โครงงานการรักษาความสดของผัก

watanmeen

This WordPress.com site is the cat’s pajamas

gotflook

4 out of 5 dentists recommend this WordPress.com site

PiCTurE

Display pictures in picture your art.

kurtmung

This WordPress.com site is the cat’s pajamas

Mhoning

hataichanok klinket class. 2/3 no.37

tonkla0110

This WordPress.com site is the cat’s pajamas

nice6699

This WordPress.com site is the cat’s pajamas

btnoon

A topnotch WordPress.com site

nice287

Smile! You’re at the best WordPress.com site ever

Baimiang

The greatest WordPress.com site in all the land!

rachata2542

4 out of 5 dentists recommend this WordPress.com site

Yoh Yeh'z

Kanjana Kammek Kanjana Kammek Kanjana Kammek Kanjana Kammek Kanjana Kammek Kanjana Kammek Kanjana Kammek

pichanin

4 out of 5 dentists recommend this WordPress.com site

TITLE NAME

ชื่อโครงการ (Project Name)

การศึกษาสารธรรมชาติที่มีสมบัติเพื่อช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางธรรมชาติของผักกินใบในท้องตลาด

ผู้พัฒนา (Owner)

- สุขวิมล สุริรักษ์
- ลลิดา จิตรบวรวงศ์
- วชิราธร ช่างทำดี

อาจารย์ที่ปรึกษา (Advisor)

- นริศตา ด้วงต้อย
- รณภณ เนตรสว่างวิชา

โรงเรียน (School)

สงวนหญิง

เนื้อหาบทคัดย่อ (Abstract Detail)

จากปัญหาการเก็บรักษาผักมีสภาพความสดในท้องตลาดเพื่อให้มีความสดน่ารับประทานมากขึ้น และเป็นแนวทางในการจดัการผลิตทางการเกษตร คณะผูจ้ดัทา โครงงานจึงจดัทา โครงงานการศึกษาสาร ธรรมชาติที่มีสมบัติเพื่อช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางธรรมชาติของผักกินใบในท้องตลาด พบว่า พืชผักในท้องตลาดที่เสียสภาพจากการคายน ้าได้ง่าย คือ ผักกวางตุ้ง โดยชิ้นส่วนใบพืชเสียสภาพจาก การทดลองในเวลา 2 ชั่วโมง รองลงมาคือ คือผกับุง้จีน ผักชีไทยและผักชีใบเลื่อย โดยเสียสภาพที่ 3 ชั่วโมง ส่วนผักที่เสียสภาพได้ ยากคือ กะหล่า ปลี และผักคะน้าโดยมีชิ้นส่วนที่เสียสภาพ ที่ 8 ชั่วโมง สารธรรมชาติ ชนิดต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพในการที่ยืดอายุความสดของผกัคือ สารละลายน ้าหมักชีวภาพโดยมีประสิทธิภาพ ทั้งการคืนสภาพความสดของชิ้นส่วนผักทดลองโดยสารละลายน ้า หมกัชีวภาพทุกชนิดสามารถคืนสภาพ ชิ้นส่วนใบผักให้กลับมีความสดได้ในเวลา 1 ชั่วโมง ส่วนสารที่ชะลอการเสียสภาพความสดพบที่ดีที่สุดคือ สารละลายน ้าหมักชีวภาพจากสมอไทยมีประสิทธิภาพ ความเขม้ขน้ 1% โดยปริมาตรชะลอความเหี่ยวได้ นานถึง 10 ชั่วโมง รองลงมาคือ น ้าหมักชีวภาพจากจากผลล าไย น ้าหมักชีวภาพจากโสมไทย น ้าหมักชีวภาพ จากผักรวม และน ้ากลั่นฝาถังตามล าดับ ซึ่งสารธรรมชาติดังกล่าวช่วยยืดอายุในการเก็บรักษาพืชผักกินใบ หลังเก็บเกี่ยว โดยการชะลอการเสียสภาพความสดในใบพืชจริง โดยไม่แสดงการเสียสภาพได้นาน ถึง 5 ชั่วโมง จากปัญหาการเก็บรักษาผักมีสภาพความสดในท้องตลาดเพื่อให้มีความสดน่ารับประทานมากขึ้น และเป็นแนวทางในการจดัการผลิตทางการเกษตร คณะผูจ้ดัทา โครงงานจึงจดัทา โครงงานการศึกษาสาร ธรรมชาติที่มีสมบัติเพื่อช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางธรรมชาติของผักกินใบในท้องตลาด พบว่า พืชผักในท้องตลาดที่เสียสภาพจากการคายน ้าได้ง่าย คือ ผักกวางตุ้ง โดยชิ้นส่วนใบพืชเสียสภาพจาก การทดลองในเวลา 2 ชั่วโมง รองลงมาคือ คือผกับุง้จีน ผักชีไทยและผักชีใบเลื่อย โดยเสียสภาพที่ 3 ชั่วโมง ส่วนผักที่เสียสภาพได้ ยากคือ กะหล่า ปลี และผักคะน้าโดยมีชิ้นส่วนที่เสียสภาพ ที่ 8 ชั่วโมง สารธรรมชาติ ชนิดต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพในการที่ยืดอายุความสดของผกัคือ สารละลายน ้าหมักชีวภาพโดยมีประสิทธิภาพ ทั้งการคืนสภาพความสดของชิ้นส่วนผักทดลองโดยสารละลายน ้า หมกัชีวภาพทุกชนิดสามารถคืนสภาพ ชิ้นส่วนใบผักให้กลับมีความสดได้ในเวลา 1 ชั่วโมง ส่วนสารที่ชะลอการเสียสภาพความสดพบที่ดีที่สุดคือ สารละลายน ้าหมักชีวภาพจากสมอไทยมีประสิทธิภาพ ความเขม้ขน้ 1% โดยปริมาตรชะลอความเหี่ยวได้ นานถึง 10 ชั่วโมง รองลงมาคือ น ้าหมักชีวภาพจากจากผลล าไย น ้าหมักชีวภาพจากโสมไทย น ้าหมักชีวภาพ จากผักรวม และน ้ากลั่นฝาถังตามล าดับ ซึ่งสารธรรมชาติดังกล่าวช่วยยืดอายุในการเก็บรักษาพืชผักกินใบ หลังเก็บเกี่ยว โดยการชะลอการเสียสภาพความสดในใบพืชจริง โดยไม่แสดงการเสียสภาพได้นาน ถึง 5 ชั่วโมง

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เร่ืองน้ามะพร้าวช่วยรักษาความสดของผกั กาดขาว ผจู้ ดั ทา 1.นายอนุภทั ร กะรัตน์ 2.นางสาววรรณิกา ตามยั 3.นายวชิระ วารีทิพย์ 4.นางสาวรินรดา หายยทุ ธ 5.นางสาวจิรัชญา จิตอารีย์ นำเสนอ ครู ดำรงค์ คนั ธะเรศย์ โครงงานคอมพิวเตอร์ฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า IS รหสั วิชา I30201 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564

ก คานา โครงงานฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อการศึกษาภาควชิ า IS รหสั วชิ า I30201โดยคณะ ผจู้ ดั ทาไดศ้ ึกษา คน้ ควา้ ทดลองการรักษาความสดของผกั กาดขาวดว้ ยน้ามะพร้าว คณะผจู้ ดั ทาหวงั ว่า โครงงานน้ามะพร้าวช่วยรักษาความสดของผกั กาด ฉบบั น้ีจะ เป็นประโยชนแ์ ละสามารถอานวยความสะดวกในการศกึ ษาต่อผทู้ ่ีสนใจศึกษา หรือนาไป เป็นแนวทางในการศกึ ษาอน่ื ๆได้ หากโครงงานฉบบั น้ีมขี อ้ ผดิ พลาดประการใด คณะ ผจู้ ดั ทาก็ตอ้ งขออภยั ไว้ ณ ที่น้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา

สารบญั ข คานา หนา้ สารบญั ก บทคดั ยอ่ ข บทที่1 บทท่ี2 1 บทที่3 2 บทท่ี4 4 บทที่5 10 บรรณานุกรม 12 13 16

1 บทคดั ยอ่ โครงงานฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนพอ่ื ทดลองการรักษาความสดของผกั ท่ีหาไดง้ ่ายในชุมชน และไมส่ ่งผลเสียตอ่ สุขภาพ ช่ึงท่ีเลือกม่คอื น้ามะพร้าว มะพร้าวจะว่าเป็นพชี ที่มีประโยชน์ ราคาถูกและหาไดง้ า่ ยในชุมชน

2 บทที่ 1 บทนา ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ผปู้ ระกอบอาชีพเกษตรกรผปู้ ลกู ผกั ไดเ้ กบ็ เกี่ยวผกั ของตนเพ่อื นาไปจาหน่ายต่อ ท้งั ท่ี จะเดินทางมารับ และกระจายไปตามท่ีต่างๆ มกั จะประสบปัญหาผลผลติ ท่ีเกบ็ เก่ียว รอ การนาไปจาหน่ายน้นั เร่ิมเห่ียวเฉาภายในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะกลุม่ เกษตรกรท่ีไม่มี ตน้ ทนุ ในการซ้ือตูแ้ ช่ขนาดใหญ่ท่ีช่วยคงความสดได้ จะประสบปัญหาการรักษาความสด ของผกั ยง่ิ ในสภาพอากาศท่ีร้อนอบอา้ ว หากเกบ็ รักษาผลผลิตไวไ้ ม่ดี เวลานาออกไป จาหน่ายน้นั จะไดค้ ่าตอบแทนที่ไม่ดีนัก จากการสารวจภายในชุมชนพบวา่ มีการปลูกผกั ของเกษตรกรหรือการปลูกผกั ในครัวเรือนของชาวบา้ นในชุมชน ส่วนใหญ่ผกั ที่ปลกู คอื กวางตุง้ ผกั บงุ้ คะนา้ และอ่นื ๆ และมกั มีปัญหาเรื่องการเกบ็ รักษาผกั ดงั น้นั กลุ่มของ ขา้ พเจา้ จึงสนใจในการแกป้ ัญหาน้ีโดยการทดสอบสารท่ีหาไดใ้ นครัวเรือน ภายในชุมชน ท่ีมรี ายจ่ายน้อย มาช่วยในการคงความสดของผกั ของเกษตรกรในชุมชน เพอ่ื ช่วยคงความ สดของผกั เหล่าน้นั ไดน้ านข้นึ เพ่ือใหไ้ ดค้ ่าตอบแทนท่ีมากข้ึนในการจาหน่ายผกั ที่สด และปลอดจากสารพิษ เป็นมิตรต่อผบู้ ริโภคและส่ิงแวดลอ้ มภายในชุมชน วตั ถุประสงค์ 1.เพอ่ื ทดสอบสารท่ีช่วยคงความสดของผกั โดยเลอื กสารที่หาไดง้ ่ายในชุมชน 2.เพอ่ื ทดสอบคุณภาพของสารในการคงความสดของผกั 3.เพื่อช่วยเกษตรกรและผูค้ า้ ขายผกั ในการแกป้ ัญหาเรื่องความเห่ียวของผกั 4.เพื่อให้ผบู้ ริโภคทราบวธิ ีการคงความสดของผกั ท่ีซ้ือมา ให้สามารถยืดอายผุ กั ไดน้ าน ข้ึน

3 วตั ถุประสงค์ 1 ทดสอบสารคงความสดของผกั กาดขาวในน้ามะพร้าว 2 เพือ่ หาสารคงความสดท่ีหาไดง้ ่ายในชุมชน 3 ท้งั ผบู้ ริโภคและผขู้ ายสามารถนาวธิ ีดงั กล่าวไปใชไ้ ด้ ขอบเขตของกำรจัดทำโครงงำน ทำโครงงำนเกยี่ วน้ำมะพร้ำวช่วยรักษำควำมสดของผกั โดยใช้น้ำมะพร้ำวและผกั กำดขำว และใช้นำ้ มะพร้ำวทดสอบว่ำจะสำมำรถรักษำควำมสดของผักได้หรือไม่ เรำจะทำกำรทดลองและจดบนั ทึกก่อนและหลงั กำรเปลี่ยนแปลงของผักโดยใช้นำ้ มะพร้ำว ผลทคี่ ำดว่ำจะได้รับ 1 สามารถรักษาความสดของผกั ไดโ้ ดยม่ตอ้ งใชส้ ารเคมี 2 นาความรู้ที่มไี ปต่อยอดได้ 3 เกษตรกรสามารถหาวิธีรักษาความสดของผกั ที่มีราคาถูกและปลอดภยั

4 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง การเส่ือมเสียของผกั และผลไม้ ผกั และผลไมเ้ ป็นอาหารสดและเป็นวตั ถดุ ิบ ซ่ึงใชเ้ พ่อื การแปรรูปอาหาร ผกั และผลไม้ เป็นอาหารที่เสื่อมเสียงา่ ย (perishable food) เนื่องจาก มีปริมาณน้าสูง มสี ารอาหารที่ เหมาะสมกบั การเจริญของจุลินทรีย์ และมลี กั ษณะอวบน้า เมอื่ มแี รงกระแทกจากการเก็บ เกี่ยว การปฏิบตั ิหลงั การเก็บเกี่ยว จะทาให้บอบช้าไดง้ ่าย การเสื่อมเสียของผกั และผลไมส้ ด มสี าเหตุหลกั ดงั ต่อไปน้ี การเส่ือมเสียของผกั และผลไมเ้ นื่องจากจลุ ินทรีย์ จุลินทรียห์ ลายชนิดที่มกั พบ เป็นสาเหตสุ าคญั ทาให้ผกั และผลไมเ้ น่าเสีย ไดแ้ ก่ · แบคทเี รียท่ีพบในผกั และผลไมท้ ี่เป็นโรคพืช และเป็นสาเหตุให้ผกั ผลไมเ้ น่าเสีย ไดแ้ ก่ แบคทเี รียท่ีตอ้ งการอากาศ (aerobic bacteria) เช่นPseudomonas, Xanthomonas, Erwinia, Bacillus, Chromobacterium และ พบแบคทีเรียท่ีสร้างกรดแลก็ ทิก (lactic acid bacteria) เช่นStreptococcus, Lactobacillus, Leuconostoc รวมท้งั แบคทีเรียในกลุ่มโคลิ ฟอร์ม (coliform) ซ่ึงเป็นดชั นีบ่งช้ีสุขลกั ษณะการเกษตร เช่นEscherichia coli, Enterobacter แบคทีเรียท่ีเกิดจากการสัมผสั ของมนุษย์ เช่น Staphylococcus รวมท้งั สปอร์ ของแบคทีเรีย (bacterial spore) ของClostridium และ Bacillus ท่ีอยใู่ นดิน และฝ่นุ ละออง ในอากาศ · แบคทเี รียกอ่ โรค เช่น Escherichia coli, Salmonella, Listeria monocytogenes · รา (mold) ราท่ีมกั พบในผกั ผลไมแ้ ละเป็นสาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดโรค และการเน่าเสีย ของผกั ผลไม้ ไดแ้ ก่ เช้ือราในสกุล Alternaria, Botrytis, Aspergillus,Fusarium,

5 Penicillium, Rhizopus, Geotricum เป็นตน้ มลี กั ษณะเป็นเสน้ ใยปกคลุมผิวของผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว · ยสี ต์ (yeast) การเสื่อมเสียของผกั และผลไม้ เน่ืองจากจุลินทรียม์ ผี ลทาให้เน้ือสัมผสั กลน่ิ รสชาติ ของ ผกั และผลไมเ้ ปล่ยี นไป เช่น · ความเป็นกรด-ดา่ งลดต่าลง เน่ืองจากกรดอนิ ทรียท์ ี่จุลนิ ทรียส์ ร้างข้นึ เช่น กรด แลก็ ทิก (lactic acid) กรดแอซีติก (acetic acid) · เน้ือสัมผสั นิ่ม เน่าเละ เน่ืองจากจากแบคทีเรียมเี อนไซมเ์ พกทิเนส (pectinase) แบคทีเรีย เช่น Pseudomonas ซ่ึงยอ่ ยสลายสารเพกทิน · มกี ลิ่นหมกั จากการหมกั ของยีสตใ์ ห้เกิดเอทิลแอลกอฮอล์ เป็นตน้ การเน่าเสียของผกั สลดั จะเกิดข้นึ เมือ่ มปี ริมาณจลุ ินทรียท์ ้งั หมด (standard plate count) เพมิ่ ข้ึน มากกวา่ 7 log10 cycles การเส่ือมเสียของผกั ผลไมเ้ น่ืองจากสาเหตุทางกายภาพ ผกั และผลไมเ้ ป็นเน้ือเยือ่ พชื ที่อวบน้า จึงการเส่ือมเสียไดง้ ่ายเน่ืองจากแรงทางกายภาพที่มี สาเหตมุ าจากแรงกล (mechnical damage) ไดแ้ ก่ แรงการกระแทก แรงอดั แรงเจาะ การ กดั กินของแมลง และสัตวก์ ดั แทะทเี่ กิดข้นี ก่อนการเกบ็ เกี่ยว ระหว่างระหวา่ งการเกบ็ เกี่ยว การขนส่ง การแปรรูป และการเก็บรกั ษา ทาให้ผกั ผลไมม้ ีการแตกหกั ช้ามีบาดแผล นอกจากน้ี การงอกของพืชหวั เช่น หอมหวั ใหญ่ มนั ฝรั่ง ก็จดั เป็นการเสื่อมเสียทาง กายภาพ เพราะสารอาหารเ เช่น สตาร์ช และน้าตาล ในหวั พชื ถกู นาไปใชร้ ะหวา่ งการงอก ทาใหร้ สชาติและลกั ษณะเน้ือสมั ผสั เสียไป

6 การเส่ือมเสียของผกั และผลไมเ้ น่ืองจากสาเหตุทางกายภาพ ยงั เป็นสาเหตสุ าคญั ที่ทาให้ เกิดการเสื่อมเสียของผกั ผลไมต้ อ่ เนื่องจากสาเหตุทางเคมีและจุลินทรียต์ อ่ ไปไดอ้ ีก เนื่องจากบาดแผลจากรอยแตกหกั หรือรอยช้า ซ่ึงอาจป้องกนั ไดด้ ว้ ยการใชว้ สั ดปุ ้องกนั การสน่ั กระแทก การเส่ือมเสียทางกายภาพยงั เร่งใหส้ ารอาหาร ทาปฏิกิริยากบั เอนไซม์ หรือทาปฏิกิริยากนั เองกบั สภาพแวดลอ้ ม เช่น ออกซิเจน หรือ ความช้ืนในบรรยากาศได้ ง่ายอีกดว้ ย การป้องกนั การเส่ือมเสียของผกั และผลไมท้ างกายภาพ ทาไดโ้ ดยเลอื กใชก้ รรมวธิ ีเกบ็ เกี่ยว การขนส่งท่ีเหมาะสม และกระทาอยา่ งระมดั ระวงั ใชว้ สั ดุและบรรจภุ ณั ฑท์ ่ีช่วย รองรับการกระแทก ระหวา่ งการขนส่งและการจดั จาหน่าย การเส่ือมเสียของผกั และผลไม้ เน่ืองจากเอนไซม์ เน่ืองจากเอนไซม์ (enzyme) เป็นโปรตีน ที่พบในสิ่งมีชีวิต มหี นา้ ที่เร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมีภายในเซลล์ และเน้ือเยื่อของส่ิงมีชีวติ เช่น การสลายโมเลกุลของสารอาหารที่มีขนาดใหญ่ใหเ้ ลก็ ลง รวมท้งั เร่งการสังเคราะห์ สารตา่ งๆ ภายในเซลลเ์ ม่ือผกั และผลไมถ้ ูกเกบ็ เกี่ยว เอนไซมท์ ี่ยงั คงทาหนา้ ท่ีอยจู่ ะไปเร่ง การสลายโมเลกุลของอาหาร เช่น เร่งใหผ้ ลไมส้ ุก สีเปล่ียนจากเขยี วเป็นเหลือง เปลีย่ น สตาร์ซ (starch) ให้เป็นน้าตาล ทาใหผ้ ลไมม้ รี สหวาน มเี น้ือนิ่ม ในระหว่างการเตรียมวตั ถุดิบ ผกั และผลไม้ อาจถกู ปอกเปลอื ก (peeling) และ ลดขนาด (size reduction) ดว้ ยการ หน่ั สับ บด ทาให้เอนไซมใ์ นอาหารสมั ผสั กบั โมเลกลุ ของซบั เสตรต มากข้ึน จึงเร่งใหเ้ กิดการเสื่อมเสียไดเ้ ร็วข้ึน เช่น ปฏิกิริยาการเกิดสีน้าตาลซ่ึง เก่ียวขอ้ งกบั เอนไซม์ (enzymatic browning reaction) ไดแ้ ก่ เอนไซมฟ์ ีนอเลส (phenolase) พอลิฟีนอเลส (polyphenolase) พอลฟิ ี นอลออกซิเดส (polyphenol oxidase) ซ่ึงเอนไซม์ เหล่าน้ีจะเร่งปฏิกิริยาให้สารประกอบในกลุ่มฟีนอล (phenolic compounds) ซ่ึงพบมากใน ผกั ผลไม้ เช่น กลว้ ย แอปเปิล มนั เทศ มะเขือ กระทอ้ น เปลอื กมะพร้าวอ่อน เปลย่ี นเป็น

7 สารที่มสี ีน้าตาล โดยเฉพาะเมื่อผกั ผลไมพ้ วกน้ีถกู ปอกเปลือก หนั่ ช้ินให้สมั ผสั กบั ออกซิเจน เอนไซมเ์ พกทิเนส (pectinase) จะเร่งการยอ่ ยสลายเพกทิน (pectin) ซ่ึงเป็นสารพอลิ แซ็กคาไรด์ (polysaccharide) ที่เป็นตวั เชื่อมประสานทาให้โครงสร้างเซลลข์ องผกั และ ผลไม้ แขง็ แรง ทาใหผ้ กั และผลไมม้ เี น้ือสมั ผสั น่ิม นอกจากน้ี เอนไซมเ์ พกทิเนส ยงั ทาให้ น้าผกั น้าผลไมท้ ี่ค้นั สดที่ต้งั ทิง้ ไว้ แยกช้นั ไมเ่ ป็นเน้ือเดียวกนั เหมอื นที่ค้นั ใหม่ การเสื่อมเสียทางเคมเี ป็นการเส่ือมเสียเน่ืองจากปฏิกิริยาทางเคมที ี่เกิดข้นึ ระหวา่ ง ส่วนประกอบของอาหาร ระหวา่ งอาหารกบั บรรจุภณั ฑ์ หรือ ระหว่างอาหารกบั สภาวะ แวดลอ้ ม การเส่ือมเสียทางเคมี ไดแ้ ก่ · การเกิดสีน้าตาลของอาหารท่ีไม่เก่ียวขอ้ งกบั เอนไซม์ (non enzymatic browning reaction) · การเกิดการหืนเน่ืองจากปฏิกิริยาออกซิเดชนั ของไขมนั และน้ามนั (lipid oxidation) คณุ ภาพของผกั หลงั การเก็บเก่ียว ปัจจยั หลายปัจจยั ท่ีตอ้ งไดร้ ับการปรับเปล่ียนเพื่อให้เหมาะสมต่อการรักษาคณุ ภาพของผกั รอยช้า รอยแผลตา่ งๆไมเ่ พียงแต่มผี ลตอ่ คณุ ภาพและลกั ษณะปรากฏเท่าน้นั แต่ยงั เพิม่ อตั รา การหายใจและการสูญเสียน้าดว้ ย ซ่ึงกระตุน้ ให้ผกั เสื่อมสภาพเร็วข้ึน เมือ่ เก็บ เกี่ยวผกั แลว้ ควรกาจดั ส่วนที่มีแผลหรือโรคออก และนาผกั เขา้ สู่ระบบอุณหภมู ิต่าทนั ที ไมว่ า่ ผกั น้นั จะบริโภคสดหรือแปรรูปก็ตาม เพ่อื — ลดกระบวนการเมตาบอลซิ ึมให้เกดิ นอ้ ยลง — ป้องกนั การสะสมความร้อน

8 — ป้องกนั ไม่ให้น้าตาลในผกั เปลย่ี นเป็นแป้ง การเตรียมผกั ออกสู่ตลาด ปัจจยั หลายปัจจยั มีผลกระทบต่ออายกุ ารวางจาหน่ายของผลติ ผลผกั ในตลาด เช่น — พนั ธุ์ผกั — สภาพดินฟ้าอากาศ — การเขตกรรมในระหวา่ งการเจริญเติบโตของผกั — ระดบั ความแกใ่ นช่วงท่ีเก็บเก่ียว — การสภาพแวดลอ้ มและการจดั การหลงั การเกบ็ เกี่ยว ซ่ึงเมื่อพิจารณาถึงปัจจยั สุดทา้ ย จะมปี ัจจยั ยอ่ ยที่เขา้ มาเก่ียวขอ้ ง คอื 1. อตั ราการหายใจและอตั ราการเกิดกระบวนการเมตาบอลซิ ึม ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดการ สูญเสียคุณคา่ ทางอาหารและอายกุ ารใชง้ านโดยตรง 2. การสูญเสียน้า ซ่ึงทาให้เกิดการเห่ียว 3. การชอกช้าท่ีเกิดจากความเสียหายทางกล 4. การเขา้ ทาลายของเช้ือจลุ นิ ทรีย์ และการผดิ ปกติทางสรีรวทิ ยา 5. การเจริญเติบโตต่อเน่ือง การดาเนินการอน่ื ๆท่ีมีผลกระทบต่อคณุ ภาพและอายกุ ารวางจาหน่ายของผกั 1. การทาความสะอาด (Cleaning) • การลา้ งทาความสะอาดจะช่วยกาจดั เศษดินและสิ่งสกปรกตา่ งๆทาให้ผกั มี ลกั ษณะน่าดู แตอ่ าจจะทาให้เกิดโรคไดง้ า่ ย

9 • การลา้ งผกั ใบตอ้ งคานึงถงึ ชนิดของผกั ผกั ตอ้ ง ไม่อมุ้ น้าไวม้ ากเพราะจะ ทาใหเ้ กิดการเน่าเสียจากเช้ือจุลนิ ทรีย์ เช่น ผกั กาดหอม กะหล่าปลี และปวยเหลง็ • การเจริญเติบโตของเช้ือจุลินทรียข์ ้ึนอยกู่ บั การแพร่ระบาดของเช้ือจุลนิ ทรีย์ และการเกิดแผลของผกั • การใชน้ ้าผสมคลอรีนจะช่วยลดการระบาดของเช้ือจุลนิ ทรียไ์ ด้ • การแปรงผกั เพอื่ ทาความสะอาดผลไมแ้ ละผกั หวั อาจจะช่วยใหผ้ กั มผี วิ มนั ข้นึ แต่อาจทาให้ผกั ช้าและกระตนุ้ การสุกทเี่ กิดจากการสังเคราะห์ เอทธิลีนจากการช้า 2. การกาจดั เอทธิลีน เอทธิลีนมีผลเสียตอ่ ผกั หลายชนิด เช่น — ผกั ใบจะเส่ือมสภาพเปลี่ยนจากสีเขยี วเป็นสีเหลอื งอยา่ งรวดเร็ว — เร่งการสุกของแตงเทศ และมะเขือเทศ — ผกั กาดหอมห่อยงั แสดงอาการที่กา้ นใบเกิดเป็นจดุ สีน้าตาลแดงซ่ึงเรียกวา่ Russet Spot — ทาใหแ้ ครอทมรี สขม

10 บทท่ี 3 อปุ กรณ์และวิธีการศึกษาคน้ ควา้ เครื่องมือที่ใชใ้ นการดาเนินการ 1.สมุดบนั ทึก 2.ปากกา 3.ผกั (กกาดขาว) 4.น้ามะพร้าว 5.น้า วธิ ีดาเนินการ 1.เลือกหวั ขอ้ ท่ีจะทาโครงงาน 2.คน้ ควา้ หาขอ้ มูลท่ีเก่ียวกบั โครงงาน 3.ปรึกษาและขอคาแนะนาจาอาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงาน 4.ประชุมกลมุ่ โครงงาน และวางแผนการดาเนินงาน

11 5.แบง่ งานและคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั โครงงานที่จดั ทา 6.เตรียมอุปกรณ์และทดลองทาโครงงาน 7.บนั ทึกผล และทาการทดลองซ้าอีก2คร้ัง 8.ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 9.สรุปผลการทดลอง 10.จดั ทาโครงงาน 11.นาเสนอ วธิ ีการทดลอง 1.เตรียมน้ามะพร้าว และน้า ในปริมาตรที่เทา่ กนั 2.เตรียม ผกั (ผกั กาดขาว) จานวน 1 กิโลกรัม 3.เตรียมภาชนะ 4.เทสารใส่ภาชนะท่ีเตรียมไว้ จากน้นั นาผกั ลงไปแช่ 5.แช่ผกั ทิง้ ไว้ 1 ชว่ั โมง 6.สังเกต บนั ทกึ การเปล่ียนแปลง 7.บนั ทึกผล

12 ผลการศึกษา น้า/น้ามะพร้าว วนั ท่ี1 วนั ท่ี2 วนั ท่ี3 น้า ใบสด ใบสด ใบเปลี่ยนสี น้ามะพร้าว ใบสด ใบเริ่มเปล่ียนสี ผกั เห่ียว

13 บทท่ี 5 สรุปและอภิปรายผลการศึกษา สรุปผลการศึกษา จากผลการทดลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารละลายท่ี มีผลต่อความสดและของผกั กวางตุง้ พบวา่ ในระยะเวลา 3 วนั ผกั กวางตงุ้ มีความสดและความคงทนมากที่สุด เม่ือแช่ผกั กวางตงุ้ ใน สารละลายน้าตาล รองลงมาคือน้าปนู ใส และน้าเปล่า ผกั กวางตงุ้ มีความ สดและความคงทนนอ้ ยท่ีสุด เมื่อแช่ในโซดา อภิปรายผลการศึกษา จากการศกึ ษาและทดลองโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง สารช่วย ชะลอความเห่ียวของผกั ไดข้ อ้ สรุปประเดน็ อภิปรายการศึกษาวา่ เมื่อแช่ ผกั กวางตุง้ ในสารแต่ละชนิดไดแ้ ก่ สารละลายน้าตาล โซดา น้าปนู ใสและ น้าเปลา่ สารท่ีมีประสิทธิภาพตอ่ ความสดและความคงทนของผกั กวางตงุ้ ไดด้ ีที่สุดคือ สารละลายน้าตาล เนื่องจากน้าตาล เป็นสารที่พืชตอ้ งในใน การดารงชีวติ อยู่ เพราะการท่ีผกั หรือพืชชนิดต่างๆเห่ียวน้นั ปัจจยั หน่ึงเกิด จากการขาดน้าตาล และการท่ีเราช่วยเพิ่มน้าตาลใหก้ บั พชื จึงเป็นการช่วย

14 ใหพ้ ืชคงความสดอยไู่ ด้ ทาใหเ้ ราสามารถนาสารเคมีใกลต้ วั ในมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ได้ ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากโครงงาน 1. สามารถนาสารเคมีท่ีหาไดง้ ่ายในครัวมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 2. ทาใหท้ ราบวธิ ีรกั ษาผกั มีความสดและคงทนอยไู่ ดน้ าน 3. ช่วยเพิม่ รายไดข้ องเกษตรกรจากการขายผกั ทสี่ ด 4. เป็นการฝึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์โดยการทาโครงงาน วิทยาศาสตร์ 5. เป็นการฝึกการทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ สร้างความสามคั คีในหม่คู ณะ และมีการรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ื่น ขอ้ เสนอแนะ 1.ควรเพมิ่ สารที่นามาทดลอง เพื่อการเปรียบเทียบประสิทธิภาพท่ีมากข้ึน 2.ควรทดลองในผกั ชนิดอนื่ เพอื่ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพที่มากข้ึน

15

16 บรรณานุกรม 1. //myisblog604.blogspot.com 2. //th.wikipedia.org

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก