วิธี แก้ปัญหาการเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียน

    5. หากมีอาการหนัก ไม่สามารถห่างมือถือได้ ควรปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งถ้าใครมีอาการหนักมาก ๆ ทางการแพทย์อาจจะใช้วิธีการรักษาแบบ Cognitive Behavior Therapy (CBT) ที่นิยมใช้รักษาคนมีอาการวิตกกังวล และอาการกลัวในระดับต่างๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนแปลงความเชื่อเฉพาะตัว ให้เรารู้สึกเป็นอิสระมากขึ้นเมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือ

บริษัทใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และความพึงพอใจของท่าน เพื่อให้เว็บไซต์สามารถใช้งานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการเข้าใช้เว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายคุกกี้ของบริษัท อ่านเพิ่มเติม

เด็กสมัยนี้เริ่มมีโทรศัพท์ติดตัว และทำให้เด็กๆส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจเรียน เพราะเดี๋ยวนี้โลกโซเชียลมีอะไรน่าสนใจมากมาย จนทำให้คุณครูในห้องกลายเป็นอากาศ ไม่มีบทบาท จนคุณครูต้องหนักใจ เพราะเด็กๆไม่ตั้งใจเรียน จึงคิดไอเดียเพื่อจัดการกับปัญหาครั้งนี้

 

 

เมื่อวานมานี้(9 เม.ย.) ได้มีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์วิธีกำจัดเด็กไม่ตั้งใจเรียน ติดมือถือติดโซเชียล เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว เด็กๆต้องกลับมาเรียน แต่ก็ต้องเจอปัญหานี้อยู่ตลอด จนมีไอเดียขึ้นมาว่า ก็ยึดมันซะเลย แต่เพื่อป้องกันไม่ให้หายก็ต้องเชฟหน่อย
 

 

จากเฟชบุ๊ก "pornporm poolsara" ได้ออกมาโพสต์ภาพขณะที่กำลังติดซองใส่โทรศัพท์หน้าห้อง หลังพบเจอปัญหาเด็กไม่ตั้งใจเรียน แอบเล่นโทรศัพท์อยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นปัญหา ซึ่งคุณครูคนดังกล่าว ก็ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า 

 


"สุดจัดในย่าน​นนทบุรี​ ก็โรงเรียนวัดเขมานี้ละ​ การเรียนในชั้นเรียน​ จะไม่มีการตีป้อมไม่มีการแอบเล่นโทรศัพท์ใต้โต๊ะ​ ให้กวนใจ​ เปิดเทอมใหม่ มีซองใส่โทรศัพท์มือถือ​ ก่อนเข้าห้อง​ นะจร้า​ เด็กๆๆ​ เราจะมีสมาธิในการเรียนกันมากขึ้น​ หมดคาบเรียนค่อยมารับคืนจร้า​ สนับสนุนโดย​ ดร.จรุญ​ จารุสาร​ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม​"

 

 

อย่างไรก็ตามไอเดียนี้ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์นะค่ะ คุณครูคนไหนจะเอาไปทำบ้างก็ลองเอาไปทำดูนะค่ะ เพื่อที่เด็กๆจะได้ตั้งใจเรียนมากขึ้น และก็ไม่ต้องกลัวหายด้วย เพราะอยู่ซะหน้าห้อง ใครจะหยิบก็ต้องเห็นแน่ๆ แถมหมดปัญหาแอบเล่นเกมใต้โต๊ะด้วย

แต่หลังจากที่ให้เด็กฝากมือถือไว้ที่ล็อคเกอร์โทรศัพท์ ปรากฏว่าบรรยากาศในการเรียนดีขึ้น ถึงแม้ว่าช่วงแรก ๆ เด็กบางคนจะลืมปิดมือถือ แต่ตอนนี้ทุกคนก็ปฏิบัติจนกลายเป็นกิจวัตรประจำไปแล้ว

 

ล็อคเกอร์โทรศัพท์มือถือนี้ ทำมาจากผ้าเป็นช่องๆ และวางไว้หน้าชั้นเรียน โดยนักศึกษาจะต้องนำโทรศัพท์มือถือของตัวเองใส่ไว้ในช่องตามเลขที่ที่เขียนไว้เรียน ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยครับ หากจะนำมาใช้ในบ้านเรา

 

ที่มา: kapook

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

Facebook

Twitter

  • tweet

พี่บิ๊ก

อัพเดทเรื่องราวของสถาบัน และหลักสูตรที่น่าสนใจในต่างประเทศ พร้อมแนะนำเทคนิคใช้ชีวิตต่างแดนแบบเจ๋งๆ คอยติดตามได้เลย...

โทรศัพท์มือถือได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารของคนเรา แต่หลายคนยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาได้หรือไม่?

การที่มีโทรศัพท์มือถือจะทำให้นักเรียนถูกรบกวนสมาธิในชั้นเรียน เด็ก ๆ อาจจะใช้โทรศัพท์ส่งข้อความในห้องเรียน บางคนอาจใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปในการโกงข้อสอบ บางคนอาจจะเล่นเกม หรือดูวีดีโอ แทนที่จะตั้งใจเรียน

เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ครูผู้สอน ตลอดจนผู้ปกครองต่างพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมดูแลการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียน

ที่รัฐออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างการเรียนการสอน แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับกิจกรรมในห้องเรียนต่าง ๆ รวมถึงในเรื่องของสุขภาพและเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ด้วย

ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ผ่านร่างกฎหมายในปีพ.ศ. 2561 ว่าด้วยการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นอายุของนักเรียนระดับมัธยมปลาย

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ลงนามในกฎหมายฉบับใหม่ ที่ว่าทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชนสามารถห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในชั้นเรียนและในโรงเรียนได้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ไม่ได้ระบุว่าจะต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้ามาในโรงเรียนโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวยังกำหนดให้เขตการศึกษาต่าง ๆ โรงเรียนเอกชน และสำนักงานการศึกษา พัฒนานโยบายโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันหรือจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียนที่โรงเรียน แต่ก็มีข้อยกเว้นซึ่งรวมถึงเหตุฉุกเฉิน หรือหากมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของนักเรียน

โรงเรียนมัธยมหนึ่งแห่งในเขต Silicon Valley ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีปัญหาร้ายแรงกับการที่นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือ

Joanne Sablich ครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า การที่นักเรียนที่ใช้โทรศัพท์ในชั้นเรียนเป็นปัญหาใหญ่ พวกครั้งมักจะคอยเช็คโทรศัพท์ ส่งข้อความ เข้าสื่อสังคมออนไลน์ จนทำให้เธอต้องคอยริบโทรศัพท์จากนักเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า

Adam Gelb รองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน กล่าวว่า นักเรียนบางคนใช้เวลาบนโทรศัพท์มากถึงวันละ 11 หรือ 12 ชั่วโมง ดังนั้น โรงเรียนจึงต้องหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีอื่นในการควบคุม

อย่างเช่น โรงเรียนมัธยม San Mateo High School ที่กำหนดให้นักเรียนทุกคนจะต้องนำโทรศัพท์ของตนใส่ไว้ในกระเป๋าเล็ก ๆ ที่ล็อคด้วยแม่เหล็ก โดยกระเป๋านี้มีชื่อว่า Yondr Pouch พอเลิกเรียนนักเรียนก็จะปลดล็อคกระเป๋านี้ด้วยอุปกรณ์ปลดล็อค

Yondr Pouch ถูกนำมาใช้ตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในสหรัฐฯ และที่ยุโรป โดยมีค่าใช้จ่ายราวปีละ 20,000 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งโรงเรียน หรือ 12 ดอลล่าร์ต่อนักเรียนหนึ่งคน

คุณครู Joanne Sablich บอกว่า เธอดีใจที่เห็นนักเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น แทนที่จะจ้องมองแต่ที่โทรศัพท์ของตัวเอง

ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ อาจเลือกวิธีที่ง่ายกว่า เช่น การห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน หรือบางแห่งห้ามใช้โทรศัพท์ทั้งวันรวมถึงเวลาพักกลางวันด้วย

เขตการศึกษา Saint Marys ในรัฐเพนซิลเวเนีย เลือกที่จะไม่ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่ง Brian Toth ผู้กำกับการเขตชนบทเล็ก ๆ แห่งนี้ บอกกับ VOA ว่า คุณครูแต่ละคนสามารถตัดสินใจได้ว่าจะจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียนหรือไม่ และเมื่อใด

Toth กล่าวว่า นักเรียนต่างเติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของครูที่จะสอนให้พวกเขาสามารถใช้โทรศัพท์ให้เป็นเครื่องมือในห้องเรียนได้อย่างเหมาะสม และว่า ทางโรงเรียนยังสอนนักเรียนเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้โทรศัพท์มือถือกับสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนการใช้อินเทอร์เน็ตอีกด้วย

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาสำหรับเด็ก ๆ ตราบใดที่เราสามารถสอนพวกเขาให้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างมีความรับผิดชอบ และอย่ากลัวที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการช่วยนักเรียน

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก