🤦♂ ช่วงนี้หลายคนกำลังปวดหัวกับการ ติดต่อแอร์เอเชีย น้อง AVA ผู้ช่วยคนสนิทจากสายการบิน AirAsia หลังจากทางสายการบินได้ปิดระบบ Call center ไปทำให้เวลาเราจะติดต่อสายการบินต้องพูดคุยผ่านน้อง AVA วันนี้พี่ช้างเลยมีวิธีมาฝาก ทำให้เราได้พูดคุยกับพนักงานจริงๆ สื่อสารกันรู้เรื่อง
📝 ตามมาอ่าน และทำตามกันได้เลยครับ สำหรับใครอยากติดต่อสายการบิน AirAsia แบบง่ายๆ ภายใน 7 วินาที*
#หมายเหตุ *7 วินาที เรานับจากเริ่มกดเมนูเข้าไปจนถึงหน้าสนทนากับเจ้าหน้า เราไม่ได้นับช่วงเวลาที่รอเจ้าหน้าทีตัวเป็นๆ ซึ่งในขั้นตอนนี้บางครั้งอาจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและปริมาณผู้ติดต่อเข้าไปในระบบ
STEP 1 : เปิดแอปเข้า Live Chat
สามารถใช้งานวิธีนี้ได้ทั้งMobile app , Website
#Website>>//bit.ly/2pB1Iih
ติดต่อทีม All Star ผ่านเวป
— Mobile App —
#ios >> //apple.co/35iT0UR
#Android >> //bit.ly/34fzwAJ
STEP 2 : ขั้นตอนการพิมพ์
ทางลัดไปคุยกับพนักงานจริงๆ คนเป็นๆภายใน 7 วินาที คือ คำว่า ” Star ” ไปทั้งหมด 4 ครั้ง หลังจากนั้นก็กรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เรื่องที่ต้องการติดต่อ ชื่อ นามสกุล กรณีมีเที่ยวบินสามารถใส่ PNR เข้าไปได้เลย แต่ถ้าไม่มีให้ใส่คำว่า “NONE” ไปหลังจากนั้น ระบบก็จะทำการส่งไปยังทีม All Star
โหลดกระเป๋าเช็คอินที่ดอนเมืองเทอร์มินอลใหม่ ตามหาร้านอาหารในสนามบินดอนเมือง และใช้อาคารจอดรถสนามบินดอนเมืองแบบมั่นๆ ไม่สับสน แค่รู้จักกับทิปส์เหล่านี้
ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2558 ที่ผ่านมา เหล่านักเดินทางที่ใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำในสนามบินดอนเมืองอาจจะรู้สึกมึนงงและสับสนอยู่บ้างสักเล็กน้อย เพราะที่สนามบินอันเก่าแก่ของเมืองไทยแห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงรอบใหม่ นั่นก็คือการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารที่ 2 (Terminal 2) อีกครั้ง หลังจากปิดตัวมานานตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ และได้ย้ายเที่ยวบินในประเทศทั้งหมดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการได้ที่อาคารแห่งนี้ แต่การย้ายอาคารผู้โดยสารใหม่จะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับคุณแน่ เพราะวันนี้ มีเคล็ดที่ไม่ลับดีๆ มาช่วยให้คุณใช้สนามบินดอนเมือง อาคาร 2 แห่งนี้ได้อย่างมั่นใจแน่นอน
การเดินทางไปยังอาคารผู้โดยสาร 2
การเดินทางไปสนามบินดอนเมืองนั้น เราเคยแนะนำให้ทราบกันแล้วใน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราจะพูดถึงการเดินทางเข้าสู่อาคาร 2 ของสนามบินดอนเมืองเลยเพราะเป็นอาคารที่อยู่ติดกัน! โดยการขับรถยนต์มายังสนามบินดอนเมืองอาคาร 2 นั้นก็เพียงแค่มาตามถนนวิภาวดีรังสิตขาออก และใช้สะพานกลับรถเส้นเดียวกับอาคารผู้โดยสารเดิม แต่จะมีป้ายแยกเล็กน้อยชี้มาทางอาคารที่ 2 หรือจะวิ่งผ่านทางเทียบอาคารผู้โดยสารขาออกจากอาคารที่ 1 มาได้เลย โดยจุดสังเกตของอาคาร 2 คือจะมีตัวอักษร “T2” ตัวใหญ่อยู่หัวมุมตึก และเป็นอาคารที่อยู่ทางขวาของอาคาร 1 เมื่อหันหน้าเข้าด้านในอาคารนั่นเอง ซึ่งแต่เดิมอาคารนี้มีอยู่นานแล้วไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่จนทำให้สับสนจนหาไม่เจอแต่อย่างใด
อาคารผู้โดยสาร
หน้าที่ของสนามบินดอนเมืองอาคาร 2 นั้นคือการให้บริการ “เที่ยวบินในประเทศ” เพียงอย่างเดียว แต่จะมีลักษณะอาคารคล้ายกับอาคารเดิมซึ่งประกอบไปด้วยชั้นให้บริการ 4 ชั้น เริ่มต้นจากชั้น 1 คือชั้นของอาคารผู้โดยสารขาเข้า ของดอนเมือง โดยจะมีจุดนัดพบและบริการรถเช่า พร้อมบริการรถสาธารณะทั้งหมดให้บริการบนชั้นนี้ ส่วนชั้น 2 จะเป็นสำนักงานของสายการบิน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการ แต่จะมีศูนย์อาหารราคาประหยัดให้บริการที่นี่ และส่วนที่สำคัญที่สุดของอาคารนี้คือชั้น 3 ชั้นเป็นชั้นของอาคารผู้โดยสารขาออก ซึ่งมีเคาน์เตอร์เช็คอินของเที่ยวบินในประเทศของสนามดอนเมืองทั้งหมดให้บริการ และสุดท้ายคือชั้น 4 เป็นส่วนของร้านค้าและร้านอาหารทั้งหมดคล้ายกับศูนย์การค้าอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางระหว่างรอเที่ยวบิน
การเช็คอินและโหลดกระเป๋า
เคาน์เตอร์เช็คอินของสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 แบ่งออกเป็น 6 แถวดังนี้ (ลำดับแถวนับต่อจากอาคาร 1 ที่ให้บริการสายการบินระหว่างประเทศ)
- แถว 9 สายการบินไทยแอร์เอเชีย
- แถว 10 สายการบินไทยแอร์เอเชีย
- แถว 11 อาร์แอร์ไลน์ / โอเรียนไทย / ไทยไลอ้อนแอร์
- แถว 12 ไทยไลอ้อนแอร์ / ไทยสมายล์
- แถว 14 นกแอร์
- แถว 15 นกแอร์
*ข้ามลำดับแถวที่ 13 เนื่องจากตามความเชื่อถือว่าเป็นเลขไม่ดี
โดยการเข้าเช็คอินกับในทุกแถวนั้นจะแตกต่างจากการใช้บริการในอาคารผู้โดยสาร 1 เพราะอาคารผู้โดยสาร 2 จะใช้ระบบที่อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากขึ้นโดยไม่ต้องต่อคิวสแกนกระเป๋าสัมภาระก่อน ทำให้สามารถนำกระเป๋าโหลดเข้าสายพานกับเคาน์เตอร์สายการบินได้ทันที ส่วนความปลอดภัยนั้นยังคงมั่นใจได้เพราะเครื่องสแกนตรวจหาวัตถุอันตรายนั้นอยู่ในระบบสายพานเหมือนสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว
การจอดรถ
เป็นเรื่องดีที่อาคาร 2 ที่เปิดให้บริการนั้นอยู่ติดกับอาคารจอดรถสนามบินดอนเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสนามบินที่เรียกกันจนติดปากว่า “อาคารจอดรถ 7 ชั้น” ซึ่งเป็นอาคารที่มีระบบทันสมัยทั้งการรับบัตรจอดรถและการชำระเงิน โดยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 250 บาท/วัน และสะดวกสบายต่อการเดินเท้าเข้าอาคารผู้โดยสารเป็นอย่างมาก คุณสามารถเดินจากอาคารจอดรถเพื่อเข้าสู่ชั้น 2 ของอาคารได้ทันทีผ่านทางเชื่อม
อาหารการกิน
อันที่จริงในสนามบินดอนเมืองคุณสามารถพบกับร้านอาหารได้จากทุกชั้น แต่ศูนย์รวมของร้านอาหารในสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 นั้นอยู่ที่ชั้น 4 และภายในเกตของชั้น 3 ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฝรั่งที่เรารู้จักกันดีอย่างเคเอฟซี, แมคโดนัลด์, เดอะพิซซ่า, เบอร์เกอร์คิง, และซับเวย์ หรือจะเป็นร้านกาแฟอย่างคาเฟ่อเมซอน, สตาร์บัค, เดอะคอฟฟี่คลับ, และทอรัสคอฟฟี่ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาศูนย์อาหารที่หนักข้าวในราคาประหยัดกว่า ก็ขอแนะนำเป็นศูนย์อาคาร Magic Food (ชั้น 2 และ 4) และศูนย์อาหาร Dish is Food (ชั้น 4) ก็สามารถอิ่มอร่อยได้เช่นกัน
ที่พักภายในสนามบิน
หลังจากเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ ภายในชั้น 4 จึงมีจุดให้บริการพิเศษที่ไม่เคยมีในสนามบินไหนๆ ของประเทศไทยมาก่อน นั่นคือโรงแรม Sleep Box ที่ให้บริการที่พักแบบรายชั่วโมงสำหรับผู้ที่ต่อเครื่องหรือต้องลงและขึ้นเครื่องในยามวิกาลซึ่งไม่ต้องการนอนพักผ่อนบนเก้าอี้ ในอัตราเริ่มต้น 1,000 บาท ต่อ 3 ชั่วโมง พร้อมคูปองรับประทานอาหาร และคิดชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 200 บาท แต่ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คนั่นก็คือมีบริการที่อาบน้ำให้ด้วยในราคา 300 บาทต่อครั้ง ซึ่งเหมาะกับการนั่งเครื่องมาลงแต่เช้าและต้องการอาบน้ำเป็นอย่างมาก หรือ ที่สะดวกที่สุดสำหรับคุณได้เลย
และทั้งหมดนี้ก็เป็นทิปส์ดีๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้บริการสนามบินดอนเมืองอาคารใหม่ได้อย่างง่ายดายและไม่หลงทาง พร้อมเสาะหาของอร่อยราคาประหยัดได้ถูกชั้น แต่ถ้าคุณต้องโดยสารเครื่องบินไปต่างประเทศล่ะก็ สนามบินอาคาร 1 (อาคารเดิม) ยังเปิดต้อนรับผู้โดยสารทุกท่านอยู่
อาคาร 1 ( Terminal 1 ที่เดิม )
1.สแกนกระเป๋า
2.เช็คอิน
3.โหลดกระเป๋าตรงจุดเช็คอิน
4.เข้าเกท รอขึ้นเครื่อง
อาคาร 2 ( Terminal 2 ที่ใหม่ )
1.เช็คอิน (จากเดิมลำดับที่ 2 )
2 สแกนกระเป๋า (จากเดิมลำดับที่ 1)
2.1 ตามดูว่ากระเป๋าโหลดได้หรือไม่ที่ท้ายแถว
3. เข้าเกท
หลังจากนั้นทุกอย่างเหมือนเดิม
"ใน Terminal 2 นี้ ผู้โดยสารที่ต้องการโหลดสัมภาระหลังจาก Check inจากทางสารการบินแล้ว ต้องเดินมาดูจอมอนิเตอร์ที่อยู่ตรงท้าย Row เพื่อดู ว่ากระเป๋านั้นสามารถโหลดลงเครื่องได้หรือไม่ (กรณีมีวัตถุที่ไม่สามารถโหลดได้ จะถูก Off load ในจุดนี้)"