08 เมษายน 2564, 15:16น.
“อาการปวดท้อง” นับเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคกระเพาะ ท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ฯลฯ และเมื่อมีอาการปวดท้องขึ้นมาหลายๆ คนมักจะใช้ยาธาตุน้ำแดง และยาธาตุน้ำขาวในการบรรเทาอาการเสมอ
แต่รู้หรือไม่ว่ายาทั้ง 2 ชนิดนี้ใช้แก้อาการปวดท้องในกรณีที่ต่างกัน ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงเป็นผู้ออกมาอธิบายสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เลือกใช้งานได้เหมาะสม
1. “ยาธาตุน้ำแดง” มีส่วนผสมของสารลดกรดสารที่ช่วยกระตุ้นการระบาย และมีสารที่ช่วยในการขับลม จึงใช้สำหรับลดกรดในทางเดินอาหาร มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยขับลม กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
2. “ยาธาตุน้ำขาว” มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อในลำไส้และมีสารที่ช่วยในการขับลมดังนั้น จึงใช้บรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียดท้อง อันเนื่องมาจากท้องเสียแบบติดเชื้อที่ไม่รุนแรง และมีลมในทางเดินอาหารมากเกินไป
ทั้งนี้ ยาธาตุน้ำขาว และยาธาตุน้ำแดง ไม่สามารถบรรเทาอาการปวดท้องที่มีสาเหตุจากปวดท้องประจำเดือน ปวดท้องกระเพาะปัสสาวะ ปวดท้องไส้ติ่ง
ถึงแม้ยาธาตุน้ำแดง และยาธาตุน้ำขาวจะเป็นยาใช้บรรเทารักษา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะสมกับทุกคน เพื่อความปลอดภัยควรระวังการใช้ยาดังนี้
- ยาธาตุน้ำแดง : ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี สตรีมีครรภ์ และห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคตับ โรคความดันและโรคไต
- ยาธาตุน้ำขาว : ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาแอสไพริน
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ยาลดกรด
ส่วนประกอบที่สำคัญ
เหมาะสำหรับ :
ใช้ลดกรดในโรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน บรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย
ยาธาตุน้ำขาว
ส่วนประกอบที่สำคัญ
เหมาะสำหรับ :
ใช้บรรเทาอาการท้องเสียจากการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง ลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด ขับลม
ปวดแบบไหน ? เลือกให้เหมาะกับอาการ
ควรรับประทาน >> ยาธาตุน้ำขาว
ควรรับประทาน >> ยาลดกรด
ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่ //www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm