- ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
- “ตัวแทนจัดหางาน” หมายความว่าอย่างไร
- ผู้รับใบอนุญาตจัดหางานตามพระ ราชบัญญัตินี้
- บุคคลซึ่งประสงค์จะทำงาน โดย เรียกหรือรับค่าจ้างเป็นเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น
- ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้
- ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค.ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้
- พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มีกี่หมวด กี่มาตรา
- 6 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- 7 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- 6 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- การจัดตั้งสำนักงานจัดหางานขึ้นในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรียกว่าอะไร
- กรมการจัดหางาน
- สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน
- บริษัทจัดหางาน
- สำนักจัดหางาน
ตอบ ข. สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน
มาตรา 7 ให้จัดตั้งสำนักงานจัดหางานขึ้นในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรียกว่า “สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน” มีหน้าที่จัดหางานให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการ
- ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานทำงานในประเทศ เว้น แต่จะได้รับใบอนุญาตจากใคร
- นายทะเบียน
- คณะกรรมการกองทุน
- อธิบดีกรมการจัดหางาน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียน
- การจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางขึ้นในกรมการจัด หางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ใครเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่พระราชบัญญัตินี้
- นายทะเบียนจัดหางานกลาง
- ทะเบียนจัดหางานจังหวัด
- อธิบดีกรมการจัดหางาน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก.นายทะเบียนจัดหางานกลาง
มาตรา 6 ให้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางขึ้นในกรมการจัด หางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีนายทะเบียนจัดหางาน กลางเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่พระราชบัญญัตินี้
ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร จะจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหา งานจังหวัดขึ้นตรงต่อสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางก็ได้ โดยมีนาย
ทะเบียนจัดหางานจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
- ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติของผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศ
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน
- ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน
- ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน
ตอบ ก. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
มาตรา 9 ผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศต้องมีคุณสมบัติ และไม่มี ลักษณะต้องห้ามดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(3) ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน
(4) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจัดหางาน
(5) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน
(6)
ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(7) ไม่เป็นผู้มีหรือเคยมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีล ธรรมอันดี
(8) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน
(9) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งถูกเพิกถอน ใบอนุญาตจัดหา
งานหรืออยู่ในระหว่างใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต จัดหางาน
(10)
ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งที่ชอบด้วย กฎหมายให้จำคุก
ในความผิดที่กฎหมายบัญญัติให้ถือเอาการกระทำโดยทุจริต เป็นองค์ประกอบ หรือใน
ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
(11) มีหลักประกันเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวงแต่ต้องไม่ น้อยกว่าหนึ่ง
แสนบาทวางไว้กับนายทะเบียน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้
- ใบอนุญาตจัดหางาน มีอายุกี่ปี
- 2 ปี ค. 4 ปี
- 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ก.2 ปี
มาตรา 10 ใบอนุญาตให้ใช้ได้ภายในเขตจังหวัดที่นายทะเบียนระบุไว้ ในใบอนุญาตมีกำหนดสองปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
- ถ้าผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ ยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุไม่น้อยกว่ากี่วัน
- 20 วัน ค. 45 วัน
- 30 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข.30 วัน
- การอนุญาตหรือไม่อนุญาตจะต้องกระทำให้เสร็จ ภายในกี่วันนับแต่ วันที่ได้รับคำขอซึ่งมีรายละเอียดถูกต้องและครบถ้วน ตามที่กำหนดในกฎ กระทรวง
- 20 วัน ค. 45 วัน
- 30 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข.30 วัน
- ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะขอย้าย สำนักงานหรือขอตั้งสำนักงานชั่วคราวนอกเขตท้องที่ที่ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำขอ ต่อใคร
- นายทะเบียน
- คณะกรรมการกองทุน
- อธิบดีกรมการจัดหางาน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียน
มาตรา 12 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะขอย้าย สำนักงานหรือขอตั้งสำนักงานชั่วคราวนอกเขตท้องที่ที่ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำขอ ต่อนายทะเบียน
มาตรา 13 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะเปลี่ยน ผู้จัดการให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียน
- ในกรณีที่นายทะเบียนไม่ออกใบอนุญาต ไม่ต่ออายุใบอนุญาต ไม่อนุญาตให้ย้ายสำนักงาน ไม่อนุญาตให้จัดตั้งสำนักงานชั่วคราวหรือไม่ อนุญาตให้เปลี่ยนผู้จัดการ ผู้ขออนุญาตหรือผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศมี สิทธ์อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในกี่วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการไม่อนุญาต
- 60 วัน ค. 45 วัน
- 90 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ง. 30 วัน
- ผู้จัดการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางาน ซึ่งพ้นจากความ เป็นผู้จัดการลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางาน ต้องส่งคืนบัตรประจำตัวแก่นาย ทะเบียนหรือผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศ ภายในกี่วัน
- 15 วัน ค. 10 วัน
- 30 วัน ง. 7 วัน
ตอบ ง. 7 วัน
มาตรา 21 ผู้จัดการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางาน ซึ่งพ้นจากความ เป็นผู้จัดการลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางาน ต้องส่งคืนบัตรประจำตัวแก่นาย ทะเบียนหรือผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่พ้นจาก ความเป็นผู้จัดการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางาน
- ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือบัตรประจำตัวสูญหายหรือถูกทำลาย ให้ผู้รับอนุญาตจัดหางาน
ยื่นคำขอภายในกี่วัน
- 15 วัน ค. 45 วัน
- 30 วัน ง. 20 วัน
ตอบ ก.15 วัน
มาตรา 22 ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือบัตรประจำตัวสูญหายหรือถูกทำลาย ให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาต หรือบัตรประจำ ตัว แล้วแต่กรณีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบการสูญหายหรือถูกทำลาย
- ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่าง ประเทศเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากใคร
- นายทะเบียนจัดหางานกลาง
- ทะเบียนจัดหางานจังหวัด
- อธิบดีกรมการจัดหางาน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
- ผู้ขออนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ ต้อง เป็นบริษัทประเภทใด
- บริษัทจำกัด ค. ประเภทใดก็ได้
- บริษัทมหาชนจำกัด ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
- ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ
- มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
- มีทุนเป็นของผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวน ทุนทั้งหมด และจะต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของ จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด
- มีหลักประกันเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้อง ไม่น้อยกว่าห้าแสนบาทวางไว้กับนายทะเบียนจัดหางานกลาง เพื่อเป็นหลัก ประกันการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ในกรณีเลิกประกอบธุรกิจจัดหางาน ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงาน ในต่างประเทศจะขอรับคืนหลักประกันที่วางไว้ตาม มาตรา 31 (7) ได้ก็ ต่อเมื่อได้ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ถ้า หนี้ที่เหลือมีจำนวนน้อยกว่าหลักประกันที่วางไว้ ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้ ลดหลักประกันลงให้เหลือเท่ากับหนี้ที่จะพึงรับผิดชอบได้
- หลักประกันจะตกเป็นของกองทุนในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศไม่ขอรับหลัก ประกันคืนภายในกี่ปี นับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตเลิกประกอบธุรกิจ จัดหางาน
- 1 ปี ค. 4 ปี
- 2 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ง. 5 ปี
- ในการจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ผู้รับ อนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศต้องปฏิบัติอย่างไร
- ส่งสัญญาจัดหางานที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในต่างประเทศ หรือตัว แทนจัดหางานทำกับคนหางานต่ออธิบดี
- ส่งคนหางานเข้ารับการตรวจสุขภาพตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ณ สถานพยาบาลที่อธิบดีประกาศกำหนด
- ส่งคนหางานเข้ารับการทดสอบฝีมือตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานประกาศกำหนด
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา 36 ในการจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ผู้รับ อนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ส่งสัญญาจัดหางานที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในต่างประเทศ หรือตัว แทนจัดหางานทำกับคนหางานต่ออธิบดี ตลอดจนเงื่อนไขการจ้างแรงงานที่ นายจ้างในต่างประเทศ หรือตัวแทนซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายจ้างดังกล่าว ทำกับคนหางาน และหลักฐานอื่นที่อธิบดีประกาศกำหนดเพื่อพิจารณาอนุญาต ก่อนส่งคนหางานไปต่างประเทศ
(2) ส่งคนหางานเข้ารับการตรวจสุขภาพตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ณ สถานพยาบาลที่อธิบดีประกาศกำหนด
(3) ส่งคนหางานเข้ารับการทดสอบฝีมือตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานประกาศกำหนด
(4) ส่งคนหางานที่ผ่านการคัดเลือก และทดสอบฝีมือแล้วเข้ารับการ อบรมเกี่ยวกับกฎหมายและขนบธรรมเนียนประเพณีของประเทศที่คนหางานจะ ไปทำงาน ตลอดจนสภาพการจ้าง ณ สำนักงานทะเบียนจัดหางานกลาง สำนักงานทะเบียนจัดหางานจังหวัด หรือสถาบันอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด
(5) ส่งบัญชีรายชื่อและสถานที่ทำงานในต่างประเทศของคนหางาน พร้อมทั้งสำเนาสัญญาว่าจ้างแรงงานให้แก่นายทะเบียนจัดหางานกลางภายใน เจ็ดวันนับแต่วันที่คนหางานออกเดินทาง
(6) แจ้งเป็นหนังสือโดยแนบบัญชีรายชื่อ และสถานที่ทำงานในต่างประ เทศของคนหางานตาม (5) ให้สำนักงานแรงงานไทยในประเทศที่คนหางาน ไปทำงานทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่คนหางานเดินทางไปถึง ในกรณีที่ไม่ มีสำนักงานแรงงานไทยในประเทศดังกล่าว ให้แจ้งเป็นหนังสือให้สถานทูต ไทยหรือสถานกงสุลไทยในประเทศนั้น หรือสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย หรือผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลคนไทยในประเทศนั้น ทราบภายในระยะเวลา ดังกล่าว
(7) รายงานให้นายทะเบียนจัดหางานกลางทราบ ภายในวันที่สิบของ เดือนถัดไปเป็นประจำทุกเดือน ในกรณีที่ยังมีคนหางานไม่ได้เดินทางไปทำ งานตามสัญญาจัดหางาน
- ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เรียกหรือรับค่าบริการจากคนหางาน ไว้เป็นการล่วงหน้าเกินกี่วัน ก่อนเดินทาง
- 15 วัน ค. 30 วัน
- 20 วัน ง. 45 วัน
ตอบ ค. 30 วัน
มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เรียกหรือรับค่าบริการจากคนหางาน ไว้เป็นการล่วงหน้าเกินสามสิบวันก่อน เดินทาง ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่าง ประเทศอาจร้องขอต่อนายทะเบียนจัดหางานกลาง เพื่อขอขยายระยะเวลา ดังกล่าวได้ แต่การขยายระยะเวลาให้กระทำได้เพียงครั้งเดียวมีกำหนด เวลาไม่เกินสามสิบวัน