แนะนำเรื่อง
บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
*** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้หจก. EnJoyBook ***
ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100%
เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : Zongheng
---------------------------------------
นิยายแปลเรื่อง บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
ผู้แต่ง : 萧瑾瑜 ผู้แปล : ทีมงาน EnjoyBook
เรื่องย่อ
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!
ซูอี้ หัวหน้าศิษย์สายนอกสำนักดาบชิงเหอ บุตรเขยตระกูลเหวิน ผู้สูญเสียพลังภายในตันเถียนไปทั้งหมด! แท้จริงแล้วเมื่อหนึ่งปีก่อนเขาได้ตื่นขึ้น และจดจำเรื่องราวเมื่อครั้งยังเป็น ‘ปรมาจารย์ดาบเสวียนจวิน’ อดีตผู้ปกครองเพียงหนึ่ง ณ ยุคสมัยแห่งเก้ามหาแดนดินได้!
...ครานั้น เหล่าคนต้อยต่ำต่างหมายแย่งชิงลักขโมยสิ่งของของข้า พวกมันกล้าวอ้างคุณธรรม บ้างก็อ้างป้ายสีใส่ร้ายข้า ทว่าบัดนี้ข้ากลับมาแล้ว! และอีกไม่นานจะกลับมาผงาดอีกครั้ง!
สารบัญ
693 ตอน | อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 2565 15:43
- เล่ม 1 (1-70)
- เล่ม 2 (71-121)
- เล่ม 3 (122-180)
- เล่ม 4 (181-240)
- เล่ม 5 (241-300)
- เล่ม 6 (301-360)
- เล่ม 7 (361-420)
- เล่ม 8 (421-480)
- เล่ม 9 (481-540)
- เล่ม 10 (541-600)
- เล่ม 11 (601-660)
- เล่ม 12 (661-720)
บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
*** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้หจก. EnJoyBook ***
ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100%
เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : Zongheng
---------------------------------------
นิยายแปลเรื่อง บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
ผู้แต่ง : 萧瑾瑜 ผู้แปล : ทีมงาน EnjoyBook
เรื่องย่อ
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!
ซูอี้ หัวหน้าศิษย์สายนอกสำนักดาบชิงเหอ บุตรเขยตระกูลเหวิน ผู้สูญเสียพลังภายในตันเถียนไปทั้งหมด! แท้จริงแล้วเมื่อหนึ่งปีก่อนเขาได้ตื่นขึ้น และจดจำเรื่องราวเมื่อครั้งยังเป็น ‘ปรมาจารย์ดาบเสวียนจวิน’ อดีตผู้ปกครองเพียงหนึ่ง ณ ยุคสมัยแห่งเก้ามหาแดนดินได้!
...ครานั้น เหล่าคนต้อยต่ำต่างหมายแย่งชิงลักขโมยสิ่งของของข้า พวกมันกล้าวอ้างคุณธรรม บ้างก็อ้างป้ายสีใส่ร้ายข้า ทว่าบัดนี้ข้ากลับมาแล้ว! และอีกไม่นานจะกลับมาผงาดอีกครั้ง!
ที่ 48 คำขอจากฟู่ซาน.
ณ เรือนเ็เหมยอำพัน
หลังซูอี้ัมาจากนอกเมือง เขาก็ได้พบกับแขกที่ไม่คาดคิดรออยู่
เ้าเมืองฟู่ซาน!
“ซูเซียนเิ”
ฟู่ซานยิ้มทักทายเขา “ข้ามาไม่ได้บอก่าก่อน โปรดอภัยด้วย”`
``
ครั้งนี้เขาเรียกซูอี้ว่า ‘เซียนเิ’ เหมือนกับเซียวเทียนเชวี่ยและจื่อจิ่น
เป็คำเรียกหาที่ยกย่องให้เกียรติ
นี่หมายความว่าใใของฟู่ซาน ซูอี้ไม่ได้เป็เพียงสหายน้อยอีกต่อไป
ซูอี้ใคร่ครวญจึงเอ่ย “เ้ามีเรื่องไร้ทางคลี่คลายหรือ?”
“นึกแ้ว่าข้าไม่อาจปิดบังท่านได้”
ฟู่ซานหายใใญ่โต แววเป็กังวลปรากฏกลางห่าคิ้ว “ข้ามาที่นี่เพื่อขอร้องเรื่องไม่ควร หวังว่าเซียนเิจะ่ได้”
“ว่ามาเถิด” ซูอี้พยักหน้ารับ
ฟู่ซานคิดไตร่ตรองและพูดออกมาใท้ายทีุ่ “อีกสามวันาปะประูมังกรจะจัดขึ้น เดิมทีข้าควบคุมจัดการทุกอย่างได้ ทว่าเมื่อคืนก่อนข้าัได้รับจดหมายจากลี่เจี้ยนอวี่ เ้าเมืองลั่วอวิ๋น”
“เขาเขียนแนะนำมาใจดหมายว่าใาปะประูมังกรปีนี้ ควรตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ชั่วทศวรรษของ ‘เาะไ่วิญญาณ’ กันเสียที”
“หากชายหนุ่มจากเมืองก่าหลิงเป็ผู้ชนะใการแข่งขันนี้ เาะไ่วิญญาณจะตกเป็ดินแดนของเมืองก่าหลิง และอยู่ภายใต้การปกของจวนเ้าเมืองเป็เวลาสิบปี”
“หากไม่เป็เช่นั้เาะไ่วิญญาณจะตกเป็ของเมืองลั่วอวิ๋น”
ซูอี้มองสถานการณ์ออกบ้าง ถามขึ้น “เาะไ่วิญญาณวิเศษึเพียงั้เลยหรือ?”
“แน่นอน”
ฟู่ซานแถลง “เกาะนี้ตั้งอยู่ใกลางแม่้ำต้าฉาง ห่างจากเมืองก่าหลิงไปสามสิบลี้ เป็เกาะเ็ ๆ ใแม่้ำ”
“แม้จะห่างไปเพียงสามสิบลี้ แต่ัเป็สถานที่มหัศจรรย์เป็แหล่งรวมพลังวิญญาณ และที่สำคัญ บนเกาะมีป่าไผ่ซึ่งมีนามว่า ‘ไผ่วิญญาณหยกขจี’ อีกด้วย”
“ต้นไผ่เหล่าั้นับได้ว่าเป็บัติล้ำค่า ั้า หน่อ และใบต่างสามารถนำมาทำเป็โอสถ พวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยปราณวิญญาณธาตุไม้”
“ลำต้นไผ่ที่โตเต็มที่เป็วัตถุดิบวิญญาณเลอค่า สามารถนำมาใช้ทำอาวุธวิญญาณได้”
“เมื่อก่อนเมืองก่าหลิงและเมืองลั่วอวิ๋นผลัดกันปกเาะไ่วิญญาณครั้งละสามปี”
“ทว่าตั้งแต่ลี่เจี้ยนอวี่ขึ้นเป็เ้าเมืองเมื่อปีก่อน เขาัทำลายธรรมเนียมดั้งเดิม และไม่ยอมปฏิบัติตามแต่อย่างใด ตั้งใจะครอบเกาะเอาไว้แต่ผู้เดียว”
“ปีที่ผ่านมาเขากับข้ามีเรื่องข้อพิพาทเรื่องเาะไ่วิญญาณามาย ูเหมือนจะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที หากไม่แก้ไขคงไม่พ้นกลายเป็การจลาจลครั้งใญ่แน่”
สิ้นคำ ฟู่ซานก็ยิ้มอย่างขมขื่น
ซูอี้่าคำ “หากท่านว่าเช่นนี้ เรื่องที่เขาเสนอคลี่คลายปัญหานี้ที่าปะประูมังกร คงไม่ใช่สิ่งที่ท่านหวังไว้อย่างั้หรือ?”
ฟู่ซานใ “หากข้าทราบเรื่องตั้งแต่หลายวันก่อนคงยอมตกลงไปแ้ แต่เขาัไม่บอกข้ากระทั่งเมื่อคืน ทำให้ข้าจัดการได้ยากนัก”
“เุใดเล่า?” ซูอี้เลิกคิ้ว
“ที่าปะประูมังกรมีเพียงนักสู้หนุ่มสาววัยไม่เกินสิบแปดที่มีสิทธิ์เ้าร่วมการประลอง หากข้ารู้ล่วงหน้าคงจะเตรียมการหาผู้ที่แข็งแกร่งไว้ลงประลองยุทธ์”
ฟู่ซานเอ่ยอย่างัใ “บัดนี้เวลาคับขัน ข้าไม่มีเวลาเตรียมการ ักับเขาผู้เสนอา่อนย่อมมีแผนการและมั่นใเป็แน่”
ซูอี้พยักหน้ารับเมื่อได้ฟังึตรงนี้ ่าขึ้น “ลี่เจี้ยนอวี่ผู้นี้แผนสูงนัก”
ฟู่ซานถากถาง “จิ้งจอกเฒ่าผู้ั้เหลี่ยมจัด ไม่เคยลงสู้ใสนามที่ไม่มั่นใ ครั้งนี้คงจะเป็เช่นั้ ข้าได้ข่าวมาว่าเขาได้เตรียมชายหนุ่มเปี่ยมพรสวรรค์นามว่า ‘โ่เีหลิง’ เอาไว้แ้”
“โ่เีหลิงผู้นี้มาจากตระกูลโม่ เป็ตระกูลเก่าแก่ใเมืองลั่วอวิ๋น ปีนี้เขาอายุสิบแปด และฝึกที่ำัดาบชิงเหอได้ปีแ้”
“ภายหลังเขาเดินทางออกจากเขตปกอวิ๋นเหอไปเ้าร่วมกองกำลังเกล็ดแดงภายใต้การนำของท่านจวิ้นอ๋องอวิ๋นกวง และฝึกใรภูมิรบา่าหนึ่งปี”
“เด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งและาประสบการณ์เช่นั้ไม่มีทางที่ลูกศิษย์ำัต่าง ๆ ผู้ไม่เคยเผชิญกับสนามรบจริงจะสู้ได้”
เล่าึตรงนี้ เขาจึงเสีหน้านิ่วแสดงแววหวั่นใ
“เขานี่เอง”
ซูอี้รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง ก่อนพลันนึกขึ้นได้
เมื่อครั้งเขาฝึกที่ำัดาบชิงเหอเ้าปีที่สาม โ่เีหลิงได้กลายเป็ศิษย์สายใของำั
คนผู้นี้โหดเหี้ยมเลืร้อน ฟัแขนขวาของเพื่อนร่วมำัระห่าฝึกซ้อมจนขาดอย่างไร้ปรานี ้าความไม่พอใให้ผู้อาวุโสใำั และขับไล่เขาออกจากำัดาบชิงเหอ
ซูอี้นึกไม่ึว่าผ่านมาเนิ่นา เขาจะยังได้ิข่าวคราวของอีกฝ่าย
“ซูเซียนเิ ข้ารู้ว่าการเชิญท่านมาเ้าร่วมประลองทำให้ท่านต้องเปิดเตัวตน ทว่าไม่มีหนทางอื่นอีกแ้ แต่หากท่านไม่ตกลงก็ไม่เป็ไร ข้าจะลองคิดหาทางอื่น”!
เห็นซูอี้นิ่งเงียบ ฟู่ซานลำบากใไม่ได้ เขารู้สึกมืดแปดด้าน
เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะขอความ่เหลือจากซูอี้
หลังจากเนี่ยเป่ยหู่เอ่ยเตือน เขาพลันนึกได้ว่าซูอี้ผู้เป็ที่นับถือของเ้าแห่งเขตปกหลิงเหยาอายุเพียงสิบเจ็ดปีเ่าั้!
แน่นอนว่าอายุเ่านี้มีสิทธ์เ้าร่วมการแข่งขันได้
หลังลังเลใอยู่า ใทีุ่จึงกัดฟัมาขอความ่เหลือ
เขาไม่คิดว่าคนเช่นซูอี้จะตอบตกลงอย่างง่ายดายอยู่แ้ ึกระั้ยังลองถามไถู่แม้จะไม่มั่นในัก
ซูอี้พลันถาม “ข้าได้ิว่าผู้อาวุโสโจวฮวายชิวและศิษย์เอกหนีเฮ่าจากำัดาบชิงเหออยู่ที่นี่เช่นกัน เุใดท่านจึงไม่ไปขอความ่เหลือจากหนีเฮ่าเล่า?”
ฟู่ซานยิ้มเจื่อนพลาง่าหน้า “ก่อนอื่นข้าไร้สัมพันธ์กับโจวฮวายชิว อย่างคือช่วงนี้โจวฮวายชิวและหนีเฮ่าอาศัยอยู่ที่้าตระกูลหลี่”
“เซียนเิน่าจะทราบดีว่าครั้งเมื่องานวันเกิดของนายหญิงเฒ่าตระกูลเหวิน หลี่เทียนหานไม่พอใกับท่าทีของข้านัก ดังั้…”
ซูอี้พยักหน้าตอบ “ข้าเ้าใ เอาเถิด เมื่อาปะประูมังกรเริ่ม ข้าจะไปเ้าร่วม”
อย่างไรเสียฟู่ซานก็่เหลือเขาไว้าที่ภัตตาคารรวมเซียน แม้ครั้งั้อีกฝ่ายจะทำตามสั่งเ่าั้ แต่ซูอี้ยังซาบซึ้งใไม่ได้
บัดนี้มาขอความ่เหลือึ้า เขาคงไม่อาจนิ่งเฉยลงได้
หากคู่ต่อสู้ไม่ได้เก่งกาจนักหนา ก็ถือเสียว่าเป็โอกาสชมทิวทัศน์และแสงไฟรูปมังกรริม้ำ
ฟู่ซานิดีนัก ยิ้ม้า “มีซูเซียนเิอยู่ั้คน สถานการณ์ย่อมคลี่คลาย! ข้าไม่นึกกังวลอีกแ้!”
ไม่าอีกฝ่ายจึงบอกลา
ซูอี้ัเ้าห้อง ถเสื้อผ้าก่อนลงแช่ใอ่าง้ำุนไพรที่เตรียมเอาไว้
เมื่อเทียบกับเรื่องตอบตกลงเ้าร่วมาปะประูมังกร เขาใส่ใกับการฝึกของตนเองเสียา่า
ช่วงนี้หวงเฉียนจวินนำ้ำแกงกระูกหมูเสริมุนไพรมาให้ทุกเช้า
นอกจากนี้ยังมีหินวิญญาณ การฝึกของซูอี้จึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อคืนเขาได้สำเร็จั้ัเาเส้นเอ็นึระดับจุดบูรณ์ กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นแข็งแกร่งราวชิว*[1] มีอานุภาพความแกร่งทนและยืดหยุ่นชวนตกตะลึง
ความแข็งแกร่งของเขาในี้ หากย้อนไปเจออู๋รั่วชิวผู้อยู่ใขอบเขตรวบรวมลมปราณ ั้หนึ่ง ‘เิปัญญา’ อีกครา เขาคงสามารถสังหารอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายโดยใช้แค่เพียงเพลงดาบอย่างเดียวเ่าั้
“อืม ถัดไปเมื่อฝึก ั้ัเากระูก ุนไพรธรรมดาเหล่านี้คงได้ผลไม่ดีอีกแ้…”
ไม่าซูอี้ก็หน้าเหยเกเ็น้อย ุขึ้นจากอ่าง้ำ กล้ามเนื้อูกระชับ เเป็มัดชัดเจนบนกายแกร่ง ขาวส่าวาววับราวหยก
เขาเช็ดตัว สวมเสื้อคลุม ก่อนนั่งลงบนเตียงขณะถือหินวิญญาณไว้ใมือ
การัเากระูกเป็ัุ้ท้ายของขอบเขตโคจรโลหิต
การบรรลุระดับนี้ยาก่าการัเาเส้นเอ็นา เขาจะต้องัเากระูกไปจนึแก่นจนึั้ที่เรีย่า ‘ไขกระูกเยือกแข็ง’!
ผู้บ่มเพาะส่วนใญ่ใอาณาจักรโจวติดอยู่ใขอบเขตนี้ไปตลชีวิต ยากที่จะเลื่อนระดับให้สูงขึ้น
ดังเช่นใเมืองก่าหลิง
มีผู้บ่มเพาะขอบเขตโคจรโลหิตเกลื่อนกลาด ทว่ามีคนเพียงหยิบมือเดียวที่สามารถเ้าึขอบเขตรวบรวมลมปราณ
สำหรับซูอี้ การัเากระูกั้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องมีวัตถุดิบเ่าั้
ก่อนหน้าุนไพรทั่วไปอาจใช้ควบคู่การฝึกได้
แต่บัดนี้พวกมันัไร้ประโยชน์
เขาจำเป็ต้องมีุนไพรวิญญาณ หินวิญญาณ และสถานที่อันเป็แหล่งรวมพลังวิญญาณ!
ทว่าใมหาอาณาจักรโจวพวกมันล้วนเป็ของหายากยิ่ง
‘ยังเหลือหินวิญญาณา่าสามสิบก้อน แต่ถ้าหากไม่มีุนไพรวิญญาณมาเสริม คงต้องใช้ใการฝึกวันละห้าก้อน…’
‘ใเมื่อไม่มีทางเลือก บางทีอาจต้องออกจากเมืองก่าหลิง’ ซูอี้ครุ่นคิดขณะฝึกตน
อาณาจักรโจวั้มีอาณาเขต้าใญ่ ประกอบด้วย ‘แคว้นและสามสิบเขตปก’ ใปก
แต่ละแคว้นมีเขตปก แต่ละเขตปกมีหลายเมือง
ยกตัวอย่างเช่นเขตปกอวิ๋นเหอ เป็เขตปกของหนึ่งใแคว้นซึ่งมีเมืองอยู่ใการปกั้หมดสิบเก้าเมือง
เมืองก่าหลิงเป็หนึ่งใเมืองเหล่าั้เช่นกัน
ใแผนที่ของอาณาจักรโจว เมืองก่าหลิงอาจเรียกได้ว่าเป็เมืองที่ห่างไกลใพื้นที่ไกลปืนเที่ยง
เมื่อหลายปีก่อนซูอี้เลือกมาฝึกตนที่ำัดาบชิงเหอใเขตปกอวิ๋นเหอเนื่องจากตั้งอยู่ใพื้นที่ห่างไกล อยู่คนละฟากกับเมืองหลวงอวี้จิง
เช่นนี้จึงจะเป็อิสระจากอิทธิพลของตระกูลซูใเมืองหลวงอวี้จิงได้
ทว่าคาดไม่ึว่าเมื่อเขาสูญเสียการบ่มเพาะ อำนาจของตระกูลซูใเมืองหลวงอวี้จิงัตามตัวเขาพบใเวลาไม่า!
ดังั้หลังจากความทรงจำของชาติก่อนฟื้นคืน ซูอี้จึงตัดสินใแน่วแน่
จน่าจะฝึกตนึระดับจุดสูงุใขอบเขตโคจรโลหิต เขาไม่คิดจะเดินทางออกจากเมืองก่าหลิง
ด้วยเงื่อนไขนี้ ต่อให้เมื่อเขาออกจากเมืองไปและเผชิญเรื่องเดืร้อน เขายังมีกำลังต่อกรกับอีกฝ่าย
ทว่าบัดนี้ทุกสิ่งแปรเปลี่ยน
เมืองก่าหลิงเป็เพียงเมืองห่างไกล ทรัพยากรใการฝึกั้ขาดแคลนยิ่งนัก
หากต้องการฝึกตนต่อไป จำเป็ต้องออกเดินทางไปยังพื้นที่ที่อุดมบูรณ์่านี้
อย่างเมืองหลวงของเขตปกอวิ๋นเหอ
ไม่เช่นั้สถานการณ์คงไม่ต่างใช้แม่ครัวฝีมืีหุงข้าวโดยขาด้ำ
“ยังไม่ต้องเร่งเดินทางนัก ึอย่างไรก็ควรไปเดินเล่นที่เทือกเขาเมฆาครามก่อนจากไปเสียหน่อย”
ซูอี้ยังไม่ลืมว่ามีซากศพหิบูรณ์อยู่ที่สันเขามารดาภูตผี ้ั้หญ้าหิและดอกไม้แสงตะวัน
เป็ไปได้ว่าอาจมีชิ้นส่วนวิญญาณผีหิถูกฝังอยู่อีก!
พ
“เอาล่ะ ร่ำลือกันว่าสันเขามารดาภูตผีมีวิญญาณสิงสถิตมาแต่ครั้งบรรพกาล พาชิงหว่านไปเดินเล่นก็ไม่เสียหาย”
ซูอี้นึกึชิงหว่านใ้ำเต้ารักษาวิญญาณ เลิกคิ้วขึ้นเ็น้อยไม่ได้
แม้ว่าซากศพหิบูรณ์หรือหญ้าหิ จะไม่มีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะของเขาในี้
ทว่าสำหรับผีหิอย่างนาง นับเป็ยาบำรุงชั้นดี!
สามวันต่อมา
‘าปะประูมังกร’ ที่ผู้คนตั้งตารอจะจัดขึ้นใคืนนี้
ซูอี้มาึตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด ก่อนหน้านี้เขาไปป่าหม่อน บริเวณริม้ำต้าฉางมา
สำหรับเขา งานวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากปกตินัก
[1] ชิว คือมังกรใตำาของจีนที่มีเขาอยู่บนศีรษะ