ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนี้มีน้ำมันสำหรับรถยนต์เกิดขึ้นมากมาย แต่น้ำมันหลักๆ ที่รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้กันนั้นมี 2 ประเภท
ก็คือ น้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน และน้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งน้ำมันที่ใช้นอกจากจะต้องเลือกให้ถูกกับเครื่องยนต์แล้ว ในเรื่องของราคาก็แตกต่างกันอีกด้วย โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินที่จะมีราคาสูงกว่าน้ำมันดีเซล แล้วในเรื่องความแตกต่างของเครื่องยนต์เบนซินกับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นอย่างไร วันนี้เรามีมากฝาก ความต่างของเครื่องยนต์เบนซินกับดีเซล คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบข้อดีของเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลว่าโดดเด่นต่างกันมากน้อยแค่ไหน เครื่องยนต์ดีเซล 1. เครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพดีกว่า 2. เครื่องยนต์ดีเซลจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 3. เครื่องยนต์ดีเซลจะทำงานได้สม่ำเสมอมากกว่า 4. เครื่องยนต์ดีเซลจะจะมีอายุการใช้งานน้ำมันหล่อลื่นนานกว่า
5. เครื่องยนต์ดีเซลจะมีเวลาการใช้งานก่อนบำรุงรักษานานกว่า เครื่องยนต์เบนซิน 1. เครื่องยนต์เบนซินจะมีราคาเครื่องที่ถูกกว่า
2. เครื่องยนต์เบนซินมีอัตราการเร่งเครื่องได้เร็วกว่า
3. เครื่องยนต์เบนซินมีจำนวนรอบสูงสุดต่อนาทีที่สูงกว่า
4. เครื่องยนต์เบนซินมีน้ำหนักต่อกำลังม้าที่เบากว่า
5. เครื่องยนต์เบนซินเมื่อต้องสตาร์ทรถในที่เย็นเครื่องจะติดง่ายกว่า
Post navigation
เมื่อก่อนรถเก๋งที่ผลิตในประเทศ แทบจะทั้งหมดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ส่วนรถปิคอัพ กระบะก็จะมีแต่เครื่องยนต์ดีเซล มีการแบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน แต่มาถึง ณ ปัจจุบัน การแบ่งแยกเหล่านั้นหมดลงแล้ว รถกระบะใช้เครื่องเบนซิน ส่วนรถยนต์จะมีเครื่องดีเซลก็ต่างเป็นเรื่องธรรมดา แล้วแต่เจ้าของรถจะเลือกใช้
ความประหยัด
เปรียบเทียบอัตราการกินน้ำมันของเครื่องยนต์ทั้งสองประเภทจะเห็นว่า นอกจากราคาต่อลิตรน้ำมันดีเซลจะถูกกว่าน้ำมันเบนซินแล้ว แต่เมื่อเทียบระยะทางที่เท่ากัน ความเร็วเท่ากัน การใช้งานเครื่องยนต์ดีเซลจะช่วยให้ท่านประหยัดกว่า เมื่อวัดผลออกมาเป็นระยะทางที่รถวิ่งได้มากกว่า ในการจ่ายค่าน้ำมันไปเท่ากัน เครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นผู้ชนะในหัวข้อนี้ ช่วยให้ท่านประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องเบนซินกับดีเซล การดูแลรักษาเครื่องยนต์จะต่างกันเล้กน้อย
แต่แน่นอนว่าถ้าเทียบเรื่องของความประหยัดแล้ว คงไม่มีเชื้อเพลิงไหนที่ประหยัดกว่า เชื้อเพลิงประเภทแก๊ส LPG, NGV ถ้าไม่นับเชื้อเพลงประเภทไฟฟ้าซึ่งประเภทนี้ประหยัดที่สุด และเครื่องยนต์ที่รองรับการติดตั้งเชื้อเพลงประเภทนี้เครื่องยนต์เบนซิน ถ้าใครที่วางแผนว่าซื้อรถแล้วจะนำไปติดแก๊สหรือต้องการความประหยัดสูงสุด ก็คงต้องซื้อรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
อัตราเร่ง ความเร็วสูง
ถ้ามองในด้านสมรรถนะ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ทั้งสองประเภทแล้ว เครื่องยนต์เบนซินยังคงมีอัตราเร่ง ความแรง ที่สูงกว่าดีเซลแต่ไม่มากเท่าไร เพราะเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซลถูกพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน คนที่เคยขับรถเบนซินมาแล้วมาขับดีเซล ต่างก็พากันบ่นว่าทำไมมันอืดกว่าจะออกตัวได้แต่ละทีเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินไม่ได้เลย
แต่มาตอนนี้การนำระบบต่างๆ เข้ามาช่วยในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้อัตราเร่งของเครื่องยนต์ประเภทนี้ดีกว่าสมัยก่อนมาก ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซินจึงไม่น่าแปลกที่ว่าทำไม เดี๋ยวนี้ค่ายผู้ผลิตรถในไทยจะนำเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาใช้ในรถเก๋งหลายๆรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถอีโค คาร์ดีเซล มาสด้า 2 หรือล่าสุด ฮอนด้าก็ได้ปล่อย CR-V รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมาเริ่มลองตลาดในไทยแล้วเช่นกัน
เรื่องแรงบิดเครื่องยนต์ดีเซลอาจจะทำได้ดีกว่า ถ้าเทียบรอบเครื่องที่เท่ากันในจังหวะที่เร่งแซง แรงบิดบวกกับระบบเทอร์โบ จังหวะช่วงต้นของเครื่องยนต์ดีเซลจะมาได้เร็ว (และก็ตกเร็ว) ตอบสนองจังหวะการขับขี่ได้อารมณ์กระชากแบบหลังติดเบาะ แถมเสียงเครื่องยนต์ก็ยังกว่าแบบเบนซิน ยิ่งทำให้รถเครื่องยนต์ดีเซลดูน่าเกรงขามมากจริงๆ
โหด ทั้งแรงบิดและกำลัง มีอยู่ในเครื่องดีเซล
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินจะทำได้ดีที่อัตราเร่งโดยรวม
แม้ไม่ได้หวือหวาในด้านแรงบิด แต่สิ่งที่มีเหนือกว่าเครื่องยนต์ดีเซลคือ “ความจี๊ดจ๊าด” สมรรถนะที่ถ่ายทอดไปยังตัวรถ เครื่องยนต์เบนซินมีอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับตัวเครื่องที่ขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า ทำให้แรงบิดมหาศาลไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น แต่เป็นเครื่องยนต์ที่ถ่ายทอดแรงม้าและอัตราเร่งจำนวนรอบมาได้เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวเครื่องแล้วทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซลเสียอีก เครื่องยนต์เบนซินแม้จะผลิตแรงบิดได้น้อยกว่า แต่สิ่งที่ให้คือจำนวนรอบที่สูงกว่า สมถรรนะโดยรวมของเครื่องจึงดีกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
ความทนทาน
สิ่งที่เครื่องดีเซลต้องแลกมาเมื่อเครื่องยนต์มีระบบความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งเทอร์โบ ที่บางค่ายใส่เพิ่มเติมลงไปเพื่อช่วยให้เพิ่มสมถรรถนะที่ดีขึ้น ให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซิน คือความจุกจิกในการดูแลรักษาที่มากขึ้นด้วย ถ้าจะหวังให้เครื่องเหนียวเหมือนเครื่องยนต์ดีเซลสมัยก่อนเดิมๆ ก็คงยาก
ความทนทานของตัวเครื่องที่ต้องรองรับแรงบิดมหาศาล กำลังอัดอากาศที่สูงๆ เพื่อที่จะให้เกิดการจุระเบิดได้ในห้องเผาไหม้ ตัวเครื่องไม่ได้อาศัยการจุดระเบิดจากหัวเทียนเหมือนเครื่องเบนซิน ชิ้นส่วนวัสดุต่างๆ ของเครื่องยนต์ดีเซลจึงต้องถูกออกแบบมาให้ทนทานเป็นพิเศษมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินนั้นที่ใช้หัวเทียนมาช่วยในการจุดระเบิด เพราะอุณหภูมิการจุดระเบิดที่สูงกว่าแบบเครื่องยนต์ดีเซล แต่ว่าเมื่อมีหัวเทียนเข้ามาช่วย ทำให้การออกแบบวัสดุสำหรับเครื่องยนต์ประเภทนี้สามารถเน้นไปที่การผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาได้ ผลที่ได้คือน้ำหนักต่อแรงม้าจะเบากว่าให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์สูงสุด แต่ความทนทานเมื่อใช้ไประยะเวลาที่เท่ากันก็แน่นอนว่าเครื่องยนต์เบนซินจะมีความทนทานน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
ตัวอย่างที่เห็นกันง่ายๆ อย่างเช่นพวกรถแข่งทางเลียบที่เน้น Performance ของรถ ทั้งเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ก็จะพยายามพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีน้ำหนักเบามากที่สุด เพื่อที่จะให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำเวลาการแข่งขันดีที่สุด
ราคา
ราคาของรถยนต์ที่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่เครื่องยนต์ต่างกัน รุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลจะมีราคาแพงกว่า ก็อย่างที่บอกไปข้างต้น เรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องถูกนำมาใช้กับตัวเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับเครื่องประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น ชุดตัวเทอร์โบ ชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ปั้มหัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น ปั้มเชื้อเพลิงแรงดันสูง สิ่งเหล่านี้ทำให้ราคาของ มาสด้า 2 แบบเครื่องดีเซลแพงกว่ารุ่นเครื่องเบนซินเป็นแสน (ราคาปี 2017 )
เลือกใช้แบบไหนดี ?
การพัฒนาของเครื่องยนต์ก้าวมาไกลมากจนทำให้รถทั้งสองแบบ มีสมถรรนะใกล้เคียงกันมาก
เครื่องยนต์ดีเซลที่เคยเสียงดัง กวนใจมาถึงปัจจุบันก็ถูกปรับแก้ไขให้เสียงเครื่องยนต์เดินเรียบ เงียบ เสียงไม่ดังเหมือนแต่ก่อน ส่วนเบนซินก็ถูกพัฒนาให้แรงม้าได้สูงขึ้น น้ำหนักเครื่องยนต์เบาลง
รายละเอียดเหล่านี้อาจไม่จำเป็นสำหรับคุณ แต่สิ่งที่คุณอยากรู้ว่าถ้าต้องเลือกรถ ที่มีทั้งเครื่องดีเซลหรือเบนซินจะเลือกแบบไหนนั้นสำคัญกว่า แต่มันก็ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการและลักษณะการใช้รถของคุณด้วย
ถ้าซื้อกระบะใช้งาน แต่ต้องการความประหยัดสูงสุดจากการติดแก๊ส ก็เลือกกระบะรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน หรือถ้าจะเลือกรถคอมแพคคาร์ ใช้งานในเมืองที่เครื่องยนต์มีความทนทาน ประหยัดนำ้มันและไม่อยากติดแก๊ส ได้แรงบิดสูงเทียบเท่ารถเครื่องยนต์ 2500 ก็เลือกมาสด้า2 ดีเซลเป็นต้น
ความแตกต่างที่สำคัญของเครื่องยนต์ทั้งสองประเภท
- เครื่องยนต์เบนซินสามารถใช้พลังงานได้ 30 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลสามารถใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้มากกว่าถึง 45 เปอร์เซ็นต์
-
เครื่องยนต์ดีเซลใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าเนื่องจากอุณหภูมิในห้องเผาไหม้สูงมาก มาจากอากาศที่บีบอัดและไม่จำเป็นต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงมากเกินไปเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่กำหนด ดีเซลจึงประหยัดกว่าเครื่องเบนซิน
- ลูกสูบของเครื่องยนต์เบนซินมีขนาดเล็กกว่าลูกสูบของเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เครื่องยนต์เบนซินมีความเร็วและประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
- เครื่องยนต์ดีเซลมีอายุยาวนานกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เหตุผลคือการใช้ชิ้นส่วนของเครื่องที่แข็งแรงกว่า
-
ไม่มีประกายไฟสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล แต่เครื่องยนต์เบนซินจะต้องทำให้เกิดประกายไฟจากหัวเทียน
- เครื่องยนต์เบนซินให้จำนวนรอบเครื่องมากกว่า ในเวลาที่เท่ากัน ความจัดจ้านของเครื่องยนต์จะให้ความต่อเนื่องมากกว่า
- เมื่อเทียบน้ำหนักต่อแรงม้า 1 ตัว ม้าของเครื่องยนต์เบนซินจะแบกน้ำหนักน้อยกว่าเพราะน้ำหนักเครื่องยนต์ที่เบากว่าเครื่องยนต์ดีเซล
- เครื่องดีเซลเสียงเครื่องยนต์ดังกว่า
- รถคารถเครื่องยนต์ดีเซลแพงกว่า
มาจากอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อเพื่มสมถรรนะให้กับเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์เบนซินสามารถนำไปติดแก๊สได้ดีกว่าการนำดีเซลไปติดแก๊ส อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลก็ประหยัดเชื้อเพลิงอยู่แล้ว การนำไปติดแก๊สก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดมากกว่าเดิมสักเท่าไร
เทคโนโลยีของรถยนต์ในปัจจุบันของรถ ก้าวไปไกลมากจนทำให้เครื่องยนต์ทั้งสองประเภทมีประสิทธิไม่แตกต่างกันมาก ก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกแบบไหน ที่ตรงกับการใช้งานของคุณ บางคนก็บอกว่าใช้รถเก๋งเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว ไม่อยากจะกลับไปใช้เบนซินอีกเลย ส่วนคนที่ชอบเบนซินก็ถูกใจในความจัดจ้านของรอบเครื่องยนต์ ปัจจัยเหล่านนี้ล้วนเป็นเหตุผลที่จะทำให้คุณเลือกเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับคุณได้