2. การย่อยอาหารของสัตว์
การย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
1. การย่อยอาหารของหนอนตัวแบน เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในไฟลัมแพลทีเฮลมินเทส (platyhelminthes) จำพวก พลานาเรีย พยาธิใบไม้และพยาธิตัวตืด
2. การย่อยอาหารของพลานาเรีย อาหารของพลานาเรีย ได้แก่ เนื้อสัตว์ชิ้นเล็กๆ ตัวอ่อนแมลง ไรน้ำ หนอนเล็กๆ ทางเดินอาหารของพลานาเรียมี 3 แฉก ปากอยู่บริเวณกลางลำตัวและมีงวงหรือโพรบอซิส (probosis) ที่ยืดหดได้คอยจังอาหารเข้าสู่ปาก ทางเดินอาหารส่วนหัวมี 1 แฉก และลำตัว มี 2 แฉก แต่ละแฉกจะมีแขนงของทางเดินอาหารแยกแขนงแยกย่อยออกไปอีก เรียกว่า “ไดเวอร์ทิคิเวลัม” (diverticulum) ส่วนกากอาหาร ก็จะถูกส่งออกทางปาดเช่นเดียวกัน
3. การย่อยอาหารของพยาธิใบไม้ ประกอบไปด้วยปากอยู่ทางด้านบนสุดต่อจากปากเป็นคอหอย (pharynx) เป็นกล้ามเนื้อหนา ต่อจากคอหอยเป็นหลอดอาหารสั้นๆ ต่อกับสำไส้ (intestine) แตกแขนงเป็น 2 แฉกใหญ่ๆ และแตกย่อยๆไปทั่วร่างกาย ไดเวอร์ทิคิวลัม(แขนง)ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูดซึมอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ โดยไม่ต้องอาศัยระบบการลำเลียง ส่วนกากอาหารก็ถูกกำจัดออกทางปาก
4. การย่อยอาหารของพยาธิตัวตืด เป็นสัตว์ที่ไม่มีระบบทางอาหาร ที่ส่วนหัวของพยาธิตัวตืด มีแว่นดูด (sucker) ทำหน้าที่ ดูดเกาะตัวถูกเบียดเบียนหรือโฮสต์ (host) ในพยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตัวตืดวัว มีแว่นดูด 4 อัน และยังมี ขอ(hook) ทำหน้าที่เกาะและยึดติดกับผนังลำไส้ของตัวโฮสต์ พยาธิตัวตืดจะเก็บสะสมอาหารในรูปของไกลโคเจน ถ้าพยาธิตัวตืดขาดแคลนอาหารจะนำไกลโคเจนมาใช้ และถ้าหมดจะนำไข่แดงมาใช้ ถ้าหมดก็จะนำอวัยวะสืบพันธุ์มาใช้ ซึ่งทำให้ตัวมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และตายยากมาก
1) การย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มีทางเดินอาหาร
ฟองน้ำ (sponge) เป็นสัตว์ที่ไม่มีทางเดินอาหารหรือมีทางเดินอาหารเป็นแบบช่องร่างแห (channel network) แต่ก็ไม่ใช่ทางเดินอาหารที่แท้จริง เป็นเพียงทางผ่านของน้ำ ภายนอกàภายใน ประกอบด้วย
- ออสเทีย (ostia) เป็นรูเปิดเล็กๆ
หน้าที่ เป็นทางน้ำไหลเข้าสู่ลำตัวฟองน้ำ
- ออสคิวลัม (osclum) เป็นรูที่มีขนาดใหญ่กว่าออสเทียและมักอยู่กลางลำตัว ที่ผนังด้านในมีเซลล์พิเศษ จะมีแส้เซลล์ เรียกว่า “เซลล์โคแอโนไซด์ (choanocyte)” โบกพัดตลอดเวลา
หน้าที่ เซลล์โคแอโนไซด์พัด ทำให้เกิดการไหลเข้าออกของน้ำ
อาหารของฟองน้ำ เป็นจำพวกแพลงตอนที่มากับน้ำ จะถูกเซลล์โคแอโนไซต์จับและย่อยแล้วส่งไปยังเซลล์ที่คล้ายอมีบา เรียกว่า”เซลล์อะมีโบไซต์ (amoebocyte)” ทำหน้าที่ย่อย แล้วส่งไปยังเซลล์อื่นๆ
ฟองน้ำมีการย่อยอาหารภายในเซลล์เช่นเดียวกับโพรโทซัว แต่ต่างที่ฟองน้ำเป็นสัตว์หลายเซลล์และมีเซลล์เฉพาะ(เซลล์อะมีโบไซต์) ถึงอย่างนั้นการย่อยก็ยังคงไม่ซับซ้อนเช่นเดียวกับโพรโทซัว
2) การย่อยอาหารของสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์
เป็นทางเดินอาหารแบบปากถุง (on-hole-sac) เป็นแบบทางเดินอาหารเปิดทางเดียว มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก ปากทำหน้าที่ทั้งทางเข้าของอาหารและทางออกของกากอาหารไปพร้อมๆกัน จะเป็นระบบการย่อยที่ยังพัฒนาไปไม่มากนัก
1. การย่อยอาหารของไฮดรา
ไฮดราจัดเป็นซีเลนเทอเรตชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในไฟลัมซีเลนเทอราดา (coelenterate) มีทางเดินอาหารเป็นแบบปากถึง อาหารของไฮดราจะเป็นจำพวกตัวอ่อนของสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ ไรน้ำ ไฮดรามี หนวดจับ (tentacle) อยู่รอบปากซึ่งเอาไว้จับอาหาร และให้เซลล์ที่มีเนมาโทซิสต์ (nematocyst) หรือเข็มพิษที่อยู่ที่หนวดจับแทงและฆ่าเหยื่อ ทางเดินอาหารจะอยู่ตรงกลางลำตัวเป็นท่อกลวง เรียกว่า ช่องแกสโทรวาสคิวลาร์ (gastrovascular cavity) บุด้วยเซลล์ทรงสูงเรียกว่า ชั้นแกสโทเตอร์มิส (gastrodermis)
1. นิวทริทิพ เซลล์ (nutritive cell) เป็นเซลล์ที่มีลักษณะอ้วน บางเซลล์มีแส้เซลล์ 1 หรือ 2 เส้น เรียกว่า แฟลเจลเลตเซลล์ (flagellate cell) บางเซลล์มีลักษณะคล้ายอมีบ้า จริงเรีนกว่า อะมีบอยด์เซลล์ (amoeboidcell)
หน้าที่ อะมีบอยด์เซลล์ – ยื่นขาเทียมออกมาล้อมจับอาหารแล้วจังย่อยอาหารและทำหน้าที่ดูดอาหารที่ย่อยแล้ว ส่วน
แฟลเจลเลตเซลล์ – โบกพัดให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำและอาหารภายในช่องแกสโทรวาสคิวลาร์ และพัดกากอาหารให้เคลื่อนที่ออกด้วย
2. เซลล์ต่อมหรือเซลล์ย่อยอาหาร (gland cell or digestive cell) เป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อยแล้วปล่อยน้ำย่อยออกมาย่อยอาหารพบมากบริเวณใกล้ๆปาก การย่อยโดยเซลล์ต่อม จัดเป็นการย่อยแบบนอกเซลล์ ส่วนการย่อยแบบ อะมีบอยด์เซลล์จัดเป็นการย่อยแบบภายในเซลล์