การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ต่อมาเรียกตนเองว่า "คณะราษฎร" ได้ยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย
คณะราษฎรเกิดจากการรวมกลุ่มของข้าราชการและนักเรียนไทย 7 คนในฝรั่งเศสและยุโรปที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศสยาม ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ (หลวงประดิษฐ์มนูธรรม) เมื่อนักเรียนเหล่านี้กลับมาเมืองไทยก็ได้ขยายกลุ่มสมาชิกภายในประเทศและขอให้พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นหัวหน้าผู้ก่อการ โดยหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเป็นแกนนำฝ่ายพลเรือน หลวงพิบูลสงครามเป็นแกนนำฝ่ายทหารบก
1.
สาเหตุของการปฏิวัติ เกิดจากปัจจัยทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ในด้านปัจจัยทางการเมือง การปฏิรูปบ้านเมืองและปฏิรูปการศึกษาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทำให้เกิดชนชั้นกลางที่เรียนรู้รูปแบบการเมืองการปกครองของชาติตะวันตก ทำให้เห็นว่าการปกครองโดยคน ๆ เดียวหรือสถาบันเดียวไม่อาจแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ชนชั้นกลางจำนวนมากไม่พอใจที่บรรดาเชื้อพระวงศ์ผูกขาดอำนาจการปกครองและการบริหารราชการ
กลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการให้มีการปกครองระบอบรัฐสภาและมีรัฐธรรมนูญ บางกลุ่มต้องการให้มีการปกครองระบอบสาธารณรัฐ
ในด้านปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและการดุลข้าราชการออกจำนวนมากเพื่อตัดลดงบประมาณ ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ข้าราชการและประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่คณะราษฎรใช้โจมตีการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
2. เหตุการณ์วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ในวันที่ 24 มิถุนายน คณะผู้ก่อการเข้ายึดอำนาจการปกครองที่กรุงเทพมหานคร และจับกุมพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้า ฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพอภิรัฐมนตรี เป็นตัวประกัน
ส่วนบริเวณลานหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคุณะผู้ก่อการได้อ่านประกาศยึดอำนาจการปกครอง ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี ประทับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยอมารับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฏร เพราะทรงเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของราษฎรและไม่อยากให้เสียเลือดเนื้อ รวมทั้งพระองค์ก็ทรงมีพระราชดำริที่เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว
ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎรได้เข้าเฝ้า ฯ และนำร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม พุทธศักราช 2475 ขึ้นทูลเกล้า
ฯ ถวาย เพื่อให้ลงพระปรมาภิไธย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเติมคำว่า "ชั่วคราว" ต่อท้ายรัฐธรรมนูญ นับเป็นการเริ่มต้นระบอบรัฐธรรมนูญของไทย ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ได้มีพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
ที่มาและได้รับอนุญาตจาก :
ศิริพร ดาบเพชร คมคาย มากบัว และประจักษ์ แป๊ะสกุล.ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6.
พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.
2475
กลุ่มบุคคลในนาม คณะราษฎร ซึ่งนำโดยพระยาพหลพลพยุหเสนา ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินและเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มาสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและปกครองโดยรัฐสภา การยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองในครั้งนั้นไม่มีการเสียเลือดเนื้อ
2476
พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรก จัดตั้งรัฐสภาขึ้น ทว่าความขัดแย้งในสภาระหว่างรัฐบาลกับคณะราษฎร ได้นำไปสู่การรัฐประหารโดยพระยาพหลพลพยุหเสนา โดยเขาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 5 ปี
2476
กลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า "คณะกู้บ้านเมือง" นำโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม นำกลุ่มทหารที่นิยมกษัตริย์เข้ายึดบริเวณดอนเมือง และจับฝ่ายรัฐเป็นตัวประกัน เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลของพระยาพหลพลพยุหเสนา ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องโดยให้กลับไปใช้ระบอบราชาธิปไตย ก่อนปะทะและถูกปราบ สุดท้ายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจึงถูกเรียกขานว่า "กบฏบวรเดช"
2477
2482
รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ประกาศเปลี่ยนชื่อ ราชอาณาจักรสยาม มาเป็น ราชอาณาจักรไทย
2489
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสิ้นพระชนม์
2490
พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 8 เผชิญกับเหตุอื้อฉาวและปัญหาคอร์รัปชัน จนนำไปสู่การทำรัฐประหารโดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ เพื่อฟื้นอำนาจจอมพล ป. พิบูลสงคราม จากนั้นได้ให้ พ.ต.ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ทหารครองอำนาจต่อไปจนกระทั่งปี 2516
2498
รัฐบาลไทยอนุญาตให้สหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศในระหว่างสงครามเวียดนาม ซึ่งกองทัพไทยได้ร่วมรบในพื้นที่เวียดนามใต้
2500
รัฐประหารโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขจัดฐานอำนาจจอมพล ป. จากนั้นอีก 1 ปี จอมพลสฤษดิ์ได้รัฐประหารตัวเองอีกครั้งเพื่อกระชับอำนาจ
2500-2516
ปัญญาชนนำพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติของ ร. 7 มาตีพิมพ์ในงานเขียนสารคดีต่าง ๆ จนเกิดกระแส "กษัตริย์ประชาธิปไตย"
2516
นักศึกษาและประชาชนชุมนุมขับไล่รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร พร้อมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ทำให้เผด็จการถนอมต้องเดินทางออกนอกประเทศ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รัฐบาลทหารสิ้นสุดลง เปิดทางให้จัดการเลือกตั้งเสรี แต่ผลที่ได้คือรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ
2519
นักศึกษาและประชาชนชุมนุมประท้วงการกลับเข้าประเทศในคราบเณรถนอม ก่อนถูกล้อมปราบที่ ม.ธรรมศาสตร์ และรัฐประหารในวันเดียวกัน โดยมีนักศึกษาจำนวนมากหนีเข้าป่า
2521
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521
2534
คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. ยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในข้อหาทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยที่แกนนำ รสช. สัญญาว่าจะไม่ดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยแต่งตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี
2535
ประชาชนชุมนุมคัดค้านการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. สุจินดา คราประยูร แกนนำ รสช. ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคสามัคคีธรรม ก่อนถูกล้อมปราบ สุดท้าย พล.อ. สุจินดาต้องลาออก และมีการจัดเลือกตั้งใหม่ในปีเดียวกัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง ทำให้นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรค ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
2538
หลังรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ประกาศยุบสภา นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไป ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21
2539
รัฐบาลนายบรรหารประกาศยุบสภา เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคอร์รัปชัน ต่อมา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ชนะการเลือกตั้งได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 22
2540
วิกฤตการเงินในเอเชีย : รัฐบาลไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ต้องล้มละลายและมีคนตกงานจำนวนมากจนต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต่อมา พล.อ.ชวลิตลาออก นายชวน หลีกภัย ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
มกราคม 2544
พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไป พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร (ยศก่อนถูกถอด) หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 23
2548
พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งท่วมท้น สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว 377 เสียงได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ ก่อนเผชิญเสียงวิจารณ์เรื่อง "เผด็จการรัฐสภา
2549
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ภายใต้การนำของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ ขณะที่เขาร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในสหรัฐฯ คปค. แต่งตั้ง พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
สิงหาคม 2550
การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
2550-2551
พรรคพลังประชาชนภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช เครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ธ.ค. 2550 นายสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับไทยหลังจากต้องลีภัยในต่างประเทศ
สิงหาคม 2551
พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมครอบครัวเดินทางลี้ภัยในอังกฤษหลังจากไม่ปรากฏตัวในศาลในคดีเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป
มีนาคม - พฤษภาคม 2553
ผู้สนับสนุนทักษิณในนามกลุ่มคนเสื้อแดงจัดชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา นำไปสู่การสลายการชุมนุมโดยทหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 98 ราย
กรกฎาคม 2554
พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปอย่างถล่มทลาย ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
2556-2557
ประชาชนรวมตัวประท้วงต่อต้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม "ฉบับสุดซอย" ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการชุมนุมบนท้องถนนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่ง
พฤษภาคม 2557
ศาลรธน. มีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขณะนั้น พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่กี่วันต่อมา กองทัพก็ทำรัฐประหารอีกครั้ง
สิงหาคม 2559
ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้รับการรับรองด้วยเสียงท่วมท้นจากประชาชนในการลงประชามติ ซึ่งผู้เห็นต่างไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมรณรงค์คัดค้าน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ยังคงเปิดช่องให้กองทัพเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้
ตุลาคม 2559
ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:52 น. สิริพระชนมพรรษา 88 พรรษา หลังครองราชย์มา 70 ปี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 10
2560
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ของไทยเดือน เม.ย. หลังจากผ่านการทำประชามติและพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ เปิดทางสู่การเลือกตั้ง ในขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาลับหลังในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยมีคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ปรากฏตัวที่ศาลและหลบหนีไปต่างประเทศ
2561
คสช.ยกเลิกประกาศ คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ห้ามพรรคการเมืองหรือประชาชนทำกิจกรรมทางการเมืองได้
24 มีนาคม 2562
การเลือกตั้งทั่วไปมีขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557
พฤษภาคม 2562
ผลการเลือกตั้งทั่วไปไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคเพื่อไทย เครือข่ายของทักษิณ ครองจำนวนที่นั่งในสภาฯ ขณะนั้นมากที่สุด 136 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสนับสนุนกองทัพได้จำนวนที่นั่งเพียง 115 ที่นั่ง
มิถุนายน 2562
รัฐสภามีมติท่วมท้นเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ด้วยคะแนน 500 เสียง จาก 750 เสียง โดยที่วุฒิสมาชิกที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งมาก่อนหน้าพร้อมใจโหวตในทิศทางเดียวกัน
21 กุมภาพันธ์ 2563
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นเวลา 10 ปี ในจำนวนนั้นคือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค