ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุค พากย์ไทย สนุกๆ

10 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค..คุ้มค่ากับการดู

     เชื่อว่าตอนนี้คอซีรีย์เกาหลีคงจะหาเรื่องดีๆ เรื่องเด็ดๆ ดูกันบ่อยขึ้น เพราะต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ และแน่นอนว่า ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค หรือแนว พีเรียด คงเป็นที่ถูกใจใครหลายๆ คน วันนี้เราเลยรวบรวมเอา  10 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค..คุ้มค่ากับการดู มาฝากกัน มาดูกันซิว่าจะถูกใจสายเกามากน้อยแค่ไหน

1. Bossam: Steal the Fate

     Bossam: Steal the Fate  ถือว่าเป็นซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่แกะกล่องที่ออกฉายเดือน พฤษภาคม 2021 ซึ่งนำแสดงโดย “จองอิลอู” และ “ยูริ” Girls’ Generation โดยออกอากาศทางช่อง MBN ของเกาหลี แต่หลังจากที่มีภาพตัวอย่างของซีรีย์เรื่องนี้ออกมา คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นสาวหน้าหวาน “ยูริ” ที่ต้องมารับบทย้อนยุค กับบทสาวในยุคโชซอน ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์สวยเซ็กซี่ เท่ๆ จนหลายคนชื่นชอบกับลุคนี้ของเธอเป็นอย่างมาก

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อ “บาอู” (จองอิลอู) ผู้หาเลี้ยงชีพด้วยการทำ Bossam (ลักพาตัวแม่หม้ายไปหาสามีใหม่) ที่ถือเป็นประเพณีในสมัยโชซอน ที่บันฑิตคนหนึ่งที่พลาดการแต่งงานแอบห่อตัวแม่ม่ายในผ้าห่มในตอนกลางคืนและทำให้เธอเป็นภรรยา

     โดย “บาอู” ใช้ชีวิตอยู่โดยปิดบังตัวตนที่แท้จริงเพราะกลัวถูกจับได้ หลังจากนั้นมีเหตุการณ์หนึ่งที่เขาลักพาตัวแม่หม้ายผิดคน คือ “องค์หญิงซูคยอง” (ควอนยูริ) โดยทีแรกทั้งคู่ไม่ค่อยถูกชะตากันสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพอๆ กับที่คนทั้งคู่ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมา

ปีที่ฉาย : 2021

แนวเรื่อง : ประวัติศาสตร์, โรแมนติก, ดราม่า

จำนวนตอน : 16 ตอน 

ฉายที่ : ช่อง MBN ประเทศเกาหลี

ดูได้ที่ลิงค์ : //www.youtube.com/watch?v=azDLdQ6uvDo&t=1s

2. River Where the Moon Rises

     River Where the Moon Rises โดยความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่ สร้างจากนวนิยายเรื่อง Princess Pyeonggang ในปี 2010 นี่ยังไม่รวมถึงโปรดักชั่นที่อลังการ ภาพสวยจนคนดูละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว และยิ่งได้หนุ่มนัยตายิ้มอย่าง “นาอินอู” มารับบทพระเอกเรื่องนี้แล้วยิ่งถูกใจคอซีรีย์เป็นอย่างมาก หลังจากที่หนุ่มคนนนี้แจ้งเกิดมาจากเรื่อง Mr.Queen ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้แฟนๆ มาแล้ว พอมาเรื่องนี้ยิ่งทำให้เป็นที่จับจ้องมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งงานนี้สาวๆ เตรียมดูได้ที่ Viu ได้เลยจ้า!

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราวของ“พยองกัง” (คิมโซฮยอน) องค์หญิงที่มียศถาบรรดาศักดิ์ ที่เติบโตมาด้วยความแข็งแกร่ง และมีความทะเยอทะยาน และมีความมุ่งมั่นที่จะขึ้นปกครองเป็นจักรพรรดินีแห่งอาญาจักรโกคูรยองในอนาคตข้างหน้า จนเธอได้มาพบกับ “อนดัล” (นาอินอู) ชายหนุ่มที่มีชีวิตแบบธรรมดาเรียบง่าย ซึ่ง “พยองกัง” ทำให้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายของเขาได้เปลี่ยนไป ในทางกลับกัน “อนดัล” ก็ทำให้ความรู้สึกของหญิงสาวเปลี่ยนไปเพราะความรักในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

ปีที่ฉาย : 2021

แนวเรื่อง : ประวัติศาสตร์, โรแมนติก, ดราม่า

จำนวนตอน : 20 ตอน

ฉายที่ : Viu

ดูได้ที่ลิงค์ : www.viu.com

3. The King : Monarch of Eternity

     The King : Monarch of Eternity หรือชื่อไทย “จอมราชันบัลลังก์อมตะ” เป็น ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค ฉายเมื่อปี 2020 ที่ได้สามีแห่งชาติอย่าง “อีมินโฮ” มารับบทจักรพรรดิหนุ่มที่ปกครอง 2 โลก เรื่องนี้ทำให้สาวๆ สายเกาติดหนึบในความหล่อของพระเอกเรื่องนี้ พอๆ กับฉากสุดแฟนตาซี ที่นำเสนอคนดูได้อย่างสวยงาม และทำให้อินไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก 

     ยังไม่รวมถึงฝีไม้ลายมือของพระเอก “อีมินโฮ” ที่สื่ออารมณ์ออกมาได้น่าเกรงขามสมกับบทจักรพรรดิของเรื่อง และถึงแม้ว่านางเอกสาว “คิมโกอึน” จะถูกวิจารณ์ว่าความสวยไม่สมกับพระเอกก็ตาม แต่ถ้าวัดกันที่ฝีมือแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ค้านสายตาคนดูเลยทีเดียว ใครที่อยากดูเรื่องนี้ ดูได้ทางแล้ว Netflix

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวของ “อีกน” (อีมินโฮ) กษัตริย์แห่งจักรวรรดิเกาหลี ที่พยายามจะหาทางปิดประตูมิติเชื่อมโลกคู่ขนาน โดยร่วมมือกับ “จองแทอึล” (คิมโกอึน) ตำรวจนักสืบสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ในสาธาราณรัฐเกาหลี เพื่อปกป้องชีวิตของผู้คนจากอันตราย ด้วยน้ำมือของหัวหน้ากบฎ อย่าง “อีริม” (อีจองจิน) ลุงแท้ๆ ของ “อีกน”

ปีที่ฉาย : 2020

แนวเรื่อง : โรแมนติก, แฟนตาซี

จำนวนตอน : 16 ตอน

ฉายที่ : Netflix

ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com

4. My Country: The New Age

     My Country: The New Age หรือชื่อไทย “พลิกชาติท้าปฐพี” เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2019 ที่ได้นักแสดงเลือดใหม่อย่าง “ยางเซจง” และ “อูโดฮวาน” มาปะทะอารมณ์และเชือดเฉือนกันในฉากแอ็คชั่น จนทำให้คนดูรู้สึกประทับใจในการแสดง รวมถึงหนุ่มมาดเข้มอย่าง “จางฮยอก” กับบท “อีบังวอน” ที่ถือว่าเป็นตัวละครสำคัญแห่งหน้าประวัติศาสตร์นี้ไม่น้อย แถมเวลาหนุ่มคนนี้ออกแต่ละฉากนั้น ก็แสดงพลังของการแสดงได้ออกมาอย่างล้นหลาม ชนิดที่ว่าไม่เคยทำให้แฟนๆ สายซีรีย์ผิดหวังแม้แต่น้อย และแม้ว่าเนื้อเรื่องจะหนักหน่วงเพราะมีทั้งดราม่า, แอ็คชั่น, ความรัก, การเมือง แต่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่กลมกล่อมมากๆ

เรื่องย่อ

     เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปลายยุคโครยอต้นโชซอน “ซอฮวี” (ยังเซจง) นักรบผู้กล้าหาญ ลูกชายแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สนับสนุน “อีซองกเย” ในการล้มล้างราชวงศ์โครยอ “ซอฮวี” เป็นคนรักความยุติธรรรม แม้ว่าชีวิตจะต้องอยู่ท่ามกลางความชั่วร้ายแต่เขายังจะมีรอยยิ้มได้เสมอ 

     “นัมซอนโฮ” (อูโดฮวาน) ชายหนุ่มที่เฉลียวฉลาด รูปร่างหน้าตาดีแต่เกิดในครอบครัวต่ำต้อย เป็นบุตรนอกสมรมของขุนนางใหญ่ จึงไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร ซึ่งเขามีเป้าหมายในการสอบเข้ารับราชการทหาร เพื่อหวังว่าการเข้าทำงานในระบบที่เปิดกว้างนี้จะทำให้ได้รับการยอมรับด้วยความสามารถอย่างแท้จริง “ฮันฮีแจ” (ซอลฮยอน) หญิงสาวหัวก้าวหน้าที่ต้องการกวาดล้างความอยุติธรรมในบ้านเมือง ที่เธอทำให้ชายทั้งสองตกหลุมรักไปพร้อมกันท่ามกลางความวุ่นวายของบ้านเมือง 

ปีที่ฉาย : 2019

แนวเรื่อง : ประวัติศาสตร์, โรแมนติก

จำนวนตอน : 16 ตอน

ฉายที่ : Netflix

ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com

5. The Tale Of Nokdu

     The Tale Of Nokdu ถือได้ว่าเป็นซีรีย์แนว พีเรียด ที่เรียกเรตติ้งให้กับช่อง KBS2 ของเกาหลี โดยสร้างมาจากเว็บตูน ของนักเขียน “ฮเนจินยาง” ที่มีเนื้อหา โรแมนติก คอมเมดี้ ย้อนไปในยุคสมัยราชวงศ์โชซอน แม้ที่ผ่านมาเราได้เห้นบทบาทการแสดงของ “จางดงยุน” กับการเล่นซีรีย์วัยรุ่นมาหลายเรื่อง พอมาเรื่องนี้ต้องปลอมตัวเป็นหญิง ก็ทำให้สาวๆ หลงรักเป็นแถวเพราะหน้าหวานโดนใจสุดๆ 

     รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นอย่าง “คิมโซฮยอน” ที่การแสดงนั้นเข้าถึงบทบาท ยิ่งฉากโรแมนติกหวานๆ ที่ต้องเข้ากับ “จางดงยุน” ด้วยแล้ว ทำเอาแฟนซีรีย์อินไปตามๆ กัน

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราวของ “จอนนกดู” (จางดงยุง) ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ กับพ่อและพี่ชาย ที่เกาะที่ห่างไกล  แต่วันหนึ่งมีคนมาทำร้ายพี่ชายและพ่อ ด้วยความที่ต้องการจับคนร้ายเขาจึงไล่ล่าตามจับจนกระทั่งไปเจอกับ หมู่บ้านหญิงหม้าย ที่เป็นดินแดนต้องห้าม ห้ามไม่ให้คนทั่วไปเข้าไปโดยเฉพาะผู้ชาย แต่เพื่อต้องการจับคนร้าย เขาจึงจำเป็นต้องปลอมเป็นหญิงเพื่อเข้าไปให้ได้ 

     และการปลอมตัวครั้งนี้ก็ดูจะเนียน เพราะชาวบ้านต่างเชื่อว่า “จอนนกดู” เป็นผู้หญิงจริงๆ จึงมอบภารกิจสำคัญที่เป็นความลับให้เขา อย่างนี้ต้องมาดูกันว่าความตั้งใจแรกของการตามตัวคนร้ายที่ทำร้ายพ่อและพี่ชายจะสำเร็จหรือไม่ 

ปีที่ฉาย : 2019

แนวเรื่อง : ประวัติศาสตร์, โรแมนติก, คอมเมดี้

จำนวนตอน : 32 ตอน

ฉายที่ : Viu

ดูได้ที่ลิงค์ : www.viu.com

6. The Moon Embracing The Sun

     The Moon Embracing The Sun หรือชื่อไทย “ลิขิตรักตะวันและจันทรา” แม้ว่าซีรีย์เรื่อวนี้จะได้รับกระแสตอยรับได้อย่างท่วมท้นมาแล้วเมื่อปี 2012 และในไทยเองก็เคยนำมาฉายทาง ช่อง 3 ให้แฟนๆ ได้ฟินไปกับการแสดงของพระเอกหน้าหล่ออย่าง “คิมซูฮยอน” และพระรอง “จองอิลอู” ที่ฝากฝีมือการแสดงให้ดูกันแบบสุดประทับใจ เรียกว่าย้อนกลับมาดูอีกกี่ครั้งก็ไม่ถูกใจคอซีรีย์ตลอดกาล

     ซึ่งหลังจากดูซีรีย์เรื่องนี้แล้วนอกจากจะได้ความฟินกับเคมีที่แสน โรแมนติก ของคู่พระนางแล้ว ยังทำให้คนดูต้องเสียน้ำตากับฉากซึ้งๆ ปกเศร้ากับความรักของทั้งคู่อีกไม่น้อย

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราวของ องค์ชายรัชทายาทอีฮวอน ที่ต่อมาได้เป็นพระเจ้าอีฮวอน พระราชาแห่งโซซอน (คิมซูฮยอน ต้องสูญเสียหญิงสาวที่ชื่อ “โฮ ยอน อู” (ฮันกาอิน) ที่เพิ่งได้แต่งตั้งเป็นพระชายาเมื่อครั้งเป็นองค์ชายรัชทายาทเพี่ยงไม่กี่วัน ผู้ถูกใส่ความโดยพระพันปีและจำต้องสูญเสียความทรงจำ 8 ปีต่อมา 

     และแล้วโชคชะตาของทั้งคู่กับนำพาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง ในขณะที่พระเจ้าอีฮวอนปลอมตัวเป็นสามัญชนอยู่ โดยพระองค์ทรงได้พบกับหญิงสาวคนหนี่งซึ่งเป็นธิดาเทพ แต่เธอไม่มีชื่อ พระองค์จึงตั้งชื่อให้ธิดาเทพคนนั้นว่า “วอล” ที่แปลว่าดวงจันทร์ โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเธอคือ “โฮยอนอู” หญิงสาวคนรักที่ตายไปแล้วนั่นเอง 

ปีที่ฉาย : 2012

แนวเรื่อง : โรแมนติก, แฟนตาซี, อิงประวัติศาสตร์

จำนวนตอน : 20 ตอน + 2 ตอนพิเศษ

ฉายที่ : Viu

ดูได้ที่ลิงค์ : www.viu.com

7. Queen for Seven Days

     Queen for Seven Days หรือชื่อไทย “7 วันบัลลังก์ราชินี” ในเรื่องนี้ต้องบอกว่านักแสดงทุกคนต่างมีความโดดเด่นในตัวอย่างมาก เริ่มที่ “พัคมินยอง” สาวคนนี้ทำให้คอซีรีย์ยกให้เป็นนักแสดงคุณภาพคับจอ เพราะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฉากรักหวานๆ หรือแม้แต่ฉากดราม่าน้ำตาท่วมจอ ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยม

     รวมถึงหนุ่ม “ยอนวูจิน” ที่เรียกได้ว่าฝีไม้ลายมือการแสดงพัฒนาแบบก้าวกระโดดได้ดีมาก แต่ถ้าไม่พูดถึงหนุ่มเท่อย่าง “อีดงกอน” คงจะเหมือนขาดอะไรไป เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่น และเป็นการพลิกมารับบทร้ายครั้งแรก ที่ตีบทร้ายแตกกระจุย ต้องบอกว่าถึงร้ายก็รักทีเดียว ใครอยากพิสูจน์ด้วยตัวเองดูกันได้แล้วทาง Viu 

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราว “ชินเชกยอง” (พัคมินยอง) ลูกสาวของขุนนาง แต่ต้องถูกบังคับให้อยู่ในชนบทที่ไร้ซึ่งความเจริญและไม่ใครเข้าถึงนางได้เป็นอันขาด แต่เธอเป็นคนที่ดื้อรั้นจึงปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อที่เดินทางเข้าวัง จนบังเอิญได้พบกับ “องค์ชายจินซอง” (ยอนอูจิน) แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร จนกระทั่งก่อเกิดเป็นความรักขึ้น และทำให้ “ชินเชกยอง” ได้แต่งงานกับ “องค์ชายจินซอง” แต่ได้รับการแต่งตั้งเพียง 7 วันเท่านั้น 

     ขณะเดียวกัน “องค์ชายยอนซัน” (อีดงกอน) ขึ้นครองราชย์ในสมัยโชซอนและได้ถูกรับสั่งจากกษัตริย์องค์ก่อนไว้ว่า เมื่อเวลามาถึงต้องคืนตำแหน่งกษัตริย์ให้กับ “องค์ชายจินซอง” น้องชายต่างมารดา จนเกิดความแค้นฝังใจ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองบัลลังก์ตลอดไป

ปีที่ฉาย : 2017

แนวเรื่อง : อิงประวัติศาสตร์, โรแมนติก

จำนวนตอน : 20 ตอน

ฉายที่ : Viu

ดูได้ที่ลิงค์ : www.viu.com

8. My Sassy Girl

     My Sassy Girl หรือชื่อไทย “องค์หญิงตัวร้ายกับคุณชายเจี๋ยมเจี้ยม” เป็นซีรีย์ที่ยกเอาพลอตเรื่องของภาพยนตร์สุดฮิตชื่อเดียวกันเมื่อปี 2001 มาเป็นโครงเรื่อง แต่แตกต่างกันในเรื่องของเวลา เพราะเรื่องนี้เล่าเรื่องที่เกิดในยุคประวัติศาสตร์ และตีความให้เป็น โรแมนติก, คอมเมดี้ ที่จะดูเป็นโอเวอร์แอ็คติ้งเรียกเสียงหัวเราะจนท้องแข็งได้ตั้งแต่อีพีแรกเลยก็ว่าได้ 

     และยิ่งได้คู่พระนางอย่าง “จูวอน” และ “โอยอนซอ” มาประกบคู่กันแล้ว ขอบอกว่าเคมีการแสดงของทั้งคู่ทำให้แฟนๆ ยกนิ้วให้เลย เพราะได้จิ้นกันแบบไม่หยุดหย่อน และในขณะที่เรื่องราวในภาพยนตร์จะเน้นนำเสนอความสัมพันธ์ของ นายเจี๋ยมเจี้ยม กับ ยัยตัวร้าย แต่ในซีรีย์ครั้งนี้ยังเพิ่มรายละเอียดความเข้มข้น และคาแรคเตอร์ของตัวละครที่แตกต่างไปจากเดิม ชนิดที่ว่าแฟนๆ จะลืมภาพในอดีตและหลงรักซีรีย์นี้ได้แบบไม่ยาก

เรื่องย่อ

     เป็นเรื่องราวของบัณฑิตหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่าง “กยอนอู” (จูวอน) ผู้ที่เพิ่งกลับมาจากเล่าเรียนในประเทศจีนและมุ่งมั่นที่จะเข้ารับราชการในแผ่นดินของเขา จนได้พบกับ “องค์หญิงเฮ มยอง” (โอยอนซอ) ผู้ที่แหวกกฏของการเป็นองค์หญิงโดยสิ้นเชิง และการเจอกันครั้งแรกองค์หญิงก็หมายหัวเขาว่าเป็นโรคจิตบ้ากามไปเสียแล้ว

ปีที่ฉาย : 2017

แนวเรื่อง : โรแมนติก, คอมเมดี้

จำนวนตอน : 32 ตอน

ฉายที่ : Netflix

ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com

9. Moonlight Drawn by Cloud

     Moonlight Drawn by Cloud หรือชื่อไทย “รักเราพระจันทร์เป็นใจ” ถือได้ว่าเป็นซีรี่ย์เกาหลีแนว พีเรียด ที่ทำให้คอซีรีย์จิ้นกับระหว่าง องค์รัชทายาท กับหญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นชายในวัง และถึงแม้ว่าตัวละคร “ฮงราออน” ที่รับบทโดย “คิมยูจ็อง” จะถูกวิจารณ์ถึงความไม่สมจริงในการปลอมตัวเป้นชายไม่เนียน อาจจะเพราะหน้าที่หวานจนไม่อาจเชื่อว่าเป็นชายชาตรีได้

     แต่พอได้มาประกบคู่กับพระเอกหน้าใสอย่าง “พัก โบก็อม” แล้วต้องบอกว่าเอาอยู่เลยทีเดียว เพราะทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ลงตัวที่สุด ยิ่งฉากที่ทั้งคู่ต้องมาสบสายตาหวาน ทั้งๆ ที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นชายก็ตาม ทำเอาแฟนๆ ฟินจิกหมอนได้เหมือนกัน

เรื่องย่อ

     เมื่อ “ฮง ราออน” (คิมยูจ็อง) ต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายและเป็นที่ปรึกษาด้านการเดทให้กับผู้ชายมากมาย วันหนึ่งเธอได้พบกับ “อี ย็อง” (พัก โบก็อม) เจ้าชายฮโยมยอง มกุฎราชกุมารซึ่งเป็นอัจฉริยะที่ได้เป็นรัชทายาทและผู้แทนพระองค์ในวัยเพียงแค่ 18 ปี โดย “ฮง ราออน” ไม่รู้ว่า “อี ย็อง” คือ องค์รัชทายาท และ “อีย็อง” ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง จน “ฮง ราออน” ถูกขายให้เป็นขันทีในวังหลวง ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันในที่สุด

     และเพราะความสนิทสนมของ “ฮง ราออน”กับ “อีย็อง” ในฐานะขันทีและเพื่อน ทำให้มีข่าวลือเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของ “อีย็อง” เมื่อ “ฮง ราออน” รู้ข่าวจึงพยายามตีตัวออกห่างเพื่อปกปิดข่าวลือ เพราะความห่างเลยทำให้ “อีย็อง” หัวเสียเพราะเขาได้ตกหลุมรักเธอแบบไม่รู้ตัวซะแล้ว

ปีที่ฉาย : 2016

แนวเรื่อง : ประวัติศาสตร์, รัก, คอมเมดี้

จำนวนตอน : 18 ตอน

ฉายที่ : Viu

ดูได้ที่ลิงค์ : www.viu.com

10. แดจังกึม

     แดจังกึม หรือชื่อไทย “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ได้ออกอากาศในไทยเมื่อปี 2548 ทาง ช่อง3 และได้นำมาออกอากาศซ้ำใหม่อีกครั้งเมื่อ 2549 และปี 2553 ถือเป็นการออกอากาศซ้ำครั้งที่ 3 ที่ถือว่าเป็นละครเกาหลีเรื่องเดียวในไทยที่ทำสถิติออกอากาศซ้ำมากที่สุด

      และเป็นละครเกาหลีเรื่องเดียวที่ออกอากาศบนทีวีดิจิตอลของไทย แถมยังได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนซีรีย์เกาหลีในไทย จนกระแสอาหารในซีรีย์เรื่องนี้เป็นที่ฮอตฮิตในไทยเป็นอย่างมาก ทั้งยังได้นักแสดงหน้าเด็กตลอดกาล “ลียองเอ” มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทบาท “แดจังกึม” จนรับความนิยมโด่งดังที่สุดคนหนึ่งในช่วงเวลานั้น รวมถึงยังกวาดเรตติ้งอันดับ 1 ตลอดช่วงระยะเวลาที่ออกอากาศในประเทศเกาหลี และอีกหลายประเทศ อาทิ ใต้หวัน ญี่ปุ่น

เรื่องย่อ

     “แดจังกึม” สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของหญิงสาวผู้เป็นตำนานนามว่า “จังกึม” ผู้หญิงคนแรกของเกาหลีที่เป็นแพทย์คอยรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับเชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนัก จนได้รับการยกย่องจากกษัตริย์ให้เป็น “แดจังกึม” ในวัยเด็กแม้เธอจะสูญเสียพ่อ-แม่ แต่ด้วยความฉลาดทำให้เธอสามารถกลานเป็นกุ๊กมือหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากเชื้อพระวงศ์

     แต่ดูเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเมื่อเธอถูกใส่ความและถูกไล่ออกจากพระราชสำนัก แต่เธอก็ได้ศึกษาวิชาการปรุงยาจนชำนาญ จากนั้นจึงกลับเข้าวังหลวงอีกครั้ง จนได้กลายเป็นหมอหญิงที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เกาหลี

ปีที่ฉาย : 2005

แนวเรื่อง : ดราม่า อิงประวัติศาสตร์

จำนวนตอน : 54 ตอน

ฉายที่ : ช่อง 3

ดูได้ที่ลิงค์ : //www.youtube.com/watch?v=fX9fE3t9ISk

10 ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค..คุ้มค่ากับการดู

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก