จุดอ่อน จุด แข็ง ใน การ ทํา งาน

บทความนี้จะมาช่วยทำให้เราความเข้าใจเกี่ยวกับ
จุดแข็ง/จุดอ่อน/จุดบอด มากขึ้น

สำหรับคนมีเวลาอ่านน้อย

  • 🚀 จุดแข็ง = พรสวรรค์ x ความรู้ x ทักษะ
  • 😰 จุดอ่อน = สิ่งที่คุณไม่ถนัด คุณทำได้ไม่ดี
  • ❌ จุดบอด = ข้อเสียที่มาจากพรสวรรค์คุณ

กด 🔖 (Bookmark) ไว้อ่านทีหลังกันได้ถ้าไม่มีเวลา
ใครอยากเข้าใจมากขึ้นเริ่มอ่านบทความนี้ได้เลย 👇🏻

“คุณคิดว่า…จุดแข็งของคุณคืออะไรครับ?”

“ไหนคุณ…ลองบอกจุดแข็ง จุดอ่อนของคุณให้ทีมเราฟังหน่อยสิครับ”

“คุณ…คิดว่าคุณมีทักษะอะไรที่โดดเด่นที่ทีมเราต้องรับคุณเข้าทำงานบ้างครับ?”

คำถามยอดฮิตที่โดนถามตลอดเวลาคุณสัมภาษณ์งานที่ใดก็ตาม ถ้าคุณตอบคำถามด้านบนได้อย่างฉะฉาน มั่นใจ ยินดีด้วย…คุณค้นพบจุดแข็งของตัวเองแล้ว แต่ถ้าคุณยังต้องหยุดนึกคิด ควานหาสิ่งที่ทำในอดีต ผมว่าคุณกำลังสับสนในจุดแข็งตัวเอง หรือยังไม่เข้าใจมันดีพอ บทความนี้จะมาช่วยทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับ จุดแข็ง/จุดอ่อน/จุดบอด มากขึ้นครับ

//pixabay.com/photos/man-board-drawing-muscles-strong-2037255/

🚀 จุดแข็ง 😰 จุดอ่อน ❌ จุดบอด

มีนักจิตวิทยาหลายท่านพยายามนิยามคำว่า “จุดแข็ง” ให้เราเข้าใจหลายรู้แปป แต่ส่วนตัวเจ้าของบล็อกชอบคนนี้มากที่สุดครับ

เขาคือ Don Clifton (ดอน คลิฟตัน) บิดาแห่งจิตวิทยาด้านจุดแข็ง ผู้คิดค้น Clifton StrengthsFinder (ไปหาทำได้ครับบอกเลยว่าคุ้มมาก) ได้นิยามจุดแข็งไว้ว่า

🚀 จุดแข็ง = การปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งได้แทบจะสมบูรณ์แบบอย่างสม่ำเสมอ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้สึกทำหน้าที่นี้แล้วเหนื่อย ไม่มีความสุข ฝืนใจ แต่คุณทำได้ดีมาก ความสามารถนี้ไม่ใช่จุดแข็ง เพราะกฎของจุดแข็งคือคุณต้องทำอย่าง ¹มีความสุข ²ทำได้อย่างสม่ำเสมอ และ ³ประสบผลสำเร็จ

กลับกันถ้าคุณเดินมาจัดโต๊ะเพื่อนทุกวัน แล้วจัดออกมาได้สวย ทำให้หยิบจับอะไรง่าย พอจัดเสร็จคุณรู้สึกสนุก ฟิน มีความสุข และคุณอยากทำแบบนี้อีกกับโต๊ะเพื่อนๆทุกคน ดอนอธิบายไว้ว่านี่แหละคือจุดแข็งครับ

ดังนั้นคำว่าอย่าง “สม่ำเสมอ” มันอธิบายถึงพรสวรรค์คุณได้เช่นกัน

อีกสมการนึงที่ดอนได้ให้กับเราไว้คือ

🚀 จุดแข็ง = พรสวรรค์ x ความรู้ x ทักษะ (ทวีคูณ)

ความน่าสนใจของสมการนี้คือ พรสวรรค์เป็น“วัตถุดิบสำคัญสุด” ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จุดแข็งจะไม่มีพรสวรรค์ครับ เพราะคุณมีมันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ (🤔 จริงป๊ะเนี่ยยย)

ส่วนความรู้ และทักษะเป็น“วัตถุดิบที่แพงที่สุด” เพราะคุณต้องเอาเวลามาแลกเปลี่ยน

ถ้าเราย้อนกลับไปตอนสมัยเรียน ทำไมเรามักจะเจอเพื่อนที่ไม่รู้ว่าตอนเข้ามหาลัยจะเรียนอะไร? โตแล้วจะเป็นอะไร? หรือแม้แต่ตัวคุณเองก็ยังตอบคำถามนี้ไม่ได้เลย ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะโปรแกรมการเรียนรู้เกือบทั้งหมด ไม่ได้เน้นให้คุณค้นหาพรสวรรค์ตามธรรมชาติ

แล้วเขาเน้นอะไร? 🧐

เขาเน้น “ความรู้ x ทักษะ” แหงหละ…เขาจะไปรู้พรสวรรค์ของคุณได้ยังไงหละ เพราะคนที่ต้องรู้เป็นตัวคุณเองไม่ใช่โรงเรียน ไม่ใช่มหาลัย และไม่ใช่ที่ทำงาน

โรงเรียน/มหาลัย/ที่ทำงาน เขาสอนให้คุณมี ความรู้ x ทักษะ แต่ไม่ได้สร้างให้คุณมีพรสวรรค์

รวมถึงวัฒนธรรม หนังสือ ภาพยนตร์ คำคมต่างๆ ถูกชี้นำให้เราชื่นชมการเอาชนะข้อจำกัด ความมุ่งมั่นต่างๆนานา แต่ไม่เคยพูดถึงพรสวรรค์ ส่งผลให้หลายล้านคนมีความเชื่อที่ผิดๆ เพราะถ้าคุณไม่มีพรสวรรค์แบบ role model ที่คุณไฝ่ฝัน มันจะนำคุณไปอยู่ในจุดที่มี “แรงต้านสูงสุด” ซึ่งจะทำให้คุณหมดไฟ และท้อแท้ในการทำงาน (แต่ถ้าเหมาะกับคุณก็โชคดีไปนะ)

และเรายังเคยถูกสอนว่า “คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณจะเป็น เพียงแค่คุณมีความพยายามให้มากพอ” ใครเป็นคนสอนนะ 🧐? ความพยายามดีครับ แต่ต้องใช้งานควบคู่กับพรสวรรค์

วันนี้เจ้าของบล็อกอยากเปลี่ยนประโยคนี้ใหม่ว่า

“คุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างที่คุณจะเป็นได้ แต่คุณสามารถเป็นตัวคุณที่ดีขึ้นได้จากการใช้จุดแข็งที่มีได้”

และคุณจะสามารถเติมสมการจุดแข็งข้างบนให้เต็มได้ครับ

😰 จุดอ่อน = สิ่งที่คุณไม่ถนัด คุณทำได้ไม่ดี แต่ไม่ใช่ข้อเสีย

วิธีจัดการกับจุดอ่อนคือ

• หาคนที่จุดแข็งมาช่วยคุณแทน เช่น ทีม หรือเพื่อนร่วมงาน

• คุณอาจต้อง”สร้างระบบ”ขึ้นมาแทนเพื่อจัดการกับจุดอ่อน ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ

❌ จุดบอด = ข้อเสียที่มาจากพรสวรรค์คุณ

เช่น ความเป็น perfectionist ของคุณจะทำให้งานออกมาดีเสมอ แต่บางครั้งอาจทำให้งานไม่เสร็จสักที นี่คือจุดบอดครับ

แล้วอะไรบ้างที่จะช่วยไม่ให้เกิดจุดบอด?

คำตอบคือ การทำงานเป็นทีม และทีมทุกคนควรรู้จุดแข็ง/จุดอ่อน/จุดบอด ของแต่ละคน เพราะในบางสถาณการณ์ คนที่อุดจุดบอดตอนทำงานอาจเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณก็ได้

Photo by yns plt on Unsplash

💡เข้าใจจุดแข็ง

จำไว้ว่าไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด และไม่มีใครที่เก่งรอบด้าน “ประโยคนี้เป็นสัจนิรันดร์”

มีแต่คนที่หาพรสวรรค์เจอก่อน และขัดเกลาด้วย ความรู้ x ทักษะ ถึงจะประสบความสำเร็จ

Warren Buffett ใช้ “ความใจเย็น” เป็นจุดแข็งในการลงทุนระยะยาวอย่างสม่ำเสมอทำให้เขามีทรัพย์สินรวมทั้งหมดเป็นอันดับต้นๆของโลก

NOTE: อยากให้สังเกตว่าทุกคนที่ประสบความสำเร็จมักมีความพยายามเหมือนกันหมดครับ แต่ส่ิงที่สำคัญกว่าคือต้องใช้คู่กับพรสวรรค์ด้วย

🚀 จุดแข็ง = พรสวรรค์ x ความรู้ x ทักษะ

📖 ความรู้

สามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

  1. ความรู้ด้านข้อมูล = ภาคทฤษฎี เช่น Fundamental of Business/Financial/Engineer/Programming
    ความรู้ไม่ได้ประกันความเป็นเลิศ แต่ถ้าไม่มีคุณจะเป็นเลิศไม่ได้
    คุณไม่มีทางวาดรูปเป็นเลิศได้ ถ้าคุณไม่รู้ว่า สีแดงผสมกับสีเขียวจะเป็นสีน้ำตาล
  2. ความรู้จากประสบการณ์ = ภาคปฏิบัติ ได้จากการลงมือทำ
    คุณต้องฝึกวินัย วินัย และก็วินัย

รอบข้างเรามีโอกาสมากมายให้เรียนรู้ คุณต้องทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วเพื่อรับโอกาสต่างๆที่เข้ามาเพราะ “ความรู้ เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สร้างจุดแข็ง” (มีคนให้ความรู้ = ลดเวลา)

⚒️ ทักษะ

ทักษะกำหนดโครงสร้างให้กับความรู้

คนฉลาดมักสละเวลามาหยุดคิดเพื่อให้ตกผลึกเป็น pattern ต่างๆ เช่น การฝึกเขียน flowchart ทำให้เราเกิดทักษะแบบแผนและ pattern ต่างๆในการแก้ปัญหา เพราะเมื่อคุณเจอปัญหานี้คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลา คิดใหม่

  • ทักษะช่วยให้คุณไม่ต้องลองผิดลองถูก
  • ทักษะออกแบบมาเพื่อให้ถ่ายทอดเคล็ดลับของคนเก่งได้ง่าย
  • ทักษะจะมีคุณค่ามากก็ต่อเมื่อผสมกับพรสวรรค์ไม่ต่างอะไรจากความรู้

แต่ระวัง:

ทักษะนั้นมีประโยชน์และล่อใจจนทำให้มีข้อบกพร่อง

  1. ทักษะช่วยให้คุณลงมือทำได้ แต่ไม่ได้ทำให้คุณเป็นเลิศ
    บางครั้งเป็นแค่เทคนิคเอาตัวรอด ไม่ใช่หนทางแห่งความสำเร็จ
  2. กิจกรรมบางอย่างไม่สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนได้ อย่าสับสนมุ่งมั่นแต่หาขั้นตอน
    เช่น ความเห็นอกเห็นใจเป็นพรสวรรค์ในการรับรู้ความรู้สึกคนอื่น ไม่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหนคุณไม่สามารถแตกออกมาเป็นขั้นตอนได้
  3. ทักษะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดชีวิต แต่พรสวรรค์ไม่สามารถเปลี่ยนได้คุณต้องยอมรับ (เดี๋ยวจะอธิบายว่าทำไม)

🚀 พรสวรรค์

“ด้านใดบ้างที่อยู่กับคุณไปจนตาย”

พรสวรรค์ = mindset/ความรู้สึก/พฤติกรรมของคุณ ที่เกิดซ้ำๆอย่างเป็นธรรมชาติ และต้องทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ได้

เช่น

  • ถ้าคุณเป็นคนช่างตื้อ ก็สามารถเป็นพรสวรรค์ได้ “ถ้า”สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์
  • ถ้าคุณเป็น Dyslexia (ภาวะเสียการอ่านรู้ความ) ยอมรับและเปลี่ยนให้มันเป็นจุดแข็ง คุณต้องเลี่ยงการจำคำศัพท์ยาว แต่ใช้คำศัพท์ที่เข้าใจง่าย ส่งผลให้คุณเป็นคนที่อธิบายคน สอนคนรู้เรื่อง และแตกฉานทุกเรื่องจากการที่คุณใช้คำง่ายๆ
  • สำนึกที่เราเข้าใจโลก หรือสำนึกที่ทำความเข้าใจตัวเอง
    บางคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สามัญที่ทุกคนทำได้ แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
    “สำนึก” ของเราเป็น mindset/ความรู้สึก/พฤติกรรมของคุณที่เกิดซ้ำๆ คุ้นๆไหม…? ใช่ครับมันเป็นเป็นพรสวรรค์

🧬 จุดแข็งยังสามารถอธิบายตามหลักชีวะศาสตร์ได้ว่า:

สมองเป็นอวัยวะประหลาดครับ เพราะมันโตย้อนทิศกับอวัยวะอื่น มันจะโตเร็ว และค่อยๆหดตัวลง แต่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ ยิ่งเล็กคุณยิ่งฉลาดขึ้น (🤪 จริงอะ?)

เคล็ดลับการทำความเข้าใจสมองคือ “จุดประสานประสาทที่เราเรียกว่า Synapse” เป็นจุดที่ทำให้เซลล์สมองสองเซลล์มาต่อกันครับ

ถ้าย้อนไปตอนคุณ 3 ขวบ คุณจะมีเซลล์ประสาท 1 แสนล้านเซลล์ และจะสร้าง Synapse 15,000 จุด

ข้อสังเกตผลวิจัยต่อไปคือเด็ก 3 ขวบ ที่โตมาถึงอายุ 26 ปี มีพฤติกรรมเหมือนกัน ซึ่งนั่นเป็นพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด = พรสวรรค์

ในตอนแรกธรรมชาติมอบ Synapse ให้คุณมาเกินความจำเป็น เพราะคุณจะมีอะไรให้ต้องดูดซับมากมาย ทำให้คุณไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย(ดูดซับได้อย่างเดียว) ทำให้คุณมี Synapse มากมายจนล้นหัว และด้วย ธรรมชาติ สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู การดูแลรักษา ความคิด จะเสริม Synapse ที่ใช้จะคงอยู่และปล่อยให้อีกนับพันหายไป ทำให้คุณตื่นขึ้นมาตอนอายุ 16 เซลล์ประสาทคุณก็ลดไปครึ่งหนึ่งละ

ข่าวร้ายคือมันไม่สร้างขึ้นมาอีกครับ แต่ๆๆ…ในช่วงชีวิตคุณจะค่อยๆเหลือ Synapse ที่แข็งแรงที่สุดซึ่งเราเรียกมันว่า พรสวรรค์ (ตามหลักชีวะศาสตร์)

✱✱✱ เพราะหัวใจของความฉลาดไม่ใช่เซลล์สมองเยอะ แต่เป็นการที่คุณใช้ Synapse ที่แข็งแรงที่สุดให้มีประโยชน์มากที่สุด

เพราะฉะนั้นการเสียเซลล์สมองไปไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ถ้าธรรมชาติไม่ทำแบบนี้ ไม่ตัดทอนให้ Synapseเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เราจะไม่ได้ Synapse ที่แข็งแรงที่สุดครับ คุณจะยังคงเป็นเด็กที่แข็งทื่อ อยู่โหมดรับข้อมูลอย่างเดียว คิดอะไรไม่เป็น ตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะข้อมูลมันเยอะเกินไป

Photo by Cesar Carlevarino Aragon on Unsplash

⚒️ เครื่องมือปฏิวัติตัวเองสามชิ้น

1. แยกแยะพรสวรรค์ที่มีตามธรรมชาติของคุณออกจากสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณสามารถพัฒนาความสามารถได้หรือไม่? เพราะคุณทำได้แน่นอน มนุษย์เป็นสัตว์ที่ปรับตัว และสามารถทำได้ทุกเรื่องได้ดีกว่าเดิม“เล็กน้อย” หากเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเรา

การฝึกฝน ไม่พอจะทำให้คุณเป็นเลิศ

คุณจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ตามธรรมชาติที่เด่นชัดมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ

❤️ หัวใจสำคัญของการสร้างจุดแข็ง คือการจำแนกพรสวรรค์ที่สำคัญที่สุด แล้วนำมาขัดเกลาด้วย ความรู้ x ทักษะ ได้หรือไม่ ?

ข้อควรระวังของข้อนี้คือ คุณมีเวลาไม่จำกัด ทำให้เรียนรู้ไปทุกอย่าง ซึ่งบางครั้งมันไม่เป็นประโยชน์ คุณต้องเข้าใจพรสวรรค์ตัวเองก่อน แล้วจึงเลือกที่จะเรียนครับ ไม่งั้นอาจเสียเวลาได้

2. ลองทำกิจกรรมอย่างหนึ่งแล้วดูว่าคุณเรียนรู้ได้เร็วแค่ไหน? ข้ามขั้นตอนได้เร็วแค่ไหน?

ต้องตั้งเพดานให้กับตัวเอง เช่นถ้าเวลาผ่านไป 2–3 เดือนยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ลองกิจกรรมอื่นแล้วลองต่อไป เวลาผ่านไปคุณจะค่อยๆเห็นพรสวรรค์ของตัวเอง

เพราะพรสวรรค์ทิ้งร่องรอยไว้เสมอ จงติดตามจากปฏิกิริยาทันทีที่คุณทำกิจกรรมนั้นเสร็จ ถ้าคุณมีสติดีคุณจะสังเกตได้ครับ 😅

ร่องรอยสำคัญของการค้นพบพรสวรรค์

  1. รู้สึกมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะทำเรื่องนี้
    ความหลงไหล passion ความเชื่อที่คุณมีต่อโลก เกิดจาก Synapse ในสมองคุณ แต่ความปรารถนาที่เกี่ยวกับวัตถุนิยมไม่ใช่เพราะนั่นเป็นความปรารถนาจอมปลอม
  2. ความเร็วในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
    เป็นที่มาของคำว่า Just do it เพราะถ้าคุณไม่ลองทำคุณก็ไม่รู้สักที่ว่าเรียนรู้ได้เร็วไหม
  3. ทำแล้วมีความสุข
    จำไว้ Synapse ที่แข็งแรงที่สุดออกมาแบบมาให้คุณใช้มันแล้วรู้สึกดี
    เหมือนสายโทรศัพท์มีวิ่งไปแล้วก็กลับ สิ่งที่วิ่งกลับบน Synapse คือความสุขที่เกิดจากสิ่งที่คุณทำ

“เมื่อไหร่จะเสร็จสักที vs ผมจะได้ทำนี่อีกทีเมื่อไหร่”

3. ภาษาที่ใช้ร่วมกันเพื่ออธิบายพรสวรรค์ของคุณ

ถ้าเทียบกับภาษาที่อธิบายจุดอ่อนตอนนี้มีมากกว่ามาก มากจนพูดแล้วเราเข้าใจ เช่น ซึมเศร้า ตื่นตระหนก วิกลจริต

3 คำนี้เจ้าของบล็อกเชื่อว่าไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมก็เข้าใจได้อย่างง่ายดาย แต่พอเป็นภาษาเพื่ออธิบายพรสวรรค์ยาก (แปลกปะ) เช่น

คุณมีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก… 🤔?? แล้วยังไงต่อหละ…มันกว้างมาก

มันไม่บอกว่าคนนั้นเป็นเลิศในการสร้างความไว้ใจหลังจากปิดการขาย มันไม่ได้บอกว่าคนๆนั้นพูดได้เฉียบแหลมตรงประเด็น และเข้าใจง่าย ซึ่งสองคนนี้นุษยสัมพันธ์ดีทั้งคู่ครับ

เพราะฉะนั้นสำหรับ ภาษาที่ใช้เพื่ออธิบายพรสวรรค์ของคุณ อย่าพูดกว้างๆต้องระบุให้ชัดเจน สามารถไปดู StrengthsFinder พรสวรรค์ 34 ประการ ตามเน็ตที่ดอนเขียนไว้ได้ครับ มันจะทำให้เราอธิบายพรสวรรค์กับตัวเองและคนรอบข้างคุณได้ง่าย

ดอนแบ่งพรสวรรค์ออกเป็น 4 ส่วนหลัก และจะมีพรสวรรค์ย่อยข้างในอีก

NOTE: แต่อย่าลืมว่าคุณต้องมี ความรู้ x ทักษะ ด้วยนะเอออ

สรุป

พรสวรรค์จีรังยั่งยืน และพิเศษเฉพาะตัว เพราะเป็น

  • แบบแผนที่เกิดซ้ำๆของคุณเกิดจากการเชื่อมโยงในสมอง
  • พออายุเกินช่วงหนึ่ง คุณจะไม่สามารถเพิ่มแบบแผนใหม่เข้าไปได้ แต่ไม่ต้องกังวล
  • เพราะมันจะทำให้คุณได้ Synapse ที่แข็งแรงที่สุด ในการตัดสินใจทุกครั้ง
  • Synapse = ตัวสร้างพรสวรรค์ให้กับคุณ
  • 🚀 จุดแข็ง = พรสวรรค์ x ความรู้ x ทักษะ
  • 😰 จุดอ่อน = สิ่งที่คุณไม่ถนัด คุณทำได้ไม่ดี แต่ไม่ใช่ข้อเสีย
  • ❌ จุดบอด = ข้อเสียที่มาจากพรสวรรค์คุณ

เตือน:

  • อย่ามัวเสียเวลา หรือพยายามเปลี่ยนพรสวรรค์ของตัวเอง อย่าทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ “เป็นอย่างที่ตัวคุณไม่อาจเป็นได้” มันไม่สนุกเลย
  • แม้การเรียนรู้ด้วยการทำซ้ำอาจก่อให้เกิดจุดเชื่อมโยงใหม่ๆเล็กน้อยก็ไม่อาจสร้างจุดแข็งได้ ถ้าไม่มีพรสวรรค์มารองรับ เพราะร่างกายคุณจะเปลืองพลังงานมากในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางชีวะวิทยาเพื่อสร้าง Synapse
  • การที่ไม่มีพรสวรรค์มารองรับจะทำให้คุณหมดไฟเสียก่อน ทุกกิจกรรมบนโลกต้องอาศัยความเพียรพยายาม
  • การต้านความขี้เกียจของคุณต้องใช้เชื้อเพลิงชั้นเยี่ยม ไม่ใช่พยายามซ่อม Synapse ที่เสียไปมันจะกลืนพลังงานคุณโดยเสียเปล่า

อย่าลืม 👏 (Claps) และ 🔖 (Bookmark) บทความนี้ไว้อ่านทีหลังด้วยหละ

จุดอ่อนในการทํางาน มีอะไรบ้าง

ตัวอย่างจุดอ่อน.
ขาดทักษะ (Lack of Skills).
เขิน หรือขี้อาย (Shyness).
โฟกัสเกินไป (Too Focused).
พูดในพื้นที่สาธารณะ (Public Speaking).
ขาดประสบการณ์ในการทำงาน (Lack of Experiences).

จุดแข็งจุดอ่อน ควรตอบยังไง

วิธีเตรียมตัวตอบคำถาม จุดแข็ง จุดอ่อน ตอนสัมภาษณ์งาน – ควรตอบคำถามด้วยเป็นความจริง เพราะถ้าโกหก แล้วเราไม่สามารถทำในสิ่งที่พูดได้ อาจเกิดปัญหาตามมาทีหลัง – พยายามทำจิตใจให้สบาย อย่าเครียด มิฉะนั้นความวิตกกังวล อาจแสดงออกมาทางสีหน้าได้ – ตอบคำถามให้กระชับ ตรงประเด็น ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป

จุดแข็งจุดอ่อนเริ่มมาจากอะไร

สำหรับไวรัลฮิต "จุดแข็งจุดอ่อน" นี้เริ่มมาจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้มาเล่าประสบการณ์การสัมภาษณ์งาน และถูกถามถึง จุดแข็ง กับ จุดอ่อน ของตัวเอง ซึ่งจากคำตอบก็ทำเอาชาวโซเชียลหลายคนต่างถูกอกถูกใจจนต้องรีทวีตเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็มีหลายคนนำมาเล่นต่ออีกทีจนทำให้มุกดังกล่าวแพร่กระจายออกไปในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว

จุดแข็งของการทำงานคืออะไร

🚀 จุดแข็ง = การปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งได้แทบจะสมบูรณ์แบบอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้สึกทำหน้าที่นี้แล้วเหนื่อย ไม่มีความสุข ฝืนใจ แต่คุณทำได้ดีมาก ความสามารถนี้ไม่ใช่จุดแข็ง เพราะกฎของจุดแข็งคือคุณต้องทำอย่าง ¹มีความสุข ²ทำได้อย่างสม่ำเสมอ และ ³ประสบผลสำเร็จ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก