ความเชื่อเรื่องตากระตุกข้างขวาคืออะไรกันนะ!?
ก่อนจะไปเข้าเรื่องเข้าราวของเรานั้น มาดามก็มีเกร็ดความรู้มากฝากคุณกันอีกเช่นเคย โดยเราจะมาพูดถึงความเชื่อเรื่องตากระตุกข้างขวากัน โดยเราคนไทยเชื่อกันว่าใครที่ตากระตุกข้างขวานั้นจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้น ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วย ดังนี้
- ตากระตุกข้างขวาช่วงตื่นนอน – 9.00 น. => ทำนายว่าจะมีญาติมาเยี่ยม
- ตากระตุกข้างขวาช่วง 9.01 – 12.00 น. => ญาติจะนำสิ่งของบางอย่างมาให้
- ตากระตุกข้างขวาช่วง 12.01 – 16.00 น => สิ่งที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จ
- ตากระตุกข้างขวาช่วง 16.01 – 19.00 น => จะได้พบเพื่อนหรือญาติสนิทที่ห่างหายกันไปนาน
- ตากระตุกข้างขวาช่วง 19.01 – ก่อนนอน => ระวังปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว
จากข้อมูลข้างต้นก็จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องทั่วไปเท่านั้น จะมีแย่ก็ตอนช่วงกลางคืนแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าใครตากระตุกข้างขวา อาจจะต้องดุช่วงเวลาเป็นหลักแล้วล่ะ
ตากระตุกคืออะไร
ก่อนที่เราจะไปกันต่อ มาดามอยากให้รู้จักกันก่อนว่าตากระตุกตามหลักวิทยาศาสตร์คืออะไรกันแน่ โดยเจ้าอาการตากระตุกนี้ก็คือ อาการที่เปลือกตานั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปมักจะไม่มีความอันตราย และสามารถหายเองได้
สาเหตุของอาการตากระตุก
ทีนี้เรามาดูกันต่อว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตากระตุกนั้นมีอะไรบ้าง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีความเครียดสะสม
- ดื่มคาเฟอีนมาเกินไป
- จ้องแสงจ้าเป็นเวลานาน
- ตาล้า ตาแห้ง
- สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ภูมิแพ้
- ขาดสารอาหาร
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
จะเห็นได้ว่าอาการตากระตุกนั้น มีสาเหตุจากกที่ตาแห้ง และจากการจ้องแสงจ้าๆ เป็นเวลานานๆ ด้วยดังนั้น การสวมแว่นกันแดดหรือแว่นกรองแสงก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะ
BEWELL แว่นตัดแสงสีฟ้า กรอบเหลี่ยม สีเทา
ราคา: 1,365 790 บาท (42%)
MARCO POLO แว่นกันแดด Silvester Slim สีน้ำตาล
ราคา: 5,990 บาท
ต้องพบแพทย์เมื่อเจออาการเหล่านี้
แม้ว่าอาการตากระตุกโดยทั่วไปแล้วจะไม่เป็นอันตราย แต่หากเกิดกรณีเหล่านี้ให้ไปพบแพทย์ทันที
- มีอาการต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ หรือยาวนานกว่านั้น
- การกระตุกเพิ่มมากขึ้น จากตาขวาไปตาซ้าย หรือกระจายไปตามใบหน้า
- บริเวณที่กระตุกเกิดการหดเกร็ง
- บวมแดง มีสารคัดหลั่งไหลออกจากดวงตาฃ
- เปลือกตาด้านบนห้อยลงมารบกวนการมองเห็น
- เปลือกตาปิดสนิททุกเครื่อง เมื่อตากระตุก
ในบรรดาที่มาดามกล่าวมานี้ อาการที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการที่เปลือกตาด้านบนห้อยลงมา เพราะเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง อาทิ โรคอัมพาตใบหน้า (Bell’s Palsy) โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) เป็นต้น ถึงจะพบได้น้อย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอาการนี้ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดทันที
ความเชื่้อเกี่ยวกับเรื่องตากระตุก เขม่นตาและการเขม่นร่างกายตามส่วนต่างๆนี้ มีความเชื่อสืบเนื่องมาอย่างช้านาน บ้างก็ว่าเป็นลางบอกเหตุ บ้างก็ว่าเกิดจากอาการเมื่อยล้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ในวันนี้เราจึงมาบอกความเชื่อโบราณเกี่ยวกับเรื่องตากระตุก เขม่นตาและการเขม่นร่างกายตามส่วนต่างๆนี้ว่าเป็นลางบอกเหตุอะไรบ้าง ตามมาดู[ads]
1. ตากระตุก เขม่นหนังตาขวา เชื่อว่า
• จะได้รับข่าว ดีจากวงศาคณาญาติ หรือมิตรสหาย
2. ตากระตุก เขม่นหนังตาซ้าย เชื่อว่า
• จะได้ลาภทางความรัก
3. ตากระตุก เขม่นคิ้วขวา เชื่อว่า
• จะมีโชคลาภมาสู่ หรือลูกหนี้จะนำเงินมาให้ถึงบ้าน หรืออาจได้ลาภลอย
4. ตากระตุก เขม่นคิ้วซ้าย เชื่อว่า
• จะเสียทรัพย์ มีคนนำความเดือดร้อนมาให้ อาจเสียเงินเสียทอง
5. ริมฝีปากบนกระตุก เขม่นริมฝีปากบน เชื่อว่า
• จะได้ลาภลอย จะได้เงินทองโดยไม่นึกฝัน
Advertisement
6. ริมฝีปากล่างกระตุก เขม่นริมฝีปากล่าง เชื่อว่า
• จะได้ลาภปาก
7. ปากข้างขวากระตุก เขม่นปากข้างขวา เชื่อว่า
• ไม่ดี อาจเกิดการทะเลาะวิวาท
8. ปากข้างซ้ายกระตุก เขม่นปากข้างซ้าย เชื่อว่า
• จะได้โชคลาภใหญ่ในเวลาไม่นานนัก
9. เขม่นที่จมูก เชื่อว่า
• จะได้รับข่าวร้าย จากมิตรสหายหรือวงศาคณาญาติ
10. เขม่นที่หู เชื่อว่า
• จะได้รับข่าวดีจากทางไกล
11. เขม่นที่ศอก เชื่อว่า
12. จะมีคนนำของมาให้ แต่อย่ารับไว้จะเกิดโทษ
13. เขม่นที่ขา เชื่อว่า
• จะมีการเดินทางไกลในระยะเวลาอันใกล้
หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ก็ได้ทราบถึงความเชื่อโบราณเกี่ยวกับเรื่องตากระตุก เขม่นตาและการเขม่นร่างกายตามส่วนต่างๆนี้ว่าเป็นลางบอกเหตุอะไรบ้างกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ความเชื่อนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ