5 อาชีพ!! ต้องระวังไม่ควรทำ เพราะเป็นบาป
พระพุทธเจ้า ตรัสห้าม อาชีพ 5 อย่าง เรียกว่า มิจฉาวณิชชา คือ การค้าขายที่ผิด หรือไม่ชอบธรรม หมายถึง บุคคลไม่ควรค้าขาย สิ่งเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อม ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ ค้าสิ่งมีชีวิต ค้าของมึนเมา ค้ายาพิษ //winne.ws/n1498
โดย Pansasiri
04 เม.ย. 2559 - 15.45 น. , แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 2559 - 09.21 น.
แวดวงสงฆ์
2.0 หมื่น ผู้เข้าชม
share
Tags :
พระพุทธองค์ทรงห้ามไม่ให้ทำ อาชีพ 5 อย่าง เรียกว่า มิจฉาวณิชชา คือ การค้าขายที่ผิด หรือไม่ชอบธรรม หมายถึง บุคคลไม่ควรค้าขาย สิ่งเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อม ประกอบด้วย
- 1. สัตถวณิชชา คือการขายอาวุธ อันเป็นอุปกรณ์ซึ่งมีไว้ประทุษร้าย เชื่อว่าคือสิ่งที่ได้ชื่อว่า อาวุธทุกชนิด เช่นอาวุธปืน อาวุธเคมี ระเบิด นิวเคลียร์ อาวุธอื่น ๆ เป็นต้น อาวุธเหล่านี้ หากมีเจตนาเพื่อทำร้ายกัน จะก่อให้เกิดการทำลายล้างซึ่งกันและกัน เป็นการทำลายสันติภาพและมิตรภาพ
- 2. สัตตวณิชชา หมายถึงการค้าขายมนุษย์ อันหมายถึงการจ้างวานแลกเปลี่ยนด้วยเงินทองเพื่อสำเร็จความพอใจที่เนื่องด้วยชีวิตมนุษย์ เช่นการซื้อประเวณี ตลอดถึงการค้าขายเด็ก การค้าทาส ตลอดจนการใช้แรงงานเด็กและสตรีอย่างทารุณเพื่อผลกำไร
- 3. มังสวณิชชา หมายถึง ค้าขายสัตว์เป็นยังมีชีวิต สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหารส่งเสริมทารุณกรรมและเป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1
- 4. มัชชวณิชชา หมายถึง การค้าขายสุราและของมึนเมา โดยการกล่าวครอบคลุมหลักการถึงการไม่ให้ค้าขายสารเสพติดทุกชนิด
- 5. วิสวณิชชา หมายถึง การค้าขายยาพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รวมทั้งสารเคมีที่อันตรายต่อชีวิต คน และสัตว์
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี
ภาพจากwww.google.com
by Smart SME, 14 กุมภาพันธ์ 2561
โยมทั้งหลาย บางครั้งก็มีคนถามว่า “ผมอาศัยอยู่ต่างประเทศ และที่นี่บ่อนการพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย จึงอยากรบกวนสอบถามว่า ถ้าเราทำงานในนั้นจะเป็นบาปไหมครับ?”
โยมให้เรายึดหลักง่ายๆ คือ ประการแรกต้องสุจริตก่อน ถ้าทุจริตผิดกฎหมายก็เดือดร้อนแน่นอน ประการที่สอง แม้สุจริต แต่อาชีพ 5 ประเภทต่อไปนี้ไม่ควรทำ พระพุทธองค์กล่าวว่าเป็นอาชีพที่มีโทษ ควรเว้น คือ
1. ค้าอาวุธ เพราะอาวุธย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียตามมาในภายหลัง ถึงไม่ได้ทำสงครามก็ยังมีการยิงกัน ฆ่ากัน โยมเราลองคิดดูว่า ใครทำอาชีพอะไรก็ล้วนต้องการความเจริญก้าวหน้า คนที่ค้าอาวุธก็เช่นกัน ถ้ามีสงคราม มีการก่อการร้าย อาวุธก็จะขายดี แสดงว่าจิตคนที่ค้าขายแบบนี้ไม่เป็นกุศล จนทำให้ตนเป็นบาป
2. ค้ามนุษย์ ถ้าเป็นสมัยก่อนคือ การค้าขายทาส แต่ปัจจุบันมักจะเห็นในรูปแบบค้าประเวณี ขายสตรีหรือเด็ก
3. ค้ายาพิษ เช่น ยาฆ่าแมลง หรือยาที่ทำร้ายชีวิตอื่น ที่มียาฆ่าแมลงเพราะปัจจุบันมนุษย์เอาความโลภมาบังหน้า อยากได้ผลผลิตมากๆ จึงต้องใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง แต่ตอนนี้คนให้ความสำคัญเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เป็นการเพาะปลูกแบบธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีและยาฆ่าแมลง ถึงราคาพืชผลจะแพงขึ้นมาหน่อย แต่ผู้บริโภคก็ยินดีซื้อ เพราะต้องการความปลอดภัยเป็นหลัก
4. ค้ายาเสพติด เช่น ยาบ้า กัญชา สุรา บุหรี่ เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้ ถ้าว่าเป็นอบายมุข เป็นปากทางแห่งความเสื่อม คนที่ติดยาเสพติด ทรัพย์ย่อมหมดไป ก่อการทะเลาะวิวาท เป็นบ่อเกิดแห่งโรค เสียเกียรติ เสียชื่อเสียง ทำให้ไม่รู้อาย และบั่นทอนกำลังปัญญา
5. ค้าสัตว์นำไปฆ่า เช่น เลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อนำไปขายให้เขาฆ่าเป็นอาหาร เป็นต้น
โยมทั้งหลายถ้าให้ตอบตรงๆ ว่าบาปไหม ดูปากอาตมานะโยม บาป!! ....เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าสัตว์ที่เราขายมันจะต้องตาย ดังนั้นเราจึงมีส่วนทำให้เขาตาย เราก็บาปด้วย ถ้าค้าขายสัตว์เพื่อนำมาเลี้ยง เพื่อเอาไปปล่อยก็ถือว่าไม่บาปนะโยม
เมื่อพูดตามความเป็นจริง ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ต้องการอิสรภาพเหมือนกัน หากนำเขามากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ แม้จะอยู่ในกรงทองคำ หรือในตู้ที่สวยงาม ก็คงไม่เท่ากับปล่อยให้เขามีชีวิตตามเสรีที่เขาต้องการ
เรื่องที่ทำงานในบ่อนกาสิโน ถ้าตอบตรงๆ มันก็บาปนะโยม เพราะเป็นการเลี้ยงชีพกับอบายมุข ทำให้คนอื่นเดินเข้าไปสู่ความเสื่อมในชีวิต เพราะถือว่าเราเป็นคนช่วยดำเนินการเปิดประตูให้เขาไปสู่อบาย
โทษของการติดการพนันคือ เมื่อชนะย่อมก่อเวร เมื่อแพ้ก็เสียดายทรัพย์ที่เสียไป ทรัพย์หมดไป เข้าที่ประชุม เขาก็ไม่เชื่อถือถ้อยคำ เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อนฝูง และไม่เป็นที่พึงประสงค์ของผู้ที่จะหาคู่ครองให้ลูกของเขา เพราะเห็นว่าจะเลี้ยงลูกเมียไม่ไหว
ดังนั้น ถ้าเราหวังรวยจากการพนัน คือความเพ้อฝันของคนเห็นผิด ถ้าเราหลงตัวเข้าสู่อบายมุข มันคือความทุกข์ของครอบครัว เจริญพร