ย่างเข้าหน้าร้อนทุกปี แอร์กลายเป็นสิ่งขาดไม่ได้ ออกนอกห้องแอร์ทีไรร้อนหูดับตับไหม้ เหงื่อไหลไคลย้อยพาลให้อารมณ์หงุดหงิดไม่เป็นอันทำงานทำการ แต่จะเปิดแอร์ให้เย็นกายสบายใจก็กลัวต้องตกใจกับตัวเลขบิลค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิ แนะนำแนวทางว่าจะเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดเงินค่าไฟในช่วงหน้าร้อนนี้
ล้างแอร์
วิธีแรกที่สุดเลยคือการล้างแอร์ เพราะเมื่อแอร์มีการใช้งานไปนานๆ จะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก กินไฟมากกว่าเดิม และถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยด การล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือจะให้ช่างแอร์มาล้างให้สะอาดเอี่ยมอ่องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลองตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย
มีความเข้าใจว่าอุณหภูมิแอร์ 25 องศาคืออุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุดซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย ความจริงแล้วระดับอุณหภูมิ 25 องศาที่คือระดับอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกสบายที่สุด จึงมีการแนะนำให้ตั้งระดับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา แต่ถ้าใครลองปรับเพิ่มอุณหภูมิเป็น 26-27 องศาแล้วยังรู้สึกสบายตัวอยู่ แนะนำให้ปรับอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟ ถ้าตอนกลางวันอากาศร้อนไม่ไหวจริงๆ อาจจะลองปรับอุณหภูมิเฉพาะในเวลากลางคืนที่อากาศร้อนน้อยกว่า แล้วตั้งเวลาปิดแอร์ 1 ชั่วโมงก่อนตื่นนอน แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว
หลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด
การเปิดแอร์ในห้องที่เปิดโล่งอย่างห้องโถง ที่มีทางขึ้นบันได ทางเดินไปห้องอื่นๆ ไม่มีประตูกั้น นอกจากแอร์ไม่ค่อยเย็นแล้ว ยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติและค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเปิดแอร์ในห้องที่เป็นพื้นที่ปิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้แอร์ในห้องโถงจริงๆ ก็ควรติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิด กั้นทางขึ้นบันได และทางเดินไปห้องอื่นๆ รวมถึงปิดหน้าต่าง ม่านให้เรียบร้อย ซึ่งม่านก็ช่วยลดอุณหภูมิจากแสงดอาทิตย์ภายนอก แอร์ทำงานน้อยลง ประหยัดพลังงานและค่าไฟแล้ว
ใช้พัดลมช่วย
การเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์จะช่วยลดความอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก ยิ่งถ้าเปิดพัดลมช่วยในระหว่างที่เปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วห้อง และถึงแม้จะปรับอุณหภูมิเพิ่มเป็น 26-27 องศา (ตามข้อ 2) การเปิดพัดลมช่วยจะทำให้แอร์เย็นสบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประหยัดไฟกว่าเดิม
หลีกเลี่ยงการนำของร้อน/ของชื้นเข้าห้อง
ปกติการนำของร้อนเข้ามาในห้อง จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นในห้องหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าการมี ต้นไม้ เสื้อผ้าเปียก ภาชนะใส่น้ำของเหลวในห้อง ก็ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะหลักการการทำงานของแอร์ นอกจากจะใช้พลังงาน 30% ลดอุณหภูมิห้องแล้ว ยังใช้พลังงาน 70% กำจัดความชื้นให้อากาศให้ห้องแห้ง ดังนั้นการมีสิ่งที่ก่อความชื้นภายในห้อง ทำให้แอร์ต้องใช้พลังงานทำงานหนักเพื่อกำจัดความชื้นภายในห้อง การหลีกเลี่ยงไม่นำของชื้นและของร้อนเข้ามาในห้องจึงเป็นการช่วยแอร์ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟได้อีกวิธีหนึ่ง
ลองทำตาม 5 เทคนิคนี้ในการช่วยกันใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และประหยัดค่าไฟ เซฟเงินรายจ่ายได้อีกทางหนึ่ง แล้วก็ไม่ต้องออกไปผจญอากาศร้อนข้างนอกเพื่อจ่ายบิลค่าไฟแล้ว เพราะสามารถจ่ายบิลค่าไฟผ่านแอป SCB EASY รวมถึงค่าน้ำประปาในกรุงเทพและต่างจังหวัดได้หมด กดจ่ายเงินเคลียร์ทุกบิลเพียงปลายนิ้ว สะดวกทุกที่ทุกเวลา ดูรายละเอียด คลิกที่นี่
วันนี้บ้าบิ่นจะพามาดูวิธีเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำแถมยังประหยัดค่าไฟ..ไม่ว่าประเทศไทยจะอยู่ในช่วงฤดูไหนก็แล้วแต่ ยังไงก็ยังคงความร้อนไว้ได้สม่ำเสมอ 555+ ยังไงก็ต้องเปิดแอร์อยู่ดี อาจจะไม่ได้เปิดทุกวัน บางบ้านเปิดแอร์แต่แอร์ไม่เย็นแถมค่าไฟพุ่งกระฉูด เป็นเช่นนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูทริคเปิดแอร์ให้เย็นและลดไฟกันเลยดีกว่า 1.ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อไม่ให้ความเย็นระบายออกไปด้านนอก และไม่นำความร้อนภายนอกเข้ามาทำให้เครื่องทำงานหนัก ดังนั้นขณะเปิดแอร์ทุกครั้งเราจึงควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท
2.ล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มที่และช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าไฟฟ้าเราจึงจำเป็นต้องล้างแอร์โดยผู้ที่ชำนาญปีละ 2 ครั้งก็ยังดีค่ะ (อันนี้ช่วยลดค่าไฟได้จริงๆ)
3.ปรับอุณหภูมิให้เป็นและใช้พัดลมช่วย อุณหภูมิที่เย็นสบายอยู่ที่ 25-26 องศา ถ้าเปิดมากกว่านี้ก็จะร้อนไปค่ะ ถ้าอยากจะประหยัดไฟจริงๆเราควรเปิดที่ 27-28 องศาแล้วเปิดพัดลมช่วย เพราะการที่แอร์ทำงานเบาลงทำให้ค่าไฟลดลงอีกด้วย
4.ไม่นำความชื้นเข้าห้อง หากต้องการให้แอร์ทำงานน้อยลงและประหยัดไฟไม่ควรนำความชื้นเข้ามาไว้ในห้อง เช่นกระถางต้นไม้ การตากผ้า หรือทำเกร็ดระบายอากาศของประตูห้องน้ำในห้อง เป็นต้น
5.ปิดก่อนออก ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 - 1 ชั่วโมง เพราะยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่ จะช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี