เที่ยว สังขละบุรี 3 วัน 2 คืน Pantip

วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม

วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำเท่านั้น

วัดวังก์วิเวการามเดิมนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 เป็นวัดที่เกิดจากพลังความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อ
อุตตมะ
วัดอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือบริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย ในปี 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อสร้างน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ รวมถึงวัดวังก์วิเวการามเดิม สำหรับวัดย้ายมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน
บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ “วัดใต้น้ำ” หรือ “เมืองบาดาล” และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.สังขละบุรีครับ

การมาที่นี่ทำให้เรารู้สึกสงบเเบบบอกไม่ถูกเลยเลยละ

นั่งเรือมาอีกนิดก็จะเจอซากวัดเก่าที่จมน้ำหลงเหลือเเต่อนุสรณ์สถานให้คนรุ่นหลังได้ดูกันครับ จุดๆนี้เราสามารถลงไปถ่ายรูปได้นะครับ

เดินมาถึงด้านบนเราก็จะพบพระประธานให้เรากราบไหว้ครับ

เสร็จจากล่องเรือชมวัดเราก็เเว้นมอไซร์กันเพื่อไปด่านเจดีย์ 3องค์กันครับ โดยด่านเจดีย์3องค์ห่างจากตัว อ.สังขละประมาณ30กิโลเท่านั้นครับ

เมื่อมาถึงด่านเจดีย์3องค์ทถ้าเป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่มีไวรัสโควิด-19 ที่นี่จะคึกคักเเละเต็มไปด้วยผู้คนที่จะข้ามด่านไปเที่ยวยังประเทศพม่าครับ

หากเรามาเองไม่ผ่านทัวร์ก็จะต้องทำการติดต่อที่ด่านชายแดนเจดีย์สามองค์เพื่อทำบัตรผ่านแดนเข้าพม่าภายใน 1 วันเสียก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้ข้ามแดนทุกคน โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บบัตรประชาชนตัวจริงไว้ 1 ใบ และให้บัตรผ่านแดนมา เมื่อกลับเข้ามาอย่าลืมแวะด่านเพื่อแลกบัตรประชาชนตัวจริงคืนนะครับ

2. กรณีนำรถยนต์เข้าไปในพม่า จะต้องใช้ สำเนาทะเบียนรถ/พรบ./ประกันภัย/ป้ายวงกลม(ป้ายการเสียภาษี) อย่างใดอย่างหนึ่ง และเสียค่าธรรมเนียมคันละ 50 บาท (มอเตอร์ไซค์เอาเข้าไปไม่ได้) ค่าธรรมเนียมผ่านด่านชายแดนเจดีย์สามองค์ จากฝั่งไทยไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนฝั่งพม่าเสียค่าธรรมเนียมคือ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 10 ดอลล่าร์ (ชาวต่างชาติไม่สามารถประทับตราวีซ่าใหม่ ณ จุดผ่านแดนนี้ได้)
เวลาทำการด่านเข้า-ออก 6.00 น. – 18.00 น.
ติดต่อสอบถามการเปิด-ปิดด่านได้ที่ ตม.สังขละบุรี โทร 034-595-335
ข้อแนะนำ
– นักท่องเที่ยวที่ผ่านแดน ไม่สามารถพักค้างคืนในพม่าได้ ต้องกลับเข้ามายังฝั่งไทยก่อนเวลาด่านปิด คือเวลา 18.00 น.
– หากขับรถยนต์เข้าไปในพม่าต้องเปลี่ยนจากขับเลนซ้ายเป็นเลนขวา
– สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองสังขละ เพื่อขี่ไปเที่ยวแถวบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ได้ แต่ไม่สามารถนำมอเตอร์ไซค์ผ่านข้ามแดนไปพม่า
– ฝั่งพม่ามีมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาทัวร์วัดและตลาด ราคาประมาณ 100 – 120 บาท เช่นไปวัดเสาร้อยต้น ตลาดพญาตองซู และวัดเจดีย์ทอง
สำหรับใครที่กลัวหลง เดินทางไม่ถูก ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่ด่านมีแผนที่ในการเดินทางให้ สามารถขอเจ้าหน้าที่ได้เลย เมื่อเข้าฝั่งพม่าแล้ว อย่าลืมว่าต้องขับรถเป็นเลนขวาค่ะ ถนนเป็นลาดยางนิดหน่อย หลังจากนั้นจะเจอแต่ทางดินลูกรัง ขรุขระบ้าง ได้บรรยากาศแอดเวนเจอร์หน่อยๆ ทีเดียว

ซากเส้นทางรถไฟเก่าที่มุ่งหน้าไปพม่าที่ยังคงหลงเหลือตั้งเเต่สมัยสงครามโลก
..... อ่อเราลืมบอกว่าการมาเที่ยวพม่านั้น เราจะต้องมีบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ตครับ ทางทัวร์จะจัดการให้เราหมดครับ เมื่อทำเรื่องผ่านเเดนเสร็จเเล้ว เราก็เดินข้ามไปยังฝั่งพม่าเเล้วจะมีรถสองเเถวมารอรับเราเพื่อเดินทางไปเที่ยวพม่ากันครับ

ออกมาจากด่านเจดีย์สามองค์ขากลับเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีเราได้เเวะที่นี่ เเท่นเเท้นนนน
.... จุดเล่นน้ำตกซองกาเรีย ตั้งอยู่บริเวณสะพานแม่น้ำซองกาเรีย อำเภอสังขละบุรี ห่งจากตัวเมืองเมืองสังขละ ประมาณ ​8 กิโลเมตร ขับรถไปทางชายแดนด่านเจดีย์สามองค์จะเห็นสะพานซองกาเรียทางขวามือ มีพื้นที่จอดรถ และมีบริการฝากรถเสียคันละ 20บาท พร้อมบริการเช่าห่วงยาง อันเล็ก 10 บาท อันใหญ่ 20 บาท ความน่าสนใจของพื้นที่บริเวณนี้ คือเป็นจุดเล่นน้ำ ที่มีน้ำไหล ใสและเย็น น้ำก็ไม่สูง เล่นน้ำสนุกมากครับ และมีซุ้มรับประทานอาหารริมน้ำ มีอาหารอีสานรสชาติจัดจ้านขายด้วย เป็นบรรยากาศปิคนิกที่เย็นสบายมาก

เเพซองกาเรียจะเน้นอาหารตามสั่งกับอาหารอีสานครับ จัดเลยส้มตำไข่เค็ม ส้มตำปูปลาร้า ลาบหมู ข้าวผัดรวม   นอกจากจะได้วิวนั่งกินอาหารริมน้ำแล้ว เรายังสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วยนะ น้ำที่นี่ไม่ลึกครับ เฉลี่ยระดับเอวเท่านั้น

จุดเเวะต่อมาก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรีเราได้เเวะ วัดหลวงพ่ออุตตมะ หรือวัดวังก์วิเวการาม เป็นสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบพม่า วัดนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นที่ คือเป็นศูนย์รวมจิตใจของขาวสังขละ วัดนี้ห่างจากเจดีย์พุทธคยาเพียงนิดเดียวเท่านั้นครับ คือมาเที่ยวครั้งเดียว เที่ยวได้ถึง 2 ที่เลยนะ

จุดเเวะต่อมา พุทธคยาจำลอง หรือ พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น งานวันสงกรานต์ เจดีย์พุทธคยา ตั้งขึ้นอยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการาม ห่างไปประมาณ 650 เมตรเท่านั้น

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก