หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๒
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๕ ชั่วโมง
๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ
ตัวชี้วัด ส ๔.๑ ม.๑/๑ วิเคราะห์ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์
ตัวชี้วัด ส ๔.๑ ม.๑/๒ เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์
๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
เวลา ช่วงเวลา ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ และการเทียบศักราชตามระบบต่างๆ มีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ ทำให้เห็นความสัมพันธ์และความสำคัญของอดีตที่มีต่อปัจจุบันและอนาคต
๓. สาระการเรียนรู้
ด้านความรู้
๑. เวลากับประวัติศาสตร์
- ความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับประวัติศาสตร์
- ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์
๒. การแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สากล
๓. การแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ไทย
๔. ที่มาของศักราช ได้แก่ จ.ศ. / ม.ศ. / ร.ศ. / พ.ศ. / ค.ศ. / ฮ.ศ.
๕. วิธีการเทียบศักราชในระบบต่างๆ
๖. ตัวอย่างการใช้ศักราชในระบบต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย.
ด้านทักษะ/กระบวนการ
- กระบวนการคิดวิเคราะห์
- กระบวนการสร้างองค์ความรู้
- ทักษะการนำเสนองาน
- กระบวนการปฏิบัติ และกระบวนการกลุ่ม
ด้านเจตคติ
- เห็นความสำคัญของเรื่องเวลา
- เห็นความสำคัญและตระหนักในคุณค่าของประวัติศาสตร์
๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถด้านการใช้เทคโนโลยี
๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ซื่อสัตย์ สุจริต
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมั่นในการทำงาน
- รักความเป็นไทย
๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- เขียนผังมโนทัศน์ในหัวข้อ “ความสำคัญของเวลากับการศึกษาประวัติศาสตร์”
- แผ่นป้ายบัตรคำศักราชและ ตารางหลักการเทียบศักราช
๗. การวัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ส ๔.๑ ม.๑/๑ | ||
ประเมินการเขียนผังมโนทัศน์ | แบบประเมินการเขียนผังมโนทัศน์ในหัวข้อ “ความสำคัญของเวลาและการแบ่งยุคสมัยในการศึกษาประวัติศาสตร์” | ผ่านการประเมินระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
ประเมินชิ้นงาน | แบบประเมินผลงานการทำแผ่นป้ายศักราชและตารางการเทียบศักราช | ผ่านการประเมินระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
ประเมินการทำใบงาน | แบบประเมินการทำใบงานเรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์สากล | ผ่านการประเมินระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
ส. ๔.๑ ม.๑/๒ | ||
ประเมินทักษะการคิดวิเคราะห์ | แบบทดสอบเกมส์การแข่งขัน | ได้คะแนนในการนำองค์ความรู้ไปใช้ในการตอบคำถามได้คะแนนร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป |
สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล | แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล | ได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
สังเกตทักษะกระบวนการกลุ่ม | แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม | ได้คะแนนระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
ประเมินทักษะการนำเสนองาน | แบบประเมินการนำเสนองานหน้าชั้นเรียน | ได้คะแนนระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
๘. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ ๑ (การจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม)
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. วิเคราะห์ความสำคัญของเวลาและความสัมพันธ์ของช่วงเวลาจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตได้
๒. เห็นความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การศึกษาประวัติศาสตร์สิ่งสำคัญจะต้องกำหนดเวลา มีการนับย้อนอดีตว่ามีวิวัฒนาการมานานเท่าใด ดังนั้นการศึกษาเรื่องราวของประวัติศาสตร์จึงมักควบคู่ไปกับการนับเวลาเสมอ
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. ครูให้นักเรียนดูภาพนาฬิกาแล้วซักถามนักเรียนว่า นาฬิกามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องใด และมีความสำคัญอย่างไรกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ (แนวคำตอบเกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลา ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันของมนุษย์เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการทำกิจกรรมต่างๆ)
๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
๓. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๕-๖ คน คละกันตามความสามารถ เพื่อดำเนินกิจกรรมตามใบงานที่ ๑ ใช้เวลา ๒๐ นาที ดังนี้
๓.๑ ครูแจกใบงานที่ ๑ โดยมีคำชี้แจงการทำงานด้วยกระบวนการกลุ่ม และแจกใบความรู้ที่ ๑ ประกอบด้วยภาพเหตุการณ์และบัตรข้อความเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ให้กับนักเรียนทุกกลุ่มประกอบด้วย
ภาพเหตุการณ์ การเลิกทาส
ภาพเหตุการณ์ การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย
ภาพเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
ภาพเหตุการณ์ สงครามโลกครั้งที่ ๒
ภาพเหตุการณ์ วินาศกรรม ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔
๓.๒ สมาชิกในกลุ่มช่วยกันจับคู่ภาพและบัตรข้อความเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ให้ตรงกัน
โดยกำหนดให้นักเรียนทุกกลุ่มเลือกภาพกลุ่มละ ๑ ภาพ เลือกบัตรข้อความเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ กลุ่มละ ๑ บัตร โดยให้นักเรียนในกลุ่มอภิปรายเกี่ยวกับภาพและบัตรข้อความ ที่สมาชิกในกลุ่มเลือกและให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันตอบคำถาม พร้อมทั้งเตรียมนำเสนอทีละกลุ่มดังประเด็นคำถามต่อไปนี้
๓.๒.๑ ภาพที่กลุ่มเลือกตอบ คือภาพเหตุการณ์ใด
๓.๒.๒ เป็นภาพที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด
๓.๒.๓ เหตุการณ์ภาพในอดีตที่เกิดขึ้นนั้นมีความสำคัญและมีความสัมพันธ์กับปัจจุบันและอนาคตอย่างไร
๓.๓. ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนองานหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันเสนอแนะและเพิ่มเติมเนื้อหาให้สมบูรณ์ (ใช้เวลา ๑๐ นาที )
๔. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์
๕. ครูมอบหมายการบ้านให้นักเรียนทุกคน เขียนผังมโนทัศน์ในหัวข้อ “ความสำคัญของเวลากับการศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อนำมาศึกษากันในชั่วโมงที่ ๒
สื่อและแหล่งเรียนรู้
๑. ภาพนาฬิกา
๒. ภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
๓. บัตรข้อความเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
การวัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ประเมินการเขียนผังมโนทัศน์ | แบบประเมินการเขียนผังมโนทัศน์ในหัวข้อ “ความสำคัญของเวลากับการศึกษาประวัติศาสตร์” | ได้คะแนนการประเมินระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
ประเมินกระบวนการกลุ่ม | แบบประเมินการปฏิบัติงานและ การนำเสนองานหน้าชั้นเรียน | ร่วมปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มและนำเสนองานหน้าชั้นเรียนได้คะแนนระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ชั่วโมงที่ ๒ (วิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา )
จุดประสงค์การเรียนรู้
อธิบายการแบ่งยุคสมัยในประวัติศาสตร์สากลได้
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ทำให้มนุษย์เข้าใจเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับ
อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตระหนักถึงความสำคัญในความต่อเนื่องของเวลา
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. ครูฉายภาพ (หรือนำภาพ) การดำรงชีวิตและเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์ยุคหินและมนุษย์ยุค
ปัจจุบันให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่านักเรียนเคยเห็นภาพนี้หรือไม่ เป็นภาพเกี่ยวกับอะไร และเป็นมนุษย์ยุคใดภาพทั้งสองภาพมีความเหมือนกัน และแตกต่างกันอย่างไร
๒. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น (ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่าภาพทั้งสองภาพมีความเหมือนกัน คือ เป็นภาพการดำรงชีวิตและภาพเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์เหมือนกัน แต่ส่วนที่แตกต่างกัน คือช่วงของเวลาและพัฒนาการของเครื่องมือเครื่องใช้และวิถีการดำรงชีวิต ใช้เวลา ๑๐ นาที)
๓. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
๔. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ ๕-๖ คนตามความเหมาะสมของจำนวนนักเรียน คละกันตามความสามารถ และแจกใบงานที่ ๒ โดยใช้เวลา ๒๐ นาที โดยมีกิจกรรมดังนี้
๔.๑ ให้นักเรียนทุกคนศึกษาใบความรู้ที่ ๒.๑ เรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์สากล พร้อมทั้งให้นักเรียนทุกคนในกลุ่มร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็น และวิเคราะห์ ถึงยุคสมัยต่างๆ และเขียนคำตอบลงในใบงานของแต่ละคน
๔.๒ นักเรียนแต่ละกลุ่มมอบหมายให้ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลการอภิปราย การคิดวิเคราะห์ตามที่ได้สรุปลงในใบงานที่ ๒ จนครบทุกกลุ่ม (โดยใช้เวลา ๑๐ นาที)
๕. นักเรียนและครูร่วมกัน ถึงสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาใบความรู้และจากผลการสรุปของแต่ละกลุ่มสมัยประวัติศาสตร์และประวัติศาสตร์สากล นักเรียนทุกกลุ่มนำผลงานของตนเองไปติดที่หน้าห้องเพื่อให้เพื่อนๆได้ศึกษาอีกครั้ง และนำไปสู่การเรียนรู้ในชั่วโมงที่ ๓ (ใช้เวลา ๑๐ นาที)
สื่อและแหล่งเรียนรู้
๑. รูปภาพมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์และมนุษย์ยุคปัจจุบัน
๒. รูปภาพเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์และมนุษย์ยุคปัจจุบัน
๓. ผังการแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สากล
๔. ใบความรู้ที่ ๒ เรื่อง เกณฑ์การยุคสมัยช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สากล
๕. ใบงานที่ ๒ เรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์สากล
การวัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ทดสอบ | คำถามตามใบงานที่ ๒ เรื่องการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์สากล | ได้คะแนนการประเมิน ระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
สังเกตการทำงานกลุ่ม | แบบสังเกตพฤติกรรม กระบวนการทำงานกลุ่ม | ได้คะแนนระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ | แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ | ได้คะแนนจากการประเมินระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ประเมินสมรรถนะ สำคัญผู้เรียน | แบบประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | ได้คะแนนจากการประเมินระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ชั่วโมงที่ ๓ (วิธีการสอน กระบวนการกลุ่ม)
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายการแบ่งช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ไทยได้
๒. วิเคราะห์ความสำคัญของการแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ไทยได้
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
เกณฑ์การแบ่งยุคสมัยของประวัติศาสตร์ไทยใช้เกณฑ์การแบ่งทั้งสอดคล้องกับหลักสากลและแบบไทย
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. ครูทบทวนเนื้อหาการแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สากล โดยตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์สากลมีประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ มีประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย เพราะช่วยให้ทราบช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์
ในประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์สากลที่ตรงกัน)
๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้นักเรียนทราบ
๓. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับการแบ่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ไทยว่ามีการแบ่งทั้งสอดคล้องและแตกต่างจากช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สากล โดยมีการแบ่งเป็น ๒ ยุค กว้างๆ เหมือนกัน คือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ ในส่วนของยุคก่อนประวัติศาสตร์ใช้เกณฑ์เดียวกันกับแบบสากล แต่ที่แตกต่างจากแบบสากลคือ การแบ่งช่วงเวลาสมัยประวัติศาสตร์ของไทยจะมีการแบ่งเป็นหลายแบบ
(นำเข้าสู่บทเรียนใช้เวลา ๑๐ นาที)
๔. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ ๕-๖ คน โดยใช้กลุ่มเดิมจากชั่วโมงที่ ๒ และแจกใบงานที่ ๓ และใบความรู้ที่ ๓ โดยใช้เวลา ๓๐ นาที โดยมีกิจกรรมดังนี้
๔.๑ ครูแจกใบความรู้ที่ ๓ เรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทย โดยให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกันศึกษาและอภิปราย พร้อมทั้งร่วมกันสรุปองค์ความรู้เรื่องการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทยให้ออกมาในรูปของผังมโนทัศน์ โดยเขียนลงในใบงานที่ ๓ พร้อมทั้งส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผังมโนทัศน์ตามที่สรุปในใบงานที่ ๓ พร้อมทั้งติดไว้ที่กระดานหน้าห้อง
๔.๒ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาให้สมบูรณ์ ตามผังมโนทัศน์ที่ทุกกลุ่มนำเสนอ
๕. นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบ เรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทย (โดยใช้เวลา ๑๐ นาที)
๖. ครูนัดหมายการเตรียมเนื้อหาสำหรับการเรียนในชั่วโมงที่ ๔
สื่อและแหล่งเรียนรู้
๑.ใบความรู้ที่ ๓ เรื่องการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทย
๒. แบบทดสอบเรื่องการแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทย
๕. วัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ทดสอบ | แบบทดสอบ เรื่อง การแบ่งยุคสมัยประวัติศาสตร์ไทย | คะแนนร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป |
สังเกตทักษะการทำงานกลุ่ม | แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม | ระดับคุณภาพ ๓ ขึ้นไป |
ชิ้นงานผังมโนทัศน์ | แบบประเมินผังมโนทัศน์ | ระดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไป |
สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ |
สังเกตสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | แบบประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ |
ชั่วโมง ๔ (เทคนิคการสอนแบบจิกซอร์ )
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกที่มาของศักราชในระบบต่างๆได้
๒. อธิบายวิธีการเทียบศักราชในระบบต่างๆได้อย่างถูกต้อง
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การทราบที่มาของศักราชมีความสำคัญในการเทียบศักราช เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. ครูกระตุ้นนักเรียนด้วยการสนทนาซักถามดังนี้
- นักเรียนคิดว่าปฏิทินมีความสำคัญอย่างไรกับมนุษย์
- นักเรียนคิดว่าประเทศไทยรับวิธีการนับศักราชมาจากที่ใด
(แนวคำตอบ ปฏิทินมีความสำคัญต่อมนุษย์ในการดำเนินชีวิตประจำวันและมีประโยชน์มากมาย เราทุกคนจำเป็นต้องดูปฏิทินเพื่อให้รู้ว่าวันนั้นเป็นวันอะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง เพื่อให้รู้เวลาในแต่ละวันในหนึ่งปีในการกำหนดกิจกรรมต่างๆ ของตนเอง ประเทศไทยรับเอาวิธีการนับศักราชมาทั้งจากสากลและที่คนไทยคิดขึ้นมาเอง)
๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ นำเข้าสู่บทเรียนใช้เวลา ๑๐ นาที
๓. นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ ๔ – ๕ คน คละกันตามความสามารถ พร้อมทั้งแจกใบงานที่ ๔ โดยใช้เวลาในทำกิจกรรมทั้งหมด ๓๐ นาที ดังนี้
๓.๑ ใบงานที่ ๔ มีคำชี้แจงว่า ให้สมาชิกในกลุ่มเลือกประธานกลุ่ม รองประธาน และเลขานุการเลือกหมายเลขประจำตัวสมาชิก เรียกว่ากลุ่มบ้าน
๓.๒ ให้สมาชิกในกลุ่มทุกคน แยกย้ายกันไปเข้ากลุ่มใหม่ที่มีหมายเลขตรงกับหมายเลขตนเอง เรียกว่ากลุ่มเชี่ยวชาญ
๓.๓ ให้สมาชิกกลุ่มเชี่ยวชาญทุกคนตั้งใจศึกษาหัวข้อย่อยในใบความรู้ที่ ๔ ตามหัวข้อย่อยที่ตนเองได้รับผิดชอบ โดยใช้เวลา ๑๐ นาที ดังนี้
หมายเลข ๑ คริสต์ศักราชและฮิจเราะห์ศักราช
หมายเลข ๒ มหาศักราชและจุลศักราช
หมายเลข ๓ พุทธศักราช
หมายเลข ๔ รัตนโกสินทร์ศก
๓.๔ สมาชิกกลุ่มเชี่ยวชาญศึกษาใบความรู้ตามหัวข้อย่อยที่ตนเองได้รับ จนเกิดความเข้าใจพร้อมที่จะกลับไปอธิบายให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง ก็เชิญสมาชิกทุกคนกลับเข้ากลุ่มบ้านของตนเอง นำเสนอข้อมูลให้เพื่อนๆสมาชิกทุกคนฟังพร้อมกัน โดยใช้เวลาอธิบาย ๑๐ นาที
๓.๕. ให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันสรุปองค์ความรู้เรื่องที่มาของศักราชและวิธีการเทียบศักราชในระบบต่างๆ พร้อมทั้งตอบคำถามลงในใบงานที่ ๔ ของทุกคน ใช้เวลา ๑๐ นาที
๓.๖ ครูเฉลยคำตอบในใบงาน แล้วนำคะแนนที่ได้ของสมาชิกทุกคนมาหาค่าเฉลี่ยเป็นคะแนนกลุ่ม กลุ่มใดมีคะแนนสูงสุด ครูและนักเรียนร่วมกันชมเชย
๔. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทุกกลุ่มไปทำป้ายข้อความศักราช และตารางการเทียบศักราช ไปติดตามบริเวณโรงเรียน โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียน
สื่อและแหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคำ คำย่อศักราช จ.ศ. ม.ศ. ร.ศ. พ.ศ. ค.ศ. ฮ.ศ.
๒. ใบความรู้ที่ ๔ เรื่องที่มาของศักราช
๓. ใบงานที่ ๔ และแบบทดสอบเรื่องที่มาของศักราชและวิธีการเทียบศักราช
วัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ทดสอบ | แบบทดสอบเรื่องที่มาของศักราช ตามใบงานที่ ๔ | ได้คะแนนจากการทำแบบทดสอบ ๖ ข้อขึ้นไป |
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ | ได้คะแนนจากการประเมิน ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | แบบประเมินสมรรถนะ สำคัญผู้เรียน | ได้คะแนนจากการประเมิน ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ชั่วโมง ๕ (ใช้วิธีการสอนแบบ ที.จี.ที )
จุดประสงค์การเรียนรู้
สามารถเทียบศักราชในตัวอย่างการใช้ศักราชในระบบต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย.
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การนำวิธีการเทียบศักราชมาใช้ในการศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ส่งผลให้เกิดความเข้าใจในเหตุการณ์และความเชื่อมโยงของอดีต ปัจจุบันและอนาคต
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. ครูทบทวนความรู้เรื่องการเทียบศักราชด้วยการถามนักเรียนว่าวิกฤติการณ์ ร.ศ. ๑๑๒
เป็นวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ.ใด นักเรียนใช้ตัวเลขใดในการเทียบศักราช (แนวคำตอบ เป็นเหตุการณที่เกิดขี้นใน พ.ศ. ๒๔๓๖. สมัยรัชกาลที่ ๕ใช้วิธีการเทียบโดย นำ ตัวเลข ๒๓๒๔ + ๑๑๒ = ๒๔๓๖ )
๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ (นำเข้าสู่บทเรียนและทบทวนความรู้เดิมใช้เวลา ๑๐ นาที )
๓. ครูจัดนักเรียนเข้ากลุ่มเดิมในชั่วโมงที่แล้ว เรียกว่ากลุ่มบ้านของเรา
๔. ครูทำหน้าที่เป็นผู้จัดการห้องเรียน โดยให้สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายกันเป็นตัวแทนกลุ่มไปแข่งขันกับกลุ่มอื่น กลุ่มใหม่ที่รวมกันเรียกว่ากลุ่มแข่งขัน โดยมีขั้นตอนและกติกา ดังนี้
๔.๑ ครูแจกใบงานที่ ๕ ให้สมาชิกในกลุ่มแข่งขัน แข่งกันตอบคำถาม ๑๐ คำถาม (เป็นคำถามเหมือนกัน) โดยกำหนดให้สมาชิกคนที่ ๑ เป็นคนอ่านคำถาม จับคำถามขึ้นมา และอ่านคำถามให้กลุ่มฟัง ให้สมาชิกที่เหลือ จำนวน ๓ – ๔ คน เขียนคำตอบลงในใบงานที่ ๕ (ใช้เวลาทำกิจกรรม ๒๐ นาที)
๔.๒ เมื่อผู้อ่าน อ่านคำถามครบทั้ง ๑๐ คำถามแล้ว ให้ผู้อ่านคำถามเปิดคำตอบแล้วอ่านเฉลยคำตอบที่ถูกให้กลุ่มฟัง โดยให้สมาชิกตรวจคำตอบในใบงาน พร้อมยกมือตอบโดยมีเกณฑ์ให้คะแนนคำตอบ ดังนี้
ผู้ยกมือตอบถูกเป็นคนแรกได้ ๒ คะแนน
ผู้ยกมือตอบถูกคนต่อไปได้ ๑ คะแนน
ผู้ยกมือแต่คำตอบผิดได้ ๐ คะแนน
๔.๓ ให้ผู้อ่านปฏิบัติตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนครบทั้ง ๑๐ ข้อ ใช้เวลา ๑๐ นาที แล้วให้ทุกคนรวมคะแนนของตนเองจัดลำดับคะแนนที่ได้
ผู้ได้คะแนนรวมอันดับ ๑ ได้โบนัส ๑๐ คะแนน
ผู้ได้คะแนนรวมอันดับ ๒ ได้โบนัส ๘ คะแนน
ผู้ได้คะแนนรวมอันดับ ๓ ได้โบนัส ๕ คะแนน
ผู้ได้คะแนนรวมน้อยที่สุด ได้โบนัส ๔ คะแนน
๕. เมื่อการแข่งขันเสร็จแล้วได้คะแนนเรียบร้อย ได้รับโบนัสจากกลุ่ม สมาชิกกลับไปกลุ่มบ้านของเรา รวมแต้มโบนัสของทุกคน ทีมใดที่มีแต้มโบนัสสูงสุดจะได้รับรางวัลและติดประกาศ
๖. ครูและนักเรียนสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการแข่งขันตอบคำถามในเกมส์การแข่งขัน เพื่อสร้างความคิดรวบยอดร่วมกันเรื่อง การนำวิธีการเทียบศักราชมาใช้ในการศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ไทย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจในเหตุการณ์และความเชื่อมโยงของอดีต ปัจจุบันและอนาคต
สื่อและแหล่งเรียนรู้
๑. ใบงานที่ ๕ เรื่อง เกมส์การแข่งขันการเทียบศักราชในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย
๒. แบบคำถามเพื่อใช้ในการแข่งขัน เรื่อง การเทียบศักราชในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย
การวัดและประเมินผล
วิธีการ | เครื่องมือ | เกณฑ์ |
ทดสอบ | แบบทดสอบเกมส์การแข่งขัน | ได้คะแนนรวมของกลุ่มร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป |
กระบวนการกลุ่ม | แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ | แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |
ประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | แบบประเมินสมรรถนะสำคัญผู้เรียน | ระดับคุณภาพ ๒ขึ้นไป |