Iphone 12 pro ram เท่าไหร่

หลังจากเปิดตัว iPhone 12 ทุกรุ่นไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาที่ผ่านมา ตอนนี้ก็มีข่าวสเปคต่างๆ หลุดออกมาเพิ่มเติมฮะ โดยเป็นรายงานจาก MacRumors เว็บไซต์ดังด้านไอทีว่า iPhone 12 และ iPhone 12 mini จะมาพร้อม RAM 4GB ส่วน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมาพร้อม RAM 6GB ซึ่งการเพิ่มขนาดของ RAM ใน iPhone 12 Pro ก็เพื่อให้รองรับชิพ A14 Bionic และรองรับประสิทธิภาพต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นของเครื่องนั่นเองฮะ

นอกจากนี้ iPhone 12 ทุกรุ่นยังมาพร้อมมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 แบบเดียวกับ iPhone 11 เพียงแต่ระดับความลึกของการกันน้ำในแต่ละรุ่นจะไม่เท่ากัน ตามนี้ฮะ

แต่ถึงแม้จะกันน้ำกันฝุ่น เพื่อนๆ ก็ไม่ควรนำ iPhone ไปทดสอบด้วยการแช่หรือจุ่มน้ำ นำติดตัวลงว่ายน้ำ อาบน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำ อบซาวน่า อบไอน้ำ รวมทั้งนำไปในที่ที่มีสภาวะความชื้นสูงโดยไม่จำเป็นนะฮะ ด้วยความปรารถนาดีจาก ตี๋โอและทีมงานอาตี๋รีวิวฮะ

Tag : #News #iphone #iOS #iOS14 #Apple #แอปเปิ้ล #ไอโฟน #ข่าว #ข่าวมือถือ #รีวิว #รีวิวมือถือ #AppleEvent #iOS14 #AppleEventHiSpeed #AppleEventHiSpeed2020 #iPhone12

เรื่องเด่นที่ต้องอ่านต่อ:

Apple ไม่ได้ให้ความสำคัญในการเปิดเผยสเปก RAM ของ iPhone เท่าไรนัก ทำให้เราไม่เห็นขนาดความจำ RAM ของ iPhone ทุกรุ่น ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ทางการของ Apple แต่วันนี้เราจะมาเปิดเผยขนาดความจำ RAM ของ iPhone ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นแรก จนถึง iPhone 13 ในปัจจุบัน

เหตุผลหลักที่ Apple ไม่ได้ให้ความสำคัญกับขนาดของ RAM มาจากประสิทธิภาพของ iPhone ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ แม้มีความจำ RAM น้อยกว่า ตัวอย่างเช่น การทดสอบของ PhoneBuff ในปี 2019 พบว่า iPhone 11 Pro Max ที่มี RAM 4GB มีความเร็วใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy Note 10+ ที่มี RAM 12GB

  • iPhone 13 Pro และ 13 Pro Max – 6GB (LPDDR4X)
  • iPhone 13 และ 13 mini – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone SE รุ่นที่ 3 – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max – 6GB (LPDDR4X)
  • iPhone 12 และ 12 mini – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone SE รุ่นที่ 2 – 3GB (LPDDR4X)
  • iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone 11 – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone XR – 3GB (LPDDR4X)
  • iPhone XS และ XS Max – 4GB (LPDDR4X)
  • iPhone X – 3GB (LPDDR4X)
  • iPhone 8 Plus – 3GB (LPDDR4X)
  • iPhone 8 – 2GB (LPDDR4X)
  • iPhone 7 Plus – 3GB (LPDDR4)
  • iPhone 7 – 2GB (LPDDR4)
  • iPhone SE – 2GB (LPDDR4)
  • iPhone 6S และ 6S Plus – 2GB (LPDDR4)
  • iPhone 6 และ 6 Plus – 1GB (LPDDR3)
  • iPhone 5S – 1GB (LPDDR3)
  • iPhone 5C – 1GB (LPDDR2)
  • iPhone 5 – 1GB (LPDDR2)
  • iPhone 4S – 512MB (LPDDR2)
  • iPhone 4 – 512MB (LPDDR)
  • iPhone 3GS – 256MB (LPDDR)
  • iPhone 3G – 128MB (LPDDR)
  • iPhone รุ่นแรก – 128MB (LPDDR)

ทั้งนี้ บริษัทวิจัย TrendForce คาดว่า iPhone รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวใรเดือนกันยายน 2022 จะมีความจำ RAM ดังต่อไปนี้

  • iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max – 6GB (LPDDR5)
  • iPhone 14 และ 14 Max – 6GB (LPDDR4X)

ที่มา – 9to5Mac

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากจะทราบว่า iPhone รุ่นใหม่จาก Apple อย่าง iPhone 13 ถูกใส่ RAM มากับตัวเครื่องให้เท่าไหร่ เพิ่มเติมมาจาก iPhone 12 เพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทาง Apple ไม่ได้บอกว่าใช้งานหรือใส่ RAM ไปเท่าไหร่กับ iPhone แต่จะมีคนที่วิเคราะห์หรือนำตัวเครื่องมาแกะดูให้เรารู้ว่าตัวเครื่องจริงๆใช้งาน RAM เท่าไหร่ ตอนนี้ iPhone 13 ก็มีรายละเอียดเรื่อง RAM ออกมาแล้ว

แรมของ iPhone 13

  • iPhone 13 mini แรม 4GB
  • iPhone 13 แรม 4GB
  • iPhone 13 Pro แรม 6GB
  • iPhone 13 Pro Max แรม 6GB

ถ้าหลายคนทราบสเปคของ iPhone 12 รุ่นก่อนหน้านี้น่าจะรู้ดีว่าสเปคเรื่องของ RAM ของ iPhone 13 นี้เหมือนกับ iPhone 12 เพราะคราวนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องแรม ซึ่งหลายคนก็คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ RAM

สเปคอื่นๆของ iPhone 16

มีอะไรใหม่ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Mini

  • มีให้เลือก 5 สีด้วยกัน สีแดง, สตาร์ไลท์, มิดไนท์, น้ำเงิน, ชมพู (แบบใหม่)
  • ความจุเริ่มต้น 128GB, 256GB และ 512GB
  • จอภาพ Super Retina XDR จอภาพ OLED ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซลที่ 476 ppi 
  • ชิป A15 Bionic CPU แบบ 6‑core ใหม่ ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ GPU แบบ 4‑core ใหม่ Neural Engine แบบ 16‑core ใหม่
  • ดีไซน์เดิม รองรับ การทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น มาตรฐาน IP68
  • รอยบากเล็กลง
  • SIM คู่ (Nano‑SIM และ eSIM)
  • แบตเตอรี่อึดขึ้น 1.5 ชั่วโมงสำหรับ iPhone 13 mini และ 2.5 ชั่วโมงสำหรับ iPhone 13
  • จอแบบเดิมความว่างเพิ่มขึ้น 28% ประหวัดแบตฯมากขึ้น
  • ใช้ชิป A15 Bionic CPU แบบ 6‑core ใหม่ ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ 
  • GPU แบบ 4‑core ใหม่ Neural Engine แบบ 16‑core ใหม่
  • กล้องหลัง 2 ตัวแนวทแยง

    ระบบกล้องคู่ ความละเอียด 12MP: กล้องไวด์และอัลตร้าไวด์​ไวด์: รูรับแสงขนาด ƒ/1.6อัลตร้าไวด์: รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120°ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่าซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่าโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึกการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์,แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์)ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ (ไวด์)ชุดเลนส์ 7 ชิ้น (ไวด์) และชุดเลนส์ 5 ชิ้น (อัลตร้าไวด์)แฟลช True Tone พร้อมคุณสมบัติสโลว์ซิงค์พาโนรามา (สูงสุด 63MP)ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์Focus Pixels 100% (ไวด์)โหมดกลางคืนDeep FusionHDR อัจฉริยะ 4คุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย”บันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้างการปรับแก้เลนส์ (อัลตร้าไวด์)การแก้ไขตาแดงขั้นสูงระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติโหมดภาพถ่ายต่อเนื่องแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่ายรูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEG

  • การเปิดตัวมีการโชว์ความสามารถของการทำหน้าชัดหลังเบลอ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ชูโรงเลยก็ว่าได้ ฟีเจอร์ที่สามารถเบลอหรือปรับให้จุดได้เองโดยอัตโนมัติ (น่าจะใช้ AI) หรือแตะเพื่อให้โฟกัสได้ หรือแตะสองครั้งเพื่อคงที่ไม่ให้ปรับอัตโนมัติ

มีอะไรใหม่ใน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max

  • มี 4 สีให้เลือก กราไฟต์, ทอง, เงิน, เซียร์ร่าบลู สีฟ้าแบบใหม่
  • ความจุเริ่มต้น 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
  • จอภาพ Super Retina XDR พร้อม ProMotion จอภาพ OLED ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi แบบ Pro Motion 120Hz
  • เทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz
  • ชิป A15 Bionic CPU แบบ 6‑core ใหม่ ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ GPU แบบ 5‑core ใหม่ Neural Engine แบบ 16‑core ใหม่
  • ดีไซน์เดิม รองรับ การทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น มาตรฐาน IP68
  • รอยบากเล็กลง
  • กล้องถ่ายภาพมาโครได้ ProMotion, ซูม 3 เท่า ระบบอื่นๆ

    ระบบกล้องระดับโปร ความละเอียด 12MP: กล้องเทเลโฟโต้ ไวด์ และอัลตร้าไวด์เทเลโฟโต้: รูรับแสงขนาด ƒ/2.8ไวด์: รูรับแสงขนาด ƒ/1.5อัลตร้าไวด์: รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และมุมมองภาพ 120°ซูมเข้าแบบออปติคัล 3 เท่า ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า และช่วงซูมแบบออปติคัล 6 เท่าซูมดิจิทัลได้สูงสุด 15 เท่าภาพถ่ายบุคคลในโหมดกลางคืนที่ทำได้โดยอาศัยสแกนเนอร์ LiDARโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึกการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์)ระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่แบบออปติคัล (เทเลโฟโต้และไวด์)ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ (ไวด์)ชุดเลนส์ 6 ชิ้น (เทเลโฟโต้และอัลตร้าไวด์) และชุดเลนส์ 7 ชิ้น (ไวด์)แฟลช True Tone พร้อมคุณสมบัติสโลว์ซิงค์พาโนรามา (สูงสุด 63MP) ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์ Focus Pixels 100% (ไวด์)โหมดกลางคืน Deep FusionHDR อัจฉริยะ 4คุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย”การถ่ายภาพมาโครApple ProRAWบันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้างการปรับแก้เลนส์ (อัลตร้าไวด์)การแก้ไขตาแดงขั้นสูงแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่ายระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติโหมดภาพถ่ายต่อเนื่องรูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEG

  • แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม 2.5 ชั่วโมงสำหรับ iPhone 13 Pro Max และ 1.5 ชั่วโมง สำหรับ iPhone 13 Pro
  • Prores Video ปรับวีดีโอหน้าชัดหลังเบลอหลังถ่ายได้ (ฟีเจอร์นี้ยังไม่มีตอนจำหน่ายครั้งแรก)

iPhone 13 จะวางจำหน่ายในประเทศไทย 8 ตุลาคม จะเปิดให้จองวันที่ 1 ตุลาาคม

  • iPhone
  • iPhone 13
  • iPhone 13 Pro

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก