เปิด/ปิดแถบข้าง
ค้นหา
- สร้างบัญชี
เครื่องมือส่วนตัว
สร้างบัญชี
เข้าสู่ระบบ
หน้าสำหรับผู้แก้ไขที่ออกจากระบบ เรียนรู้เพิ่มเติม
- คุย
- ส่วนร่วม
การนำทาง
- หน้าหลัก
- ถามคำถาม
- เหตุการณ์ปัจจุบัน
- สุ่มบทความ
- เกี่ยวกับวิกิพีเดีย
- ติดต่อเรา
- บริจาคให้วิกิพีเดีย
มีส่วนร่วม
- คำอธิบาย
- เริ่มต้นเขียน
- ศาลาประชาคม
- เปลี่ยนแปลงล่าสุด
- ดิสคอร์ด
เครื่องมือ
- หน้าที่ลิงก์มา
- การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวโยง
- อัปโหลดไฟล์
- หน้าพิเศษ
- ลิงก์ถาวร
- สารสนเทศหน้า
- สิ่งนี้ใน วิกิสนเทศ
พิมพ์/ส่งออก
- สร้างหนังสือ
- ดาวน์โหลดเป็น PDF
- รุ่นพร้อมพิมพ์
ภาษา
ลิงก์ข้ามไปยังรุ่นภาษาอื่นของบทความนี้ถูกย้ายไปด้านบนแล้วที่ทางขวาของชื่อหน้า ไปด้านบน
หมวดหมู่:ชีวิตประจำวัน
Add languages
เพิ่มลิงก์ข้ามภาษา
- หมวดหมู่
- อภิปราย
ไทย
- อ่าน
- แก้ไข
- ดูประวัติ
เพิ่มเติม
- อ่าน
- แก้ไข
- ดูประวัติ
คำอธิบาย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หมวดหมู่ย่อย
หมวดหมู่นี้มี 7 หมวดหมู่ย่อยต่อไปนี้ จากทั้งหมด 7 หมวดหมู่
ก
การบันเทิง (41 ม, 20 น)
กิจวัตรของมนุษย์ (1 ม, 6 น)
ค
เครื่องอุปโภค (11 ม, 4 น)
ง
-
งานอดิเรก (19 ม, 18 น)
ส
สัตว์เลี้ยง (14 ม, 17 น)
สุขภาพ (24 ม, 26 น)
อ
อาหารและเครื่องดื่ม (21 ม, 9 น)
หน้าในหมวดหมู่ "ชีวิตประจำวัน"
มีบทความ 3 หน้าในหมวดหมู่นี้จากทั้งหมด 3 หน้า รายการที่ปรากฏด้านล่างอาจไม่รวมการแก้ไขล่าสุด
น
- นันทนาการ
ป
- ปัจจัยสี่
ส
- สาธารณสุขมูลฐาน
เข้าถึงจาก "//th.wikipedia.org/w/index.php?title=หมวดหมู่:ชีวิตประจำวัน&oldid=6514322"
หมวดหมู่:
- จิตศาสตร์
การมีระเบียบและรักษาความเสมอต้นเสมอปลายในชีวิตนั้นสำคัญมาก แต่เมื่อไม่มีการกำหนดกิจวัตรประจำวัน การทำกิจกรรมต่างๆ ก็อาจยุ่งเหยิง วุ่นวายและสับสนไปหมด การกำหนดกิจวัตรที่เราสามารถทำตามได้นั้นสำคัญต่อการรักษาระเบียบ และช่วยให้ครอบครัวทำภาระหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงไปได้
-
1
สร้างตารางที่มีแปดช่อง. นี้จะเป็นการทำตารางกิจวัตรแบบรายสัปดาห์ เริ่มเขียนเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอนที่ช่องทางซ้ายสุด ส่วนช่องอื่นๆ ควรเป็นช่องชื่อวันในหนึ่งสัปดาห์
- ตัวอย่างเช่น ถ้าเราตื่น 7 โมงเช้าและเข้านอนตอน 5 ทุ่ม ให้เขียนแถวแรกในช่องซ้ายเป็น 7 นาฬิกา เขียนเวลาลงมาเรื่อยๆ ทีละชั่วโมง จนกระทั้งถึง 11 โมง
- ลองสร้างตารางให้แต่ละคนในครอบครัว ทุกคนจะได้มีระเบียบวินัยมากขึ้น
-
2
จัดเวลาให้แน่นอน. ดูตารางและระบุเวลาที่เรามักจะทำกิจกรรมหนึ่งๆ เสมอ[1] ตัวอย่างเช่น ถ้ากินอาหารกลางวันเวลาเที่ยงถึงบ่ายหนึ่ง ก็ให้ลงตารางไว้เลย กิจกรรมอื่นๆ ที่เราควรจัดตารางเวลาไว้ด้วยได้แก่
- เวลาประชุม
- เวลาเข้าเรียนและเวลาทบทวน
- เวลาเข้านอน
- เวลาทำกิจกรรมทางศาสนา
- เวลานัดหมายต่างๆ
- เวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกๆ
- เวลาทำกิจกรรมร่วมกับคู่ชีวิต
- เวลาเดินทางไปทำงาน
- เวลาออกกำลังกาย
-
3
จัดตารางให้มีช่วงพักผ่อนหย่อนใจ. การพักผ่อนหย่อนใจนั้นสำคัญต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกับงานและการศึกษา ในความเป็นจริงแล้ว การพักผ่อนหย่อนใจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดโอกาสการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอ้วน[2]นอกจากนี้ยังลดระดับความเครียดด้วย ฉะนั้นจึงควรมีการจัดตารางให้มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ กิจกรรมดีๆ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเช่น
- เล่นกีฬานันทนาการ
- ทำกิจกรรมที่วายเอ็มซีเอ
- เข้าร่วมทำกิจกรรมของโบสถ์หรือของวัด
- ร่วมโครงการต่างๆ ที่สวนสาธารณะและศูนย์ชุมชน
- ลองจัดตารางให้มีเวลานันทนาการพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว มีโครงการมากมายที่ทำให้ครอบครัวได้มีโอกาสทำอะไรสนุกสนานร่วมกัน
-
4
จัดลำดับความสำคัญ เรื่องต่างๆ และเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดคิด. คุณอาจมีตารางงานซึ่งเกิดเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้ายหรือเจออุปสรรค หรือต้องเปลี่ยนช่วงเวลาและเวลาไม่พอดีกันกับคนอื่นๆ ในตารางงาน ไม่มีอะไรต้องหวาดหวั่น จำไว้ว่า ชีวิตมันเอาแน่เอานอนไม่ได้! คุณจำต้องเรียนรู้ว่าจะจัดลำดับสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำเพื่อดูว่าอะไรสำคัญที่สุด
- ลองคิดว่าคุณสามารถปรับตารางงานได้ไหมถ้าคิดว่ามันสำคัญหรือจำเป็น และอะไรที่คุณสามารถถ่ายไปให้คนอื่นทำแทนได้ เป็นต้น
-
5
ทดลองทำตามตารางเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์. พยายามแบ่งเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ให้เพียงพอ ตัวอย่างเช่น ให้เวลาเดินทางจากที่บ้านไปที่ทำงานและจากที่ทำงานมาที่บ้านเพียงพอไหม หรือสังเกตเห็นว่าตนเองไปทำงานสายบ่อยๆ หรือต้องเร่งรีบเพื่อไปให้ทันเวลาไหม
-
6
ปรับตารางเท่าที่จำเป็น. เราจะปรับตารางก็ต่อเมื่อสังเกตเห็นปัญหาเมื่อทำกิจวัตรตามตารางแรก [3] การปรับตารางจะสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของตัวเรามากขึ้น
- ตัวอย่างเช่น ถ้าเห็นว่าเรามาทำงานสาย 15 นาทีเป็นประจำ ก็ให้ปรับตารางด้วยการเพิ่มเวลาเดินทางสัก 20 นาที
โฆษณา
-
1
กำหนดเวลาเข้านอน. การเลือกเวลาเข้านอนให้เหมาะกับตนเองเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในกิจกรรมตอนเช้าที่สำคัญที่สุดและควรทำให้เป็นเวลาคือการตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้า ยอมรับเสียเถอะว่าถ้าเราตื่นสาย ก็จะกระทบกับเวลาที่เหลือของวัน แต่ถ้าเรานอนหลับเพียงพอ เราก็น่าจะตื่นนอนตามเวลาทุกเช้า เราต้องเลือกเวลาเข้านอนให้เหมาะกับลูกๆ ด้วย
- รู้ว่าเราต้องหลับนานกี่ชั่วโมงถึงจะรู้สึกสดชื่นในตอนเช้า จากนั้นถึงจะรู้ว่าเราต้องเข้านอนกี่โมงเพื่อจะได้นอนอย่างเพียงพอ อาจต้องทดลองหลับในจำนวนชั่วโมงที่ต่างกันเป็นเวลาสองสามวัน จะได้รู้ว่าหลับกี่ชั่วโมงถึงจะเหมาะกับเรา
- รู้ไว้ว่าคนที่มีสุขภาพดีส่วนใหญ่ต้องหลับ 7-9 ชั่วโมงและเด็กต้องหลับ 10 -14 ชั่วโมงโดยขึ้นอยู่กับอายุ [4]
- การเริ่มลดช่วงเวลาก่อนเข้านอนประมาณ 30 นาทีอาจมีประโยชน์ พยายามปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เราจะได้มีเวลาอยู่เงียบๆ ก่อนเข้านอน นี้เป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมวิธีการหนึ่งที่จะหยุดกิจกรรมต่างๆ ในวันนั้นเพื่อเตรียมตัวเข้านอน
-
2
ตั้งนาฬิกาปลุก. หลายคนอาจคิดว่ากิจวัตรตอนเช้าเริ่มขึ้นในตอนเช้า แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย การตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนกลางคืนก่อนเช้าวันรุ่งขึ้นจะช่วยทำให้เราตื่นตรงเวลา
- พยายามวางนาฬิกาปลุกให้ห่างไกลจากเตียง จะได้ไม่เผลอกดปุ่มปิดในตอนเช้า และทำให้เราเสี่ยงที่จะไม่สามารถทำตามตารางเวลาได้ วิธีนี้จะทำให้เราตื่นขึ้นมาเพื่อเดินไปปิดนาฬิกาปลุกเอง
- อีกวิธีหนึ่งคือตั้งนาฬิกาปลูกไว้สองเรือน และวางให้ห่างจากเตียงทั้งคู่ ตั้งเวลาให้ห่างกันประมาณ 10 นาที ถ้าใช้วิธีนี้ ถึงแม้เราจะกลับไปนอนต่อหลังจากปิดนาฬิกาเรือนแรกไปแล้ว นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้เรือนที่สองจะช่วยให้เราตื่นตามเวลา
- ต้องตั้งนาฬิกาปลุกให้เรามีเวลาพอปลุกลูกๆ ตามเวลา เราอาจต้องการเวลาสักสองสามนาทีเพื่อให้ตื่นเต็มที่
-
3
จัดเวลาให้กับกิจกรรมที่ชอบทำในตอนเช้า. หลายคนมีกิจกรรมที่ชอบทำก่อนที่จะเริ่มทำกิจวัตรประจำวัน กิจกรรมที่เรามักจะชอบทำตอนเช้าอย่างเช่น สวดมนต์ ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ จดบันทึก หรือแม้แต่ใช้เวลาอยู่คนที่เรารักเงียบๆ ในตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไร ให้ใส่เข้าไปในตารางด้วย การจงใจจัดเวลาทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการทำกิจวัตรไม่ทันตามกำหนดได้
- จัดเวลาทำกิจกรรมที่เราชอบทำในตอนเช้า ให้เวลาทำกิจกรรมนั้นสักครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง หรือสองชั่วโมง
- การทำกิจกรรมที่ชอบทำในตอนเช้าก่อนเริ่มกิจวัตรช่วยทำให้เราจิตใจผ่องใส และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ การออกกำลังกายเบาๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และเป็นวิธีการที่เร็ววิธีการหนึ่งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตลอดวัน การออกกำลังกายอย่างง่ายอย่างเช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้ออาจเป็นขั้นตอนหนึ่งของการออกกำลังกายตอนเช้าก็ได้[5]
-
4
ใช้นาฬิกาจับเวลาขณะที่อาบน้ำชำระร่างกาย. เมื่อเราอาบน้ำ ง่วนกับความสวยความงาม แต่งตัว หรือทำกิจกรรมเพื่อสุขอนามัยอื่นๆ ก็อาจใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนดได้ง่าย แต่การใช้นาฬิกาจับเวลาจะช่วยให้เราทำตามกำหนดเวลาได้ เราสามารถหาซื้อนาฬิกาจับเวลาแบบราคาไม่แพงได้ตามร้านค้า
- พ่อแม่บ้างคนเลือกอาบน้ำตอนที่ลูกๆ กินอาหารเช้า[6] แต่พ่อแม่คนอื่นๆ เลือกกินอาหารเช้าพร้อมกันกับลูกๆ มากกว่า
- การอาบน้ำก่อนนอนก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เราทำตามกำหนดการในตอนเช้าได้
-
5
หาวิธีใช้เวลาอย่างชาญฉลาด. การทำงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกันเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้ครอบครัวมีระเบียบวินัย ตัวอย่างเช่น เราสามารถคิดหาวิธีการต่างๆ ที่สามารถทำงานบ้านให้เสร็จไปพร้อมกับเตรียมตัวให้พร้อมที่จะไปทำงานในตอนเช้าได้ การให้ลูกๆ ช่วยก็อาจมีประโยชน์ด้วย นี้คือคำแนะนำ[7]
- นำผ้าใส่เครื่องซักก่อนไปทำงาน เราจะได้เอาผ้าที่ซักแล้วใส่เครื่องอบผ้าตอนกลับถึงบ้าน
- ถ้าเราเลี้ยงสุนัข เราอาจให้ลูกๆ ช่วยเตรียมตัวพาสุนัขไปเดินเล่น ขณะที่เราไปอาบน้ำ ตัวอย่างเช่น ลูกๆ อาจเตรียมสายจูงและ "ถุงเก็บมูลสุนัข" เมื่ออาบน้ำเสร็จ เราก็จะได้พาสุนัขไปเดินเล่นกับลูกๆ ได้เลย
- ให้เด็กที่โตกว่าช่วยเตรียมตัวเด็กที่เล็กกว่าให้พร้อมไปโรงเรียน การให้พี่อายุสิบขวบช่วยหารองเท้าของน้องที่อยู่ชั้นอนุบาลช่วยประหยัดเวลาได้จริงๆ
-
6
กินอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ. อาหารเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ฉะนั้นเราจึงควรกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพทุกเช้า[8] ถ้าเราไม่ค่อยได้กินอาหารเช้า ให้ลองหาสาเหตุว่าทำไมเราถึงไม่กินอาหารเช้า อาจเป็นเพราะว่าเรารีบ หรือแค่ไม่ชอบอาหารเช้า ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอย่างไร ให้ยอมรับและหาวิธีการให้เราได้กินอาหารเช้าเป็นกิจวัตร
- ถ้าไม่ชอบอาหารเช้า ให้ลองกินอาหารแบบที่เรากินในมื้อเที่ยงเป็นอาหารเช้าแทน
- ถ้าเห็นว่าตนเองมักเร่งรีบในตอนเช้า ให้เข้านอนเร็วอีกนิด จะได้ตื่นเช้ากว่านี้อีกสักหน่อย
- ถ้าตอนเช้าไม่หิวเลย อย่างน้อยให้กินของว่างรองท้อง จำไว้ว่าอาหารคือแหล่งพลังงาน ฉะนั้นการให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างพอเหมาะจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
-
7
ออกจากบ้านตรงเวลา. การออกจากบ้านตามเวลาที่กำหนดไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องเร่งรีบนั้นสำคัญ ต้องให้เวลาทำกิจกรรมทุกอย่างที่เราต้องทำระหว่างทางไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการแวะส่งลูกๆ ที่ศูนย์ดูแล หรือแวะดื่มกาแฟตอนเช้า เราต้องให้เวลาเดินทางจากบ้านถึงที่ทำงานมากเข้าไว้
- รู้ว่าต้องใช้เวลาไปถึงที่ทำงานมากเท่าไร รวมถึงการแวะระหว่างทางด้วย ลองจับเวลาตนเองเช้าวันหนึ่งตามความเป็นจริงเพื่อจะได้ประมาณเวลาได้อย่างถูกต้อง จากนั้นเพิ่มเวลาไปสัก 15 นาทีเผื่อรถติด หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันอื่นๆ การไปทำงานสายจะทำให้เราไม่สามารถทำตามตารางเวลาได้ และจะรู้สึกว่าชีวิตไม่มีระเบียบอย่างแน่นอน
- การพยายามจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ก่อนรุ่งเช้า วิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาและช่วยให้เราออกจากบ้านตรงเวลาในตอนเช้า
- ช่วงที่เรานั่งรถไปโรงเรียนเป็นเวลาที่เหมาะต่อตรวจแก้การบ้าน ท่องคำศัพท์ หรือทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะถ้าเรายุ่งจนไม่มีเวลาทำตอนดึกคืนก่อนหน้า
โฆษณา
-
1
เตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่วันถัดไป. การเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่วันถัดไปขณะที่ลูกๆ อาบน้ำเป็นวิธีประหยัดเวลาที่ดีเยี่ยม[9] ตอนที่ลูกๆ อาบน้ำ เราสามารถใช้เวลานี้เลือกเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้เขาเพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องเร่งรีบ
- ถ้าลูกๆ ยังเล็กอยู่มาก อย่าทิ้งพวกเขาไว้ในอ่างอาบน้ำตามลำพัง ถ้าลูกโตแล้ว เขาเลือกเสื้อผ้าไว้ใส่พรุ่งนี้เองได้ หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว
- ต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมตอนกลางคืน เตรียมรองเท้า ถุงเท้า และของเพิ่มเติมอย่างเช่น ที่คาดผม และเครื่องประดับ ต้องวางหวีต่างๆ ไว้ในที่ของมันเพื่อจะได้ไม่ต้องมาหาตอนเช้า
- อีกวิธีหนึ่งคือ เตรียมเสื้อผ้ารวมทั้งของเพิ่มเติมสำหรับทั้งสัปดาห์ในตอนค่ำวันอาทิตย์
- ต้องเตรียมเสื้อคลุม หมวก และถุงมือไว้ในที่ประจำเผื่อวันที่อากาศหนาว
-
2
เตรียมกระเป๋าทุกใบให้พร้อม. เตรียมกระเป๋าทุกใบให้พร้อมและวางไว้ที่ประจำของมันก่อนเข้านอน[10] วิธีนี้จะทำให้เราคว้ากระเป๋าออกจากบ้านได้เลย กระเป๋าที่ควรเตรียมไว้ได้แก่
- กระเป๋าใส่หนังสือ
- กระเป๋าทำงาน
- กระเป๋าใส่อาหารกลางวันสำหรับลูกๆ และเตรียมอาหารที่ไม่เสียง่ายไว้ตอนดึก เตรียมอาหารที่เสียง่ายและถุงเก็บความเย็นเพิ่มในตอนเช้า
-
3
จัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าไว้ล่วงหน้า. การจัดเตรียมโต๊ะอาหารไว้ก่อนวันรุ่งขึ้นจะทำให้ตอนเช้าของเราราบรื่นมากขึ้น จัดวางแผ่นรองจาน ถ้วย ชาม ช้อน และซีเรียลไว้ตอนดึก จะได้ประหยัดเวลาเมื่อถึงตอนกินอาหารเช้า[11] ที่เหลือซึ่งต้องเตรียมตอนเช้าก็มีแค่นมและน้ำส้ม วิธีนี้ได้ผลดีถ้าครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่ชอบกินซีเรียลเป็นอาหารเช้า
- เราอาจต้องล้างจานหลังกินอาหารเย็นเสร็จ จะได้มีจานที่สะอาดไว้จัดโต๊ะก่อนเข้านอน
-
4
กรอกแบบฟอร์ม. การรอเวลาให้ถึงเช้าเพื่อจะกรอกแบบฟอร์มจากทางโรงเรียนอาจทำให้เราไม่สามารถทำตามตารางเวลาได้ เพราะอาจใช้เวลา ทำให้เราต้องเร่งรีบกรอกจนนาทีสุดท้าย หรือลืมเรื่องนี้ไปเลย ควรให้มีกล่องใส่แบบฟอร์มจากโรงเรียน เวลาเด็กๆ กลับมาถึงบ้านก็ให้เขาใส่ไว้ [12] หลังจากเด็กๆ เข้านอนแล้ว กรอกแบบฟอร์มให้เสร็จแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กๆ ไว้ พวกเขาจะได้พร้อมเอาไปส่งคุณครูเช้าวันรุ่งขึ้น
-
5
เขียนรายการที่ต้องทำประจำวัน. การเขียนรายการที่ต้องทำไว้ล่วงหน้าก่อนวันรุ่งขึ้นนั้นมีประโยชน์มาก วิธีนี้จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเป็นระเบียบ ดูปฏิทินและตารางก่อนเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ เราจะได้ไม่ลืม
- การแขวนปฏิทินประจำครอบครัวไว้อาจมีประโยชน์ [13] ทุกคนยกเว้นเด็กเล็กมีหน้าที่ต้องเขียนกำหนดการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตลงไป ตัวอย่างเช่น อารียาจะเขียนว่าต้องไปเต้นประกอบเพลงหรือเล่นเบสบอลวันไหนและเวลาใด
โฆษณา
-
1
ฝึกเด็กให้ทำตามตารางประจำวัน. หาว่าเวลาไหน ลูกมักจะทำอะไร และพยายามให้เขาทำกิจกรรมนั้นตามเวลาทุกวัน เมื่อลูกๆ และพ่อแม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป ก็จะทำให้การทำตามกิจวัตรง่ายขึ้น กิจกรรมที่เราอาจต้องใส่ไว้ในตารางเช่น
- เวลานอนเข้านอน เวลาตื่น และเวลางีบหลับ
- เวลาอาบน้ำ
- เวลาออกจากโรงเรียน หรือศูนย์เลี้ยงเด็ก
- เวลาทำกิจกรรมนอกหลักสูตร
- เวลากินอาหาร
- เวลาทำกิจกรรมอื่นที่กำหนดเอาไว้แล้ว
-
2
จัดบ้านให้เป็นระเบียบ. เด็กที่สมาธิสั้นพยายามอย่างหนักที่จะจดจำว่าตนเองวางของไว้ที่ไหน นี้อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายทีเดียวเมื่อเราพยายามทำตามตารางเวลา แต่ก็ต้องวุ่นวายเพราะลูกจำไม่ได้ว่าวางกระเป๋าอาหารกลางวันไว้ที่ไหน จัดบ้านให้เป็นระเบียบ ลูกจะได้มีพื้นที่พอสมควรไว้เก็บของของเขา ตัวอย่างเช่น เขาอาจเก็บกระเป๋าหนังสือไว้ในกล่องซึ่งวางถัดจากประตูหน้า หรือเก็บดินสอไว้ในลิ้นชักโต๊ะ จัดบ้านให้บ้านเป็นระเบียบเหมาะกับครอบครัวและรูปแบบการดำเนินชีวิต
-
3
วางแผนทำการบ้าน. ให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จทีละนิด ในระหว่างที่เสร็จแต่ละอย่าง อนุญาตให้เขาพักสั้นๆ การใช้นาฬิกาจับเวลาน่าจะมีประโยชน์ในการช่วยให้ลูกทำการบ้านจนเสร็จ
- เตรียมสถานที่พิเศษไว้ให้ลูกทำการบ้านและเก็บอุปกรณ์ของของเขา จำไว้ว่าเด็กๆ นั้นไม่เหมือนกัน เด็กบางคนต้องการที่เงียบๆ ห่างไกลจากคนอื่นเพื่อจะได้มีสมาธิทำการบ้าน ขณะที่เด็กอื่นๆ อาจต้องมีพ่อแม่อยู่ใกล้เพื่อให้คำแนะนำเวลาทำการบ้านด้วย
-
4
เขียนคำสั่งลงกระดาษ. กระตุ้นเตือนด้วยการเขียนเพื่อช่วยเด็กให้จดจ่อกับการทำตามกิจวัตรประจำวัน ควรเขียนคำสั่งสั้นๆ เด็กจะได้ไม่ไขว้เขว
- การเขียนรายการต่างๆ เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กสมาธิสั้นทำตามกิจวัตรได้ พยายามติดป้ายบอกสิ่งที่ต้องทำสักสิ่งหนึ่งไว้ที่ประตูทางออก ในห้องของเด็ก หรือที่ไหนก็ได้ที่จะช่วยให้เขาจำได้ว่าต้องทำกิจวัตรอะไรบ้าง
-
5
ชมเชยให้มาก. เมื่อเห็นว่าลูกพยายามทำตามกิจวัตรประจำวัน ให้ชมเขา การชมจะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาทำตามกิจวัตรต่อไปอย่างสุดความสามารถ อย่าดูแค่รายละเอียดแต่นึกถึงความพยายามของเขาด้วย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ใช้เวลาช่วงต้นสัปดาห์ทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันอาทิตย์ ให้ทำตารางกิจวัตรประจำวันสำหรับสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง
- แขวงตารางไว้ที่ตู้เย็น และเขียนรายการกิจกรรมของลูกๆ ทุกวัน วิธีนี้จะช่วยเราให้จำได้ว่ากิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นวันไหนบ้าง ตัวอย่างเช่น ปิยพลมีซ้อมบอลวันอังคาร และปิยภัทรมีซ้อมร้องประสานเสียงซึ่งเป็นซ้อมใหญ่ในวันพุธ
- การวางแผนกิจกรรมที่ต้องทำทั้งสัปดาห์ในวันอาทิตย์เป็นอีกวิธีการประหยัดเวลาและรักษาความเป็นระบบระเบียบที่ดีเยี่ยมวิธีหนึ่ง วิธีนี้จะทำให้เรารู้ว่าจะเก็บตุนอาหารที่จำเป็นแต่ละวันในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงอย่างไร
- ฝึกวางของให้เป็นที่จนเป็นนิสัย จะได้ไม่เสียเวลาหาในตอนเช้า (กุญแจ กระเป๋าหนังสือ อาหารสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ)
- ให้รางวัลเล็กๆ แก่ตนเองทุกครั้งเมื่อเห็นว่าตนเองทำตามกิจวัตรได้สำเร็จ
- ชมลูกทันทีเมื่อเขาทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,710 ครั้ง