จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การวางแผนเป็นกระบวนการคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติต่าง ๆ ในการบรรลุเป้าหมาย เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลที่ต้องการ เป็นกระบวนการที่อาศัยการสร้างและรักษาแผนการ เป็นการเตรียมขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมาย และเป็นเทคนิคหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดต่อการจัดการโครงการและเวลา ดังนั้น คนวางแผนดีจะสามารถลดเวลาและพลังงานในการบรรลุเป้าหมาย ในจิตวิทยา การวางแผนถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของพฤติกรรมอัจฉริยะ เป็นกระบวนการที่อาศัยทักษะเชิงมโนทัศน์ (ทักษะในการเข้าใจและการใช้มโนทัศน์หรือแนวคิด) โดยความสามารถในการวางแผนดีสามารถประเมินได้โดยแบบทดสอบต่าง ๆ
การวางแผนมีกระบวนการเฉพาะและเป็นกระบวนการที่จำเป็นในหลายอาชีพ โดยเฉพาะในอาชีพการจัดการและธุรกิจ โดยแต่ละอาชีพจะใช้แผนการต่างชนิดเพื่อให้บริษัทมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงขึ้น
คุณสมบัติสำคัญหนึ่งของการวางแผน ที่มักถูกมองข้าม คือความสัมพันธ์ระหว่างการวางแผนและการพยากรณ์ (forecasting) การพยากรณ์คือการทำนายว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่การวางแผนคือการทำนายว่าอนาคตควรเป็นอย่างไรในสถานการณ์ต่าง ๆ การพยากรณ์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผน แต่การวางแผนจะอาศัยการเตรียมพร้อมในสถานการณ์ต่าง ๆ และอาศัยการกำหนดว่าจะตอบรับกับสถานการณ์เหล่านั้นอย่างไร
กระบวนการของการวางแผน[แก้]
ตัวอย่างกรอบความคิดของกระบวนการของการวางแผน
แพทริก มอนแทนากับบรูส ชาร์นอฟแบ่งกระบวนการของการวางแผนเป็น 3 ขั้น ได้แก่[1]
- เลือกเป้าหมาย
- ประเมินวิธีต่าง ๆ ในการบรรลุเป้าหมาย
- ตัดสินว่าแนวทางปฏิบัติในแผนการควรเป็นอย่างไร
การวางแผนในองค์การต่าง ๆ อาจเป็นกระบวนการของการจัดการ ซึ่งกำหนดเป้าหมายเพื่อชี้ทางในอนาคตและกำหนดภาระหน้าที่และทรัพยากรที่ต้องใช้ต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ในการบรรลุเป้าหมายนี้ ผู้จัดการอาจพัฒนาแผนการ เช่น แผนธุรกิจ หรือแผนการตลาด เพื่อนำมาใช้
การวางแผนย่อมมีวัตถุประสงค์ ซึ่งอาศัยการบรรลุเป้าหมาย
คุณสมบัติหลักของการวางแผนในองค์การได้แก่
- เพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ
- ลดความเสี่ยง
- ใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Barron's Management book fourth edition, Authors: Patrick J. Montana and Bruce H. Charnov
การวางแผนในงานช่วงแรกๆ เราควรใช้ภาพหรือแผนภาพช่วยในการวางแผนเพื่อให้เห็นวิธีการทำงานที่ชัดเจน เมื่อฝึกฝนจนคล่องแคล่วและชำนาญแล้ว ก็สามารถวางแผนโดยใช้ภาพในความคิดแทนได้เป็นการสร้างภาพงานในสมองก่อนลงมือปฏิบัติจริง
ทำให้ได้งานที่มีคุณภาพ นำไปสู่การทำงานอย่างคล่องแคล่ว จนเกิดเป็นนิสัย และแสดงออกอย่างเป็นอัตโนมัติ ซึ่งแผนภาพความคิดในการทำงานจะเป็นดังนี้
การวางแผนการทำงานบ้านมีขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. การเตรียมการก่อนทำงานบ้าน
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานบ้านทั้งหมดและจัดแบ่งประเภทของงานบ้านดังนี้
- งานบ้านที่ต้องทำทุกวัน เช่น การกวาดและถูบ้าน การรดน้ำต้นไม้ การทำอาหาร
- งานบ้านที่ต้องทำทุกสัปดาห์ เช่น
การทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน เป็นต้น
- งานบ้านที่นานๆครั้งจึงจะทำ เช่น การซ่อมแซมบ้าน การทาสีบ้านใหม่ เป็นต้น
- ศึกษาขั้นตอนและวิธีการทำงานแต่ละประเภท
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกเพื่อจัดแบ่งหน้าที่และปริมาณงานให้เหมาะสมกับเพศวัย และความสามารถของแต่ละบุคคล
- เตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงานให้เหมาะสมกับประเภทของงาน โดยเลือกใช้ที่ช่วยให้ทำงานได้ง่าย ประหยัดเวลา มีความปลอดภัยในการทำงาน และช่วยอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้น้ำเปล่าและกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้วแทนน้ำยาเช็ดกระจกที่มีราคาแพง เป็นต้น
2. การกำหนดเป้าหมายของการทำงานว่าต้องการทำงานอะไร มีปริมาณงานมากน้อยเพียงใด จำนวนบุคคล หน้าที่ทำงาน และระยะเวลาที่ใช้ในการทำงาน โดยสามารถทำเป็นตารางดังนี้
ตัวอย่าง ตารางกำหนดเป้าหมายในการทำงาน
งานที่ต้องทำ | ปริมาณงาน | จำนวนบุคคล | หน้าที่ทำงาน | ระยะเวลาทำงาน |
การทำความสะอาด ห้องนอน | ทำความสะอาด ห้องนอน 1 ห้อง | 1 คน | ปัดกวาดหยากไย่บนเพดาน ทำความสะอาดพื้นห้องและปัดฝุ่น ละอองเครื่องเรือนในห้อง | 1 ชั่วโมง |
3. ลงมือปฏิบัติตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
4. ทำความสะอาดและเก็บเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานให้เรียนร้อย
5. ประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อนำไปปรับปรุงในการทำงานครั้งต่อไป