ดังนั้นการขอใบรับรองแพทย์ ทําใบขับขี่ หากคุณไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงตามที่กรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาได้ประกาศ ก็สามารถขอใบรับรองได้เลย
ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ 2564 ขอที่ไหน? ราคาเท่าไหร่? ทั้งนี้ราคาของการขอใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่นั้น ไม่มีราคาตายตัวสักเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับคลินิกแต่ละที ตลอดจนโรงพยาบาลแต่ละทีนั้นเอง แต่บอกได้ว่าราคาของการขอใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50 บาท ขึ้นไปก็ว่าได้
ข้อควรระวังเพิ่มเติมหลังจากได้รับใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่มาแล้วก็คือ เมื่อนำไปใช้ทำใบขับขี่ ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกจนถึงวันที่ขอทำใบขับขี่ หากไม่ใช่รูปแบบตามที่ขนส่งกำหนด หรือมีอายุเกินจากที่ระบุไว้ ถือว่าใช้ไม่ได้
ตามปกติของการขอใบรับรองแพทย์ ทําใบขับขี่ สถานพยาบาลบางแห่งอาจจะให้ตรวจตาบอดสีเพิ่มเติมอีกด้วย เนื่องจากหากสายตาของคุณมีความผิดปกติกับสีสันแล้ว การขับรถยนต์ไปเจอไฟจราจร ได้แก่ สีแดง, สีเหลือง และสีเขียว ก็อาจสร้างความสับสนได้เนื่องจากมองไม่เห็นสีที่ถูกต้องนั้นเอง อย่างไรก็ตามทางกรมขนส่งก็จะมีการทดสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่งอยู่ในเรื่องตาบอดสี
เมื่อเตรียมทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน สำเนาบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ตัวจริง ทะเบียนบ้าน และใบรับรองแพทย์ สามารถเดินทางไปสำนักงานขนส่งแถวบ้านคุณได้เลย โดยในปัจจุบันอาจต้องลงทะเบียนจองคิวในรูปแบบออนไลน์เสียก่อน มีให้เลือกทั้งเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th และแอปพลิเคชันชื่อว่า DLT smart queue
เมื่อสามารถจองคิวการทำใบขับขี่ผ่านรูปแบบออนไลน์ได้แล้ว สิ่งที่เหลือก็เตรียมตัวให้พร้อม หากเป็นการทำใบขับขี่ครั้งแรก จะต้องพบเจอการอบรมที่มีระยะเวลาตามประเภทใบขับขี่นั้น ๆ และยังต้องเตรียมตัวทำข้อสอบใบขับขี่ด้วย โดยในส่วนข้อสอบแบบทฤษฎีเรียกได้ว่าเป็นจุดยากสุดในการทำข้อสอบก็ว่าได้ ซึ่งมีการระบุไว้ว่า ต้องทำข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ และสามารถผิดได้เพียง 5 ข้อเท่านั้น เรียกว่าคะแนนต่ำสุดที่จะสอบผ่านก็คือ 45 คะแนน เลยทีเดียว
หลังจากสอบทางทฤษฎีเสร็จเรียบร้อย สิ่งสุดท้ายที่ต้องได้รับการทดสอบก็คือ สอบภาคสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งมีรูปแบบเป็นฐานต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ความยากง่ายในการทดสอบขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ขับขี่เพียงเท่านั้น
สำหรับคนที่ต้องการต่อใบขับขี่เพียงเท่านั้น หากใบขับขี่ยังมีอายุไม่ขาดเกินตามที่สำนักงานขนส่งกำหนดไว้ จะไม่มีขั้นตอนการสอบต่าง ๆ แต่อย่างใด มีเพียงแค่ทดสอบอ่านสี ทดสอบเหยียบเบรก ทดสอบการกะระยะ เพียงเท่านั้น ในส่วนที่เหลือจะเป็นเพียงการนั่งฟังอบรมระยะเวลา 1 ชั่วโมง และไปถ่ายรูปรับบัตรใหม่ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้น