ปัจจัยการผลิต ( Factors of Production) ปัจจัยการผลิต หมายถึง ทรัพยากรที่ใช้เพื่อการผลิตเป็นสินค้าและบริการ ในความหมายทางเศรษฐศาสตร์แบ่งปัจจัยการผลิตเป็น 4 ประเภท ดังนี้ • ที่ดิน (Land) ซึ่งใช้เป็นที่ของอาคารโรงงานที่ทำการผลิต รวมถึงทรัพยากรที่อยู่ในดิน โดยผลตอบแทนของที่ดินได้แก่ ค่าเช่า (Rent) เงินทุน (Money Capital) หมายถึงปริมาณเงินตราที่เจ้าของเงินนำไปซื้อวัตถุดิบ จ่ายค่าจ้าง ค่าเช่า และดอกเบี้ย • ผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) หมายถึง บุคคลที่สามารถนำปัจจัยการผลิตต่าง ๆ มาดำเนินการผลิตให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยอาศัยหลักการบริหารที่ดี การตัดสินใจจากข้อมูลหรือจากเกณฑ์มาตรฐานอย่างรอบคอบ รวมถึงความรับผิดชอบ ผลตอบแทน คือ กำไร (Profit) กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
• แรงงาน (Labour) หมายถึง
ความคิดและกำลังกายของมนุษย์ได้นำไปใช้ในการผลิต โดยมีผลตอบแทนคือ ค่าจ้าง (Wage or Salary)
• ทุน ( Capital) ในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง สิ่งก่อสร้าง และเครื่องจักรเครื่องมือที่ใช้ในการผลิต นอกจากนี้ทุนยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
สินค้าประเภททุน (Capital Goods) หมายถึง
สิ่งก่อสร้าง รวมถึงเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเป็นต้น ผลตอบแทนจากเงินทุน คือ ดอกเบี้ย (Interest)
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ หมายถึง
การผลิต การแลกเปลี่ยน การบริโภค และการกระจายรายได้
• การผลิต (Production) หมายถึงการนำปัจจัยการผลิตที่มีอย่างจำกัดมาผ่านกระบวนการผลิต ซึ่งต้องอาศัยการผลิต การบริหาร การตัดสินใจเลือกวิธีการผลิตที่เหมาะสม เพื่อให้ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำสุด ให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค
• การแลกเปลี่ยน (Exchange) ในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง การแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในสินค้าแลบริการต่าง ๆ
เดิมเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างสินค้ากับสินค้า แต่ต่อมาได้ใช้เงินตราเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
• การบริโภค (Consumption) หมายถึง การได้รับประโยชน์หรือความพอใจจากการซื้อสินค้าและบริการ เช่น การทานอาหาร ใช้ตู้เย็น เป็นต้น
• การกระจายผลผลิต (Product Distribution) หมายถึง การปันส่วนหรือการจำแนกแจกจ่ายสินค้าและบริการให้ถึงมือผู้บริโภค โดยการนำออกมาวางขาย หรือการสั่งซื้อทางสื่อสารต่าง ๆ รวมถึงการขนส่งด้วย
• การกระจายรายได้
(Income Distribution) หมายถึง การปันรายได้ให้กับผู้ผลิตสินค้าและบริการ รวมถึงเจ้าของปัจจัยการผลิตอย่างเป็นธรรม ได้แก่ ค่าเช่า ค่าจ้าง ดอกเบี้ย และกำไรของเจ้าของปัจจัยการผลิต
หน่วยเศรษฐกิจ (Economic Unit)
หน่วยเศรษฐกิจ หมายถึง หน่วยที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ แบ่งหน้าที่ต่าง ๆ กันเช่น
• หน่วยครัวเรือน เป็นหน่วยที่มีบุคคลเดียวหรือหลาคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน
ประกอบด้วยผู้บริโภคและเจ้าของปัจจัยการผลิต มีหน้าที่ขายปัจจัยการผลิต และเลือกการบริโภคที่ให้ ความพอใจสูงสุด ภายใต้วงเงินจำกัด
• หน่วยผลิต มีหน้าที่วางแผนแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จะแสวงความ กำไรสูงสุด
• หน่วยรัฐบาล เป็นหน่วยเศรษฐกิจที่องค์กรมีหน้าทีและบทบาทในระบบเศรษฐกิจอย่างมาก เช่น การเก็บภาษีอากรและนำไปพัฒนาประเทศ ตลอดจนเป็นผู้ออกกฎหมาย รักษากฎหมาย
และเป็นผู้พิพากษาให้ความเป็นยุติธรรมแก่สังคม รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ บริการสูงสุดแก่สังคม
วงจรเศรษฐกิจ (Circular Plow)
ระบบเศรษฐกิจประกอบด้วยหน่วยเศรษฐกิจต่าง ๆ รับผิดชอบตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยเศรษฐกิจ วงจรเศรษฐกิจเป็นกระแสวงจรของการใช่จ่ายเงินและการผลิต ดังแสดงในรูป
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจ ย่อมหมายถึงการบริโภค การอยู่อาศัย หรือการกินการอยู่ของประชาชนว่าอยู่ดีกินดี มีสินค้าเพียงพอแก่ความต้องการของผู้บริโภค หมายถึงว่าเศรษฐกิจดี ตรงข้าม ถ้าการกินอยู่หรือสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ย่อมหมายถึงเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้น การผลิตจึงถือเป็นปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ต้องศึกษา แบ่งเป็น 3 ข้อ ดังนี้
• ผลิตอะไร (What to Produce) จำนวนเท่าใด เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอและตรงตามความต้องการขอผู้บริโภค
และเมื่อใดผลิตสินค้าไม่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค หรือผลิตมากเกินไปย่อมทำให้เศรษฐกิจเสียหาย
• ผลิตอย่างไร (How to Produce) นอกจากจะผลิตอะไร จำนวนเท่าไรแล้ว ผู้ผลิตต้องใช้เทคนิคการผลิตการจัดการอย่างไร เช่น เลือกวิธีผลิต หรือเลือกปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม • ผลิตเพื่อใคร (or Whom to Produce) เป็นสำคัญมากที่ผู้ผลิตจะต้องทราบว่าสินค้าและบริการที่ผลิตได้จะจำแนกแจกจ่ายสู่ผู้บริโภคกลุ่มใด ด้วยเทคนิควิธีใด
ที่จะสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ระบบเศรษฐกิจ (Economic System)
ระบบเศรษฐกิจ หมายถึง หน่วยธุรกิจ หรือสถาบันทางเศรษฐกิจจ่าง ๆ ร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้นโยบาย กฎหมาย ระเบียบ แบบแผน วัฒนธรรม และประเพณีเดียวกัน รูปแบบของระบบเศรษฐกิจที่ประเทศทั่วโลกนิยมใช้กันมี 3 รูปแบบที่สำคัญ ดังนี้
• ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (Capitalism) เป็นระบบที่หลายประเทศนิยมกัน ได้แก่ อเมริกา ยุโรปตะวันตก
ญี่ปุ่น บางประเทศเรียกระบบนี้ว่าเสรีนิยม หรือระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ซึ่งมีลักษณะดังนี้
• กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เอกชนมีสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สิน สามารถสืบทอดเป็นมรดกได้
• เสรีภาพในธุรกิจ เอกชนสามารถเลือกประกอบธุรกิจได้ตามต้องการ
• การจัดตั้งหรือล้มเลิกธุรกิจ ทำได้โดยเสรี
• ใช้กลไกราคา
• การวางแผนหรือกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ เอกชนจะเป็นผู้วางแผนแก้ปัญหาเศรษฐกิจเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร
การลงทุน การผลิต
• ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ (Communism) บางประเทศเรียกระบบสังคมนิยมบังคับ หรือระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
• เอกชนไม่มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของในทรัพย์สิน
• เอกชนไม่มีแม้เสรีภาพในการประกอบอาชีพ
• รัฐจะผูกขาดตลาด เอกชนทำการแข่งขันไม่ได้
• รัฐเป็นผู้กำหนดราคาสินค้านั่นคือกลไกราคาไม่มีบทบาทในตลาด
• รัฐเป็นผู้วางแผนและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ
• ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy) ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมีอิสระเสรีภาพมากเกินไป ในขณะที่ระบบคอมมิวนิสต์ขาดเสรีภาพ ดังนั้นในหลายประเทศจึงพอใจเลือกเดินทางสายกลาง ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ซึ่งมีลักษณะดังนี้
• เอกชนมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้
• เอกชนมีสิทธิ์ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เสรี แต่บางกิจกรรมที่รัฐจะต้องเข้ามาควบคุม เช่น ในกิจกรรมที่ให้คุณให้โทษแก่สังคมโดยส่วนรวม การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
• ระบบราคา
ได้ใช้กลไกราคาควบคู่กับการวางแผน หมายถึง ราคาจะถูกกำหนดโดย อุปสงค์และอุปทาน ยกเว้นบางกิจกรรมที่รัฐจะเข้ามาควบคุม เช่น การรถไฟ การไฟฟ้า การประปา การเงินการธนาคารและอุตสาหกรรมบางประเภท เป็นต้น
ในปัจจุบันระบบเศรษฐกิจแบบรัฐวางแผนกันแบบทุนนิยมร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มี ความจริงทุกประเทศในโลกต่างใช้ลักษณะระบบเศรษฐกิจแบบผสมทั้งสิ้น เพียงแต่ผสมผสานเข้มแค่ไหนที่เราเรียกกันว่า ระบบเศรษฐกิจเอียงซ้ายหรือเอียงขวา เพื่อให้เข้าใจง่าย
ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
•
สินค้ามีหลากหลายชนิดให้เลือกได้ตามอำนาจซื้อและตามความพอใจของผู้บริโภค
• สินค้ามีความประณีต สวยงาม เต็มไปด้วยงานสร้างสรรค์
• สินค้าราคาถูก เพราะเป็นตลาดแข่งขัน กลไกราคามีบทบาทมากที่สุด
• เทคนิคในการผลิตได้รับการพัฒนาเนื่องจากภาวะที่ต้องแข่งขันกัน
• ทรัพยากรถูกนำมาจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ปัจจัยการผลิต
ข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
- การทำลายสิ่งแวดล้อม
- การเอารัดเอาเปรียบ
- รายได้เหลื้อมล้ำมาก