เผยแพร่ภาพผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา

เพจกฎหมายสายย่อเผย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ 27 พ.ค.63 เตือนเผยแพร่ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ รูปภาพหน้าคนอื่นต่อสาธารณะ ต้องได้รับนุญาตก่อน ฝ่าฝืนจำคุก 1 ปี ปรับ 3 ล้านบาทจ่ายค่าเสียหาย 2 เท่า

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.เฟซบุ๊ก กฎหมายสายย่อ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตั้งแต่ 27 พ.ค.2563  เผยแพร่รูปภาพหน้าคนอื่นต่อสาธารณะ ต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น ที่มา พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีเนื้อหาเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้อื่นจะไม่สามารถเก็บ ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนได้ โดยกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 พ.ค. 2563

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อนเก็บ ใช้ และเผยแพร่ ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ และข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมโยงระบุตัวเจ้าของข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา (มนุษย์) ได้ และรวมถึงภาพถ่ายบุคคลที่เห็นหน้าชัดเจนด้วยหากผู้ใดนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่โดยเจ้าของข้อมูลไม่อนุญาต เจ้าของข้อมูลมีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีได้ โดยมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ดังนั้น จากเนื้อหากฎหมายข้างต้น การโพสต์ภาพลง Social Media เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจต่างๆ จึงรวมอยู่ในความหมายที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายนี้ด้วย หากภาพดังกล่าวเห็นหน้าบุคคลอย่างชัดเจนก่อนนำไปใช้ต้องได้การอนุญาตจากเจ้าของใบหน้านั้นก่อน

การฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้มีทั้งโทษจำคุก  ปรับ และจ่ายค่าเสียหาย โดยโทษสูงสุดคือ จำคุก 1 ปี  ปรับ 3 ล้านบาท และจ่ายค่าเสียหาย 2เท่า

การป้องกัน หากเป็นงาน Event หรือสัมมนาต่างๆ ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และไม่สามารถขออนุญาตรายบุคคลได้สะดวก อาจมีการตั้งป้ายแจ้งผู้เข้าร่วมงาน และแจ้งขออนุญาตถ่ายภาพและเผยแพร่ภาพภายในงาน ณ จุดลงทะเบียน โดยให้ผู้ร่วมงานลงชื่อในเอกสารลงทะเบียนนั้นก็สามารถป้องกันการกระทำอันจะเป็นการละเมิดสิทธิตามกฎหมายได้

ขอบคุณเฟซบุ๊ก กฎหมายสายย่อ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

การระบาดของโรคโควิด-19 จำเป็นต้องนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ไปกักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามที่ตั้งขึ้น สำหรับรองรับผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมาก
.
เมื่อมีคนจำนวนมาก อาจมีบุคคลบางส่วนกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่าง "แอบถ่ายภาพ"
.
กองปราบปราม ได้แจ้งว่าการแอบถ่ายและเผยแพร่ภาพผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามอาจเข้าข่ายมีความผิด ดังนี้
.
ตามกฎหมายอาญามาตรา 397 หากเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
.
หรืออาจเข้าข่ายมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
.
ทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ก็ได้ให้สิทธิผู้ถูกแอบถ่ายสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ตามกฎหมาย
.
กรณีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ ไม่เกิน 200,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16
.
แม้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นผู้ได้รับความเสียหาย จะยังรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม ก็สามารถให้ที่ผู้ได้รับมอบอำนาจ ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวนได้เลย

#ไทยคู่ฟ้า #รวมไทยสร้างชาติ #ร่วมต้านโควิด19

-------------------

          พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 การคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ และสิทธิของนักแสดง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เพื่อคุ้มครองผู้สร้างสรรค์ผลงานทุกประเภทที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้สื่อที่เปลี่ยนแปลงไปของทั้งผู้สร้างสรรค์ผลงาน และผู้แสวงหาผลประโยชน์จากงานนั้น ซึ่งในพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์เดิมไม่ได้ระบุโทษชัดเจนสำหรับพฤติกรรมความผิดการละเมิดทางอินเทอร์เน็ต แต่ในพระราชบัญญัตินี้กำหนดโทษไว้อย่างชัดเจน

          จะเห็นได้ว่าการนำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของรูปภาพจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ซึ่งการที่ผู้ใช้งานสื่อโซเชียลต่างๆนำภาพหรือวิดีโอที่ได้จากการค้นหาใน Google หรือ บริการเว็บไซต์ค้นหาอื่นๆ หรือนำรูปบุคคลมาตัดชื่อเครดิตออก เพื่อแอบอ้างว่าเป็นผลงานของตนเองหรือนำภาพหรือคลิปวิดีโอไปใช้ในทางการค้า เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถฟ้องร้องผู้แอบอ้างได้ โดยหากผู้ใช้โซเชียลที่เป็นบุคคลธรรมดานำภาพไปโพสต์ต่อโดยยังให้เครดิตเจ้าของภาพอยู่ถือว่าไม่มีความผิด แต่หากเป็นนิติบุคคล อาจจะมีความผิดข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ จึงควรขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนจะนำภาพไปใช้

          อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดให้ผู้กระทำผิดมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท และหากเป็นการกระทำเพื่อการค้า จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบสิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์หรือศาลอาจสั่งให้ทำลาย โดยผู้ละเมิดต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการทำลาย

             ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 15 ภายใต้บังคับมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 14 เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียว ดังต่อไปนี้

             (1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง

             (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

             (3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์และสิ่งบันทึกเสียง

             (4) ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น

             (5) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ได้แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้ การพิจารณาว่าเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง (5) จะเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

             มาตรา 27 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
             (1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง

             (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

             มาตรา 28 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียง อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ทั้งนี้ ไม่ว่าในส่วนที่เป็นเสียงและหรือภาพ ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้

             (1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง

             (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

             (3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าว

             มาตรา 29 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานแพร่เสียงแพร่ภาพอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำ ดังต่อไปนี้

             (1) จัดทำโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

             (2) แพร่เสียงแพร่ภาพซ้ำ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

             (3) จัดให้ประชาชนฟังและหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า

             มาตรา 30 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โปรแกรมคอมพิวเตอร์อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำ ดังต่อไปนี้

             (1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง

             (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

             (3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าว

             มาตรา 31 ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้

             (1) ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือเสนอให้เช่าซื้อ

             (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

             (3) แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์

             (4) นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร

             มาตรา 69 ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตามมาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

             ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5756/2551

                โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานที่นำภาพการ์ตูนโดราเอมอนมาดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ใช้ประยุกต์กับวัสดุสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและนำมาใช้ในทางการค้าลักษณะงานตามฟ้องจึงเข้าลักษณะเป็นงานศิลป์ประยุกต์ กล่าวคือ เป็นงานที่นำเอางานภาพการ์ตูนไปใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าว โดยนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าตามนิยามคำว่า "งานศิลป์ประยุกต์" ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งตามมาตรา 22 บัญญัติไว้ว่า ลิขสิทธิ์ในงานศิลป์ประยุกต์ให้มีอายุยี่สิบห้าปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก งานของผู้เสียหายมีการโฆษณางานเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 งานดังกล่าวจึงมีอายุการคุ้มครองอยู่ถึงเพียงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ขณะเกิดเหตุในคดีนี้ งานที่นำภาพตัวการ์ตูนโดราเอมอนมาดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ใช้ประยุกต์กับวัสดุสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและนำมาใช้ประโยชน์ทางการค้าตามฟ้องจึงไม่มีลิขสิทธิ์อีกต่อไป

              หากคุณต้องการทำเรื่องฟ้องต่อศาลหรือให้สำนักงานร่างคำร้องทุกข์เพื่อยื่นต่อสถานีตำรวจสามารถติดต่อสำนักงานทนายนิธิพล ทางช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้ได้เลยครับ ทางสำนักงานยินดีและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและดูแลคดีของคุณ

ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

รับว่าความทุกคดี ทั่วราชอาณาจักรไทย

Facebook Fan Page :: ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

เปิดทำการ :: วันจันทร์ – วันเสาร์

เวลาทำการ :: 09:00 - 18:00 น.

เบอร์ติดต่อ (โทรเวลาทำการ) :: 095-453-4145

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก