บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสแกนเอกสารแบบกระดาษ เป็นไฟล์ดิจิตอลแล้วเซฟลงคอม ด้วยพรินเตอร์ Canon แบบ all-in-one ทำได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ Windows และ Mac เลย
-
1
เช็คว่าพรินเตอร์ Canon ของคุณใช้สแกนเอกสารได้. ถ้าพรินเตอร์ที่ใช้เป็นรุ่น "all-in-one" ก็แสดงว่าสแกนเอกสารได้ พรินเตอร์บางรุ่นก็ใช้สแกนเอกสารได้เหมือนกัน แต่ต้องอ่านคู่มือหรือเข้าหน้าเว็บของรุ่นที่ใช้ดูก่อนให้แน่ใจ
-
2
เชื่อมต่อพรินเตอร์เข้ากับคอม. พรินเตอร์ Canon ส่วนใหญ่ที่ใช้สแกนได้ จะมีให้เชื่อมต่อแบบไร้สาย ผ่านแผง touch-screen ด้วย แต่บางทีก็ต้องเสียบพรินเตอร์กับคอมด้วยสาย USB
เคล็ดลับ: พรินเตอร์ส่วนใหญ่จะมีสาย USB ไว้ให้ เผื่อฟีเจอร์เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ไม่ได้ผล
-
3
ดาวน์โหลดและติดตั้งไดรฟ์เวอร์และโปรแกรมเสริมของพรินเตอร์. ถ้าพรินเตอร์มี CD หรือ DVD มาให้ด้วย คุณสามารถใช้มันติดตั้งไดรฟ์เวอร์สำหรับพรินเตอร์ได้เลย ซึ่งมันอาจมีโปรแกรมเสริม IJ Scan Utility ที่คุณใช้สแกนเอกสารได้[1] แต่ถ้าไม่มี CD หรือ DVD ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ไปที่ //www.usa.canon.com/internet/portal/us/home/support/drivers-downloads ในเบราเซอร์
- คลิก Printers.
- เลือกรุ่นหรือใส่เลขรุ่นลงไปในแถบค้นหาแล้วกด Enter
- เลือกระบบการทำงานโดยใช้เมนูที่ลากลงมาถัดจาก "Operating System" (ถ้าไดรฟ์เวอร์ไม่มีสำหรับระบบคอมพ์ที่คุณใช้ คุณอาจไม่จำเป็นต้องติดตั้งไดรฟ์เวอร์)
- คลิก Select ถัดจากไดรฟ์เวอร์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด
- คลิก Download
- เปิดไฟล์ติดตั้งและทำตามคำแนะนำ
-
4
เปิดพรินเตอร์ก่อน. กดปุ่ม "On" ของพรินเตอร์ ถ้าพรินเตอร์ไม่ยอมเปิด ก็ต้องเช็คก่อนว่าเสียบปลั๊กเรียบร้อยแล้ว
-
5
เปิดสแกนเนอร์. ยกฝาของสแกนเนอร์ขึ้น แล้วจะเห็นพื้นกระจกที่เอาไว้วางเอกสาร
-
6
คว่ำหน้ากระดาษในสแกนเนอร์. จะมีเครื่องหมายลูกศรทางมุมซ้ายแล้ววางเอกสารตามแนวลูกศรนั้น เอกสารควรวางตามแนวชิดขอบบนซ้ายของกระจก[2]
- ถ้าพรินเตอร์ Canon มีที่ป้อนกระดาษแบบ all-in-one ก็ให้สอดเอกสารเข้าไปในถาดแทน จะมีสัญลักษณ์ที่ถาด ว่าต้องสอดเอกสารเข้าไปยังไง
- ลองอ่านคู่มือของ Canon ดู ถ้าไม่รู้ว่าต้องใช้สแกนเนอร์ในพรินเตอร์ยังไง
-
7
ปิดฝาสแกนเนอร์. เช็คว่าปิดฝาแนบสนิทดีแล้ว ค่อยเริ่มสแกนเอกสาร
โฆษณา
-
1
ไปที่โฟลเดอร์ IJ Scan Utility. ใช้หนึ่งในขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อไปยังโฟลเดอร์ IJ Scan Utility ใน PC และ Mac:
- Windows:
- คลิกปุ่ม Windows Start
- เปิดโฟลเดอร์ Canon Utilities
- Mac:
- คลิก Go ในเมนูบาร์ด้านบน
- คลิก Applications.
- เปิดโฟลเดอร์ Canon Utilities
- เปิดโฟลเดอร์ IJ Scan Utility
- Windows:
-
2
เปิด IJ Scan Utility. มันมีไอคอนที่คล้ายเอกสารถัดจากสแกนเนอร์ คลิกไอคอนนี้ในโฟลเดอร์ IJ Scan Utility
-
3
คลิก Settings. อยู่ทางมุมขวาล่างของแอป IJ Scan Utility
-
4
คลิก Document Scan. เป็นตัวเลือกที่สองในเมนูทางด้านซ้าย
-
5
เลือก "PDF (Multiple Pages)." คลิกเมนูลากลงมาถัดจาก "Data Format" แล้วเลือก "PDF (Multiple Pages) นี่จะทำให้คุณสแกนหน้าหลายๆ หน้ารวมเป็นเอกสารตัวเดียว
- พรินเตอร์บางเครื่องสามารถตั้งค่าให้สแกนเอกสารทั้งสองด้านโดยอัตโนมัติ ทางมีตัวเลือกนี้ในพรินเตอร์ เลือก "Document (ADF/Platen)" ในเมนูถัดจาก "Select source" เพื่อเปิดการทำงานของมัน
-
6
เลือกตำแหน่งที่จะเซฟแล้วคลิก Ok. ใช้เมนูลากลงมาถัดจาก "Save in" เพื่อเลือกจุดที่จะใช้เก็บเอกสารตัวนี้ แล้วคลิก Ok
- ตามค่าจากโรงงานนั้น เอกสารจะถูกจัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ "Documents"
-
7
คลิก Document. เป็นตัวเลือกที่สองในหน้าต่าง IJ Scan Utility มันมีไอคอนที่บอกว่า "PDF" ถัดจากเอกสาร นี่จะเริ่มการสแกนหน้า อาจใช้เวลาเป็นนาทีกว่าจะเสร็จ
-
8
ใส่หน้าต่อไปแล้วคลิก Scan. ถ้าต้องสแกนมากกว่าหนึ่งหน้า ให้วางหน้าต่อไปบนพื้นกระจกหรือในถาดใส่เอกสารอัตโนมัติ ให้แน่ใจว่าเอกสารอยู่ชิดแนวลูกศรทางมุมซ้าย คลิก Scan เมื่อคุณพร้อมจะสแกนหน้าถัดไป
-
9
คลิก Exit. พอสแกนทุกหน้าเสร็จ คลิก Exit เอกสารจะถูกเซฟเป็นไฟล์ PDF ในโฟลเดอร์ Documents หรือตามจุดที่คุณเลือกให้จัดเก็บ[3]
โฆษณา
-
1
เปิด Start
. คลิกโลโก้ Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ -
2
พิมพ์ windows fax and scan ใน Start. เพื่อค้นหาแอพ Windows Fax and Scan
-
3
คลิก Windows Fax and Scan. ทางด้านบนของหน้าต่าง Start แล้วแอพ Fax and Scan จะเปิดขึ้นมา
-
4
คลิก New Scan. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง Fax and Scan เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่
-
5
เช็คว่าสแกนเนอร์ถูกเครื่องแล้ว. จะเห็นคำว่า "Canon" และเลขรุ่นพรินเตอร์ที่ใช้ ถ้าเป็นอย่างอื่น ให้คลิก Change... แล้วเลือกพรินเตอร์ Canon
-
6
เลือกประเภทเอกสาร. คลิกช่อง "Profile" ให้ขยายลงมา แล้วเลือกประเภทเอกสาร (เช่น Photo) ในช่องที่ขยายลงมา
-
7
เลือกสีของเอกสาร. คลิกช่อง "Color format" ให้ขยายลงมา แล้วเลือก Color หรือ Black and White
- สแกนเนอร์ที่ใช้อาจจะมีตัวเลือกฟอร์แมตสีมากกว่า (หรือน้อยกว่า) นี้
-
8
เลือกประเภทไฟล์. คลิกช่อง "File type" ให้ขยายลงมา แล้วคลิกประเภทไฟล์ (เช่น PDF หรือ JPG) ที่จะเซฟลงคอมหลังสแกนแล้ว
เคล็ดลับ: ถ้าจะสแกนเอกสาร ก็ต้องเลือก PDF
-
9
เปลี่ยนตัวเลือกต่างๆ ในหน้า. อันนี้แล้วแต่สแกนเนอร์ที่ใช้ บางทีก็มีตัวเลือกอื่นๆ (เช่น "Resolution") ให้ได้ปรับแต่งก่อนสแกนเอกสาร
-
10
คลิก Preview. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อดูตัวอย่างเอกสารในสแกนเนอร์
เคล็ดลับ: ถ้าเอกสารเบี้ยว ยับ หรือไม่บางส่วนขาดหาย ก็ต้องจัดหน้ากระดาษในสแกนเนอร์ให้เข้าที่ แล้วคลิก Preview อีกรอบ เพื่อดูตัวอย่างว่าพร้อมสแกนหรือยัง
-
11
คลิก Scan. ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเริ่มสแกนเอกสารลงคอม เสร็จแล้วคุณหาไฟล์ที่สแกนแล้วได้โดย
โฆษณา
-
1
เปิด Apple menu
. คลิกโลโก้ Apple ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา -
2
คลิก System Preferences…. ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา
-
3
คลิก Printers & Scanners. ที่เป็นไอคอนรูปพรินเตอร์ ทางขวาของหน้าต่าง System Preferences
-
4
เลือกพรินเตอร์ Canon. คลิกตัวเลือก "Canon" ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง
-
5
คลิก tab Scan. ทางด้านบนของหน้าต่าง
-
6
คลิก Open Scanner…. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของหน้าต่าง tab Scan
-
7
คลิก Show Details. ที่ด้านขวาล่างของหน้าต่าง
-
8
เลือกประเภทไฟล์. คลิกช่อง "Format" ให้ขยายลงมา แล้วคลิกประเภทไฟล์ (เช่น PDF หรือ JPEG) ที่จะเซฟลงคอม
เคล็ดลับ: ถ้าจะสแกนอย่างอื่นที่ไม่ใช่รูป เลือก PDF จะดีที่สุด
-
9
เลือกสี. คลิกช่อง "Kind" ให้ขยายลงมา ทางด้านบนของหน้า แล้วเลือกตัวเลือกสี (เช่น Black and White)
- บางสแกนเนอร์ที่ใช้อาจมีตัวเลือกจำกัดหน่อย
-
10
เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์. คลิกช่อง "Save To" ให้ขยายลงมา แล้วคลิกโฟลเดอร์ที่จะเซฟไฟล์หลังสแกนเสร็จ (เช่น Desktop)
-
11
เปลี่ยนตัวเลือกอื่นๆ ในหน้า. อันนี้แล้วแต่ประเภทไฟล์ที่สแกน บางทีก็ต้องเปลี่ยนค่า "Resolution" หรือ "Orientation" ด้วย
-
12
คลิก Scan. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่อเริ่มสแกนเอกสารลงคอม เสร็จแล้วก็ไปเปิดไฟล์จากในโฟลเดอร์ที่เลือกไว้ได้เลย
โฆษณา
เคล็ดลับ
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 188,812 ครั้ง