์ระบบธรรมดาจะตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิของห้องต่ำกว่าที่ตั้งไว้ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส เช่นตั้งรีโมทไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส แอร์จะตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิห้องอยู่ที่ประมาณ 21-23 องศาเซลเซียส จึงทำให้ท่านรู้สึกว่าแอร์ระบบธรรมดานั้นเย็นฉ่ำ

แต่ระบบ inverter จะใช้วิธีการ เร่ง-ลด การทำงานของคอมเพรสเซอร์แทน ทำให้อุณหภูมิที่ได้นั้น แตกต่างจากที่ตั้งในรีโมทไว้ประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส

ละด้วยระบบที่ว่านี้เองจึงทำให้เกิดข้อสรุปว่า แอร์ระบบ inverter นั้นจะเหมาะสมกับห้องที่ต้องการอุณหภูมินิ่ง ๆ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นต้น แต่แอร์ระบบธรรมดา non-inverter จะเหมาะกับห้องที่ไม่สนเรื่องอุณหภูมิมากนัก เช่น ออฟฟิศ เป็นต้น เพราะถ้าอุณหภูมิห้องเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ เช่นมีคนเปิดปิดประตูบ่อย ๆ ตัวตรวจจับอุณหภูมิก็จะมองว่าห้องยังไม่เย็นเสียที ตัวคอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานเต็มที่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะไม่ต่างกับแอร์ระบบธรรมดาเลย

เนื่องจากระบบควบคุมที่ซับซ้อนของตัวระบบเอง ทำให้แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์นั้นมีราคาที่แพงกว่าแอร์ระบบธรรมดา (ห่างกันเริ่มต้นที่ประมาณ 4 พัน บาท แต่จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและยี่ห้อ) เมื่ออะไหล่เสีย ค่าซ่อมแซมหรือค่าเปลี่ยนอะไหล่ก็จะมากกว่า แต่ค่าบริการล้างแอร์นั้นจะไม่แตกต่างกับระบบธรรมดาครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นตลาดแอร์บ้านมีการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตยี่ห้อต่าง ๆ เรียกได้ว่าหนักหน่วง เราก็อาจจะเห็นแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ที่ราคาถูกจนเกือบจะเท่ากับแอร์ระบบธรรมดาของยี่ห้อเดียวกัน ที่ราคาลดลงอาจจะเกิดจากการตัดลดคุณสมบัติบางประการหรือลด-เปลี่ยนคุณภาพของวัสดุ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนคอยล์เย็นแบบท่อทองแดงเป็นท่ออลูมิเนียม หมายเหตุไว้ว่าท่ออลูมิเนียมที่ใช้กับแอร์สมัยนี้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นจนเกือบจะคล้ายกับท่อทองแดงแล้วครับ

ถ้าห้องของท่านมีความแปรผันของอุณหภูมิสูง เช่นออฟฟิศที่มีคนเปิดประตูเข้าออกตลอดเวลา การใช้แอร์ระบบ inverter ก็จะดูไม่ได้มีผลรับอะไรมากกว่า เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์ต้องทำงานเต็มที่ตลอดเวลา แนะนำให้ใช้แอร์ระบบธรรมดาครับ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อและซ่อมแอร์กรณีเกิดปัญหาด้วย

แต่ถ้าห้องของท่านเป็นห้องปกติทั่วไปที่ใช้ตามบ้าน (ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องรับแขก เป็นต้น) เราขอแนะนำให้ท่านใช้เครื่องปรับอากาศระบบ inverter เนื่องจากความประหยัดไฟและความเงียบของคอมเพรสเซอร์นั่นเอง

สำหรับลูกค้าสยามเจริญแอร์หรือท่านผู้อ่านหลายๆท่านที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อแอร์ระบบ inverter ดี บทความนี้น่าจะตอบโจทย์การใช้งานของท่านคร่าว ๆ แล้ว ว่าจริง ๆ แล้วระบบ inverter นั้นเหมาะสมกับการใช้งานของท่านไหม หรือท่านสามารถ ติดต่อเรา เพื่อสอบถามได้เลยครับ 🙂