มา ส ด้า แฟ มิ ลี่ น้ำหนัก

กระบะน้อย คือนายแบบสุดเซอร์ของเราในคอลัมน์ตอนนี้ 

        คอลัมน์ RacingMagazine ตอนนี้มาดูกระบะเรโทรรุ่นดังในอดีต รถที่มีวิ่งแทบทุกหัวถนนทั่วไทยกับเจ้า Mazda 1000 รถกระบะขนาดเล็กจากยุค 60 ที่หลายคนอาจจะเกิดไม่ทัน แต่ก็ยังลากขายมาจนถึงยุค 90 ด้วยชื่อ Mazda Familia คราวนี้หลายคนคงอ๋อกันแล้ว ว่ามันคือรถขนของขนาดเล็กกะทัดรัด ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจแต่งกัน เพราะใช้งานจนเยินเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับเจ้าของรถคันนี้คุณ สรภพ อยู่กรุง นอกจากจะเป็นรถใช้งานจนเกิดความรักรถตัวเองแล้ว ยังได้ผสมไอเดียดีๆเข้าไป ให้มีการแต่งเติมออกมาเป็นแนวทางของตัวเองไม่ซ้ำใคร คันนี้จะแต่งสไตล์อย่างไรนั้น เพื่อนๆไปดูรายละเอียดกันเลยดีว่าครับ

รุ่นปี 1979 ตัวถังหัวเดี่ยวช่วงสั้น 4 ตะขอ

จากรถขนของ คุณสรภพจัดทรงจนซิ่ง

          Mazda 1000 เปิดตัวครั้งแรกปลายยุค 60 เริ่มทำตลาดด้วยตัวถังกระบะ อยู่พื้นฐานรถซีดานบ้านๆตระกูล Familia เจนเนอร์เรชั่นที่สอง ซึ่งมีการตลาดคู่กับตัวถังซีดานมาได้แปบเดียว ทางมาสด้าก็หันไปนำรุ่น 808 มาลงตลาดซีดานขายแทนที่ ปล่อยให้กระบะมาสด้าน้อยของเราผลิตแบบประกอบในประเทศ ขายโดยสุโกศลตั้งแต่กลางยุค 70 เป็นต้นมา ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,000 สมชื่อ โดยรถคันนี้เป็นรุ่นปี 1979 ตัวถังกระบะช่วงสั้น 4 ตะขอ หลังจากที่โลดแล่นผ่านการครอบครองมาแล้ว 2 คน ก็ได้ถูกประกาศขายต่อ จนไปเข้าตากับเจ้าของรถคนนี้เป็นมือที่ 3 ที่กำลังหารถไว้ใช้ขนของพอดี เลยซื้อมาในสภาพเดิมๆบ้านๆเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากนั้นก็เริ่มมีการแต่งเติมไปเรื่อยๆ กว่าจะมาเป็นแบบในรูปนี้ ต้องใส่ฝืมือมีดหมอมามากมาย

เดิมเป็นสีน้ำเงิน เปลี่ยนไปหลายสีจนมาเป็นเปลือยสีโชว์ผิวตัวถัง

 ให้อารมณ์ดิบๆ เหมือนกับสไตล์ Patina ที่เน้นสีสันจากสนิม

         ภายนอกของ Mazda 1000 กระบะน้อย แรกเริ่มตอนที่ซื้อมาเป็นสีน้ำเงินสดจากโรงงาน ต่อมาก็ได้สาดสีเป็นชมพูสด ซึ่งในตอนนั้นเองที่กระบะคันนี้ได้รับใช้งานธุรกิจป้ายโฆษณา โดยนอกจากถูกใช้ขนของในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีหน้าที่เป็นแมวกวัก(หรือจะเรียกว่ารถกวักดี) เป็นมาสคอทเรียกลูกค้า เวลาใครมาร้านไม่ถูก ก็แค่บอกว่าให้สังเกตุรถกระบะสีชมพูก็ทำให้คนจดจำได้ง่าย วันเวลาผ่านไปเริ่มชักเบื่อ เจ้ากระบะน้อยจึงถูกพ่นเป็นสีเหลือง ต่อมาก็ได้คิดแต่งสีใหม่ ขูดสีตัวถังและรองพื้นเดิมออกหมด ขัดจนเห็นเนื้อเหล็กสีเงินเงา ปล่อยให้เป็นสนิมจับผิวเล็กน้อยสไตล์ Rat Look จากนั้นก็แหวกแนวด้วยการทาน้ำยาหยุดสนิมและพ่นแลคเกอร์ทับ ให้อารมณ์ดิบๆ เหมือนกับสไตล์ Patina ที่เน้นสีสันจากสนิมโลหะ โดยเคลือบเงาเอาไว้เพื่อคงสนิมไม่ให้กัดกร่อนไปมากกว่านี้

ถอดกันชนแบบรถซิ่งยุค 80 ใส่ลิ้นหน้าโดยพลเรโทร

โป่งเย็บงานสั่งตัด ทำโดยพลเรโทร

         นอกจากสีตัวถังสุดดิบแล้ว ยังเพิ่มความเซอร์ด้วยการถอดกันชนออก เพิ่มลิ้นหน้าขนาดใหญ่ ทำกระจังหน้าเป็นสีดำด้าน ที่ซุ้มล้อใส่คิ้วโค้งตามขอบล้อแบบโป่งเย็บ ที่เป็นงานสั่งตัดโดยพลเรโทร ตามด้วยสปอยเลอร์หลังทรงสูง ที่ยึดขากับฝาท้าย และยังคงความคลาสสิคด้วยไฟท้ายรูปไข่ทรงเดิม ล้อด้วยกรอบโครเมียมเงาเดิมๆ ที่น่าจะเป็นชิ้นส่วนตัวถังเดียวที่เงางาม ตัดอารมณ์แก้เลี่ยนความดิบอย่างกลมกล่อม

เบาะ RX-7 คือสิ่งที่ซิ่งทีสุดในห้องโดยสาร ขอบบนมีกระจกมองหลังแบบยาวจัด

 ใส่พวงมาลัยซิ่ง กับคอนโซลลายคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มความโหดดิบ

         ภายในเด่นสุดที่เบาะใหม่ ทรงบั๊กเก็ตซีทของ RX-7 และอีกจุดเด่นคือ กระจกมองหลังแบบยาวตั้งแต่ซ้ายจรดขวาของขอบหลังคา ซึ่งเป็นของแต่งที่เคยฮิตมากในยุค 90 ส่วนเรื่องแอร์เย็นเพลงเพราะไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มี ใช้พัดลมไฟฟ้าช่วยให้คลายร้อนก็พอ มีการปูพรมพื้นเพื่อกันความร้อนอยู่บ้าง และยังมีคอนโซลทรงเดิม ที่ไปหุ้มลายคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้าน เสริมความโหดให้กับรถได้อย่างดี

วางเครื่องใหม่ บล็อคเรโทรกับ A15 ในดัทสันซันนี่

คาร์บู KR ลูกเร่งเหลี่ยม กับลิ้นเร่งแยก ของแต่งในตำนาน 

         เครื่องยนต์ของ Mazda 1000 คันนี้ไม่ธรรมดา เพราะใส่บล็อคเรโทร A15 จากดัทสัน ซันนี่ ที่ใส่คาร์บู KR ลูกเร่งเหลี่ยม หรือที่เรียกว่าคาร์บูเคเหลี่ยม ของหายากในตำนานจากยี่ห้อ n-pro ใส่แยกอิสระทั้ง 4 ตัวที่มีปากแตรเข้าสู่ลิ้นเร่งโดยตรง ให้อัตราเร่งจัดจ้านขึ้น จากนั้นใส่หม้อน้ำโดย Monster เป็นแบบอะลูมิเนียม เช่นเดียวกับหม้อพักน้ำจาก Maker ที่ใช้วัสดุเดียวกัน ส่วนไดชาร์จชุบโครเมียมเงา ตัดอารมณ์ความดิบของห้องเครื่องได้อย่างสวยงาม ส่วนท่อไอเสียจัดทางเดินใหม่ให้ออกตรงกลางกระบะเหนือเพลาหลัง ดัดแปลงทรงปลายบานออก ช่วยสร้างกำลังได้ทั้งหมด 150 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมากบนน้ำหนักตัวถังไม่ถึง 1 ตันนี้

ล้อแม็กซ์ RE30 ยังมีความทันสมัยผสมด้วย

โหลดเตี้ยตัดแหนบจนต้องตัดกระบะเพื่อให้ไม่ติดซุ้ม 

         ช่วงล่างคืออีกหนึ่งความเด่นสุดของคันนี้ เพราะจัดฟิตเม้นท์มาดีมาก ด้วยการโหลดเตี้ยจากการตัดแชสซีส์และตัดแหนบ เปลี่ยนจุดยึดโช้คอัพและจุดยึดปีกนกหน้าใหม่ ใส่สปริงโหลดเปลี่ยนโช้คใหม่ด้วย พอโหลดแล้วก็ต้องใส่ล้อใหญ่ตามสเต็ปรถแต่ง ด้วยการใช้แม็กซ์ของ RE30 ขอบ 18 หน้า 9 หลัง 10 ที่ใส่แล้วติดซุ้มจนต้องตัดแผ่นกระบะออกไปอีก จนทำให้กระบะเดิมๆใช้ขนของไม่ได้แล้ว แต่ว่า..แล้วไงใครแคร์ ในเมื่อรถมันออกมาสวยดี และยังขับใช้งานได้อยู่

ความโหดดิบ และเซอร์ติสท์ ผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว 

          ความเซอร์ของกระบะคันนี้ไม่มีใครทำตามได้จริงๆ เพราะเกิดจากการผสมไอเดียจากคุณสรภพล้วนๆ สร้างจากรถกระบะบ้านๆ ให้โดดเด่นจนไม่เหมือนใคร นับเป็นความหายากที่ต้องกลั่นจากประสบการณ์และความชอบเท่านั้น กว่าจะโหดดิบถึงขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณที่นำรถสวยๆ มาออกสื่อให้ได้ชมกัน และตอนต่อไปก็ยังพบกันอีกกับคอลัมน์รถแต่ง RacingMagazine นี้ สวัสดีครับ

Tech Spec

ภายนอก

  • สีสนิม
  • ลิ้นหน้า - พลเรโทร
  • โป่งเย็บ - พลเรโทร
  • สปอยเลอร์
  • ภายใน
  • คอนโซลหุ้มลายคาร์บอนไฟเบอร์

ภายใน

  • เบาะ RX-7
  • กระจกมองหลังแบบยาว

เครื่องยนต์

  • ดัทสัน A15
  • คาร์บู KR ลิ้นเร่งเหลี่ยม
  • หม้อน้ำอะลูมิเนียม Monster
  • หม้อพักน้ำ Maker
  • ไดชาร์จชุบเงา

ช่วงล่าง

  • ตัดแชสซีส์
  • ตัดแหนบ
  • เปลี่ยนจุดยึดปีกนก
  • เปลี่ยนโช้คและสปริง
  • ล้อแม็กซ์ RE30 ขอบ 18 นิ้ว หน้า 9 หลัง 10 นิ้ว

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก