Jurassic World Dominion จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร
เรื่องย่อ : หนังบอกเล่าหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 4 ปี หลังจากอิสลาร์ นูบลาร์ ถูกทำลาย ตอนนี้ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่และออกล่าไปพร้อมกับมนุษย์ทั่วโลก ความสมดุลอันเปราะบางนี้จะเปลี่ยนโฉมอนาคตและตัดสินว่า มนุษย์จะยังคงเป็นผู้ล่าที่อยู่ลำดับปลายสุดบนดวงดาว และยังคงอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์
คือหลังจากที่ภาคก่อนจบ คือตั้งตารอมาก ว่าหลังจากที่ไดโนเสาร์ หลุดออกมา แล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ แล้วสุดท้ายแล้ว จะลงเอยเช่นไร ยังเคยตั้งกระทู้คาดเดาไว้อยู่เลยตอนนั้น //pantip.com/topic/37768535 ไม่รู้ว่าตอนนี้ ผ่านมาหลายปี ตอนจบมาถึง ใครเดาไว้ถูกบ้าง
ภาคนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ได้เห็นตัวอย่าง และรอคอยมานาน ก็จะได้รู้สักที ว่าที่สุดแล้ว บทสรุปของคนและไดโนเสาร์ จะลงเอยเช่นไร
เพราะภาคก่อนหน้า ทำไว้ดี และสนุก ชอบมากจริงๆ แถมงานภาพก็ดีงามมากๆด้วย
บอกเลยว่า ค่อนข้างเป็นที่น่าผิดหวัง เป็นตอนจบ และบทสรุป ที่ไม่สมการรอคอย และไม่มีอะไรน่าจดจำ หรือทำให้ประทับใจเลย
หนังเกือบ2ชั่วโมงครึ่ง คือนานนะ ซึ่งความจริง มันทำให้กระชับ และสนุกกว่านี้ได้ ไม่น่าจะทำให้ยืดเยื้อ จนหลายๆฉากแอบน่าเบื่อขนาดนี้
บทหนังแปลกๆ ดูจืดไปหน่อย ไม่ค่อยอิน เพลิดเพลิน ลุ้นระทึก และสนุกเหมือนภาคก่อนๆ เหมือนเล่าไปเรื่อย ไม่ค่อยมีแก่นหลักที่น่าโฟกัสเท่าไหร่ หนังโฟกัสเรื่องอื่นมากเกินไป จนไม่คิดว่าเป็นหนังไดโนเสาร์
ไดโนเสาร์ออกน้อยไปหน่อย สำหรับเวลาหนังที่นานขนาดนี้
แล้วเรื่องตั๊กแตน มันเป็นตัวชูโรง และเด่นกว่าไดโนเสาร์อีกนะ คิดว่าเป็นหนังตั๊กแตนซะอีก ใส่มาทำไมเยอะขนาดนี้ น่าจะใช้อย่างอื่นเชื่อมกันมากกว่าใช้ พล็อตแบบนี้ มันดูไม่ค่อยเข้ากันกับหนังไดโนเสาร์เลย น่าจะใช้ไดโนเสาร์เชื่อมเนื้อเรื่อง น่าจะดีกว่านี้เยอะ
แล้วจบแบบ ตัดง่ายๆแบบนี้เลยหรอ มันควรจะดีกว่านี้มั้ย เหมือนหาทางออกของบทไม่เจอ และหาที่ลงง่ายๆ ก็เอามันแบบเดิมๆ ง่ายๆ นี่แหละ ซึ่งมันควรจะจบได้ว้าว และเป็นที่น่าจดขำกว่านี้ แต่จบได้เฉยๆมาก น่าเสียดายสุดๆ
ผกก.คนเดิมด้วยนะ ภาคก่อนๆ คือทำไว้ดีมาก ไม่คิดว่าภาคนี้ จะเปลี่ยนแนวมาแนวนี้ มันควรจะจบได้สวย ขึ้นหิ้ง และน่าประทับใจ สมกับมรารอคอย เพราะภาคก่อนๆ คือทำไว้ดีมาก ภาพโคตรสวย บทดี ตื่นเต้น ว้าว สนุก
แต่ภาคนี้ คืออะไรก่อน ทั้งผกก. และคนเขียนบท มือตกมาก
นักแสดงทุกคนเล่นดี เป็นการรวมตัวกัน ให้แฟนๆได้หายคิดถึง และนึกถึงความหลัง
งานภาพ ถ้าเทียบกับภาคก่อนๆ บอกเลยว่า เฉยๆมาก ธรรมดา ไม่สวย ไม่โดดเด่น ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว้าวเลย
ดนตรีประกอบ ก็ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ธีมหลักก็น่าจะรู้ๆ และคุ้นหูกันดี
แต่ยังดี ที่ฉากตื่นเต้น ลุ้นๆ ก็ยังทำออกมาได้สนุก และมันอยู่
พล็อตSci-Fiแบบเดิมๆ อันแสนเบื่อหน่าย ตัวละครเยอะ จนกินเวลาของไดโนเสาร์ไป และไม่มีความต่อเนื่อง ตัดไปคนที ไดโนเสาร์ที
ซึ่งมันขาดตอนมาก หนังไปเน้นเนื้อเรื่องที่อย่างอื่นมากไป แทนที่จะเน้นไดโนเสาร์ให้เป็นตัวเอก บทหนังคือไม่ค่อยโอเคจริงๆ
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 6.9/10 คะแนน พอ!
ไม่คุ้มค่ากับการรอคอยเอาซะเลย คิดว่าหนังจะทำออกมาปิดฉากได้ดีกว่านี้ แต่ไม่เลย
สำหรับใครที่อยากดูไดโนเสาร์ ฉากตื่นเต้นๆ โดยไม่สนเรื่องอื่นๆ ก็น่าจะพอดูได้อยู่นะ ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เพราะแต่ละคน ความชอบ ความคาดหวัง อาจจะไม่เหมือนกัน
สำหรับใคร ที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะ
เรื่องย่อ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 4 ปีหลังจาก อิสลาร์ นูบลาร์ ถูกทำลาย ตอนนี้ ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่ และออกล่าไปพร้อมกับมนุษย์ทั่วโลก ความสมดุลอันเปราะบางนี้จะเปลี่ยนโฉมอนาคตและตัดสินว่า มนุษย์จะยังคงเป็นผู้ล่าที่อยู่ลำดับปลายสุดบนดวงดาว และยังคงอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Jurassic World นี่คือหนังไดโนเสาร์ฟอร์มยักษ์ที่พยายามจะดึงกลิ่นอายความเป็นแฟรนไชส์ต้นฉบับกลับคืนมา บรรยากาศ อารมณ์หนังธีมทุกอย่างเหมาะมากๆกับคอหนังที่ชอบดูหนังลุ้นๆแอ็คชั่นแบบบีบหัวใจ หนังมีฉากหวาดเสียวให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ได้ดูไดโนเสาร์ไล่ล่าผู้คน ไอเดียหนังทำออกมาได้ดี CGI งานภาพทุกอย่างอลังการ แม้วา่คำวิจารณ์จะสับแหลกว่าไม่ดี แต่แฟนๆหนังจะเต็มอิ่มกับหนังภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องดารารุ่นเก่าที่ได้โคจรมาเจอพระเอกรุ่นนี้ ไปดูเถอะแค่นี้ก็ฟินแล้ว
- สายหนังสัตว์ประหลาด
- สายหนังคลาสสิค
- สายหนังไดโนเสาร์สัตว์ประหลาด
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือหนังฟอร์มยักษ์รับซัมเมอร์ที่หลายๆคนรอคอย หนังแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ระดับตำนานหลังห่างหายไปนานร่วมๆ 4 ปีกลับมาภาคนี้ยังคงอาละวาดสร้างความสนุกให้ผู้ชมอีกครั้ง ทิศทางของหนังออกไป 2 เส้นเรื่องคือเปิดพื้นที่ให้ตัวละครจากยุคเก่า Jurassic Park และ Jurassic World มาบรรจบพบกันสักที แล้วปูพื้นหลังด้วยประเด็นความโลภของคนที่หากินกับไดโนเสาร์ คนที่พยายามหาผลประโยชน์และสร้างความเลวร้ายให้ผู้อื่น หลังเลยกลายเป็นหนังแอ็คชั่นสเกลใหญ่ออกแนวไล่ล่าซะมากกว่า มันทำให้ผู้ชมได้สนุกตื่นเต้นกับฉากที่ไดโนเสาร์ออกมา จะตัวเล็กหรือใหญ่สร้างสีสันสร้างความหวาดเสียวให้ผู้ชมตลอดเวลา ไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธ์ุมารวมตัวกันยิ่งฉากที่คนโดนไดโนเสาร์ไล่ล่าเป็นอะไรที่สนุกบันเทิงมาก บทหนังมีกลิ่นอายความเป็นหนังจารกรรมพอสมควร ถ้าหากใครมาดูฉากแอ็คชั่นมันคุ้มค่ามาก
จริงๆแล้วนอกจากประเด็นที่คนฉกฉวยหาผลประโยชน์จากไดโนเสาร์ คิดว่าตัวเองเหนือกล้ามันกลายเป็นดาบสองคมเหมือนกันหนังเอาตรงนี้มานำเสนอเป็นฉากหลัง แล้วก็ใส่ความเป็นโทนหนังสยองขวัญลงไปไดโนเสาร์กลายเป็นผู้ไล่ล่าทำลายล้างผู้คนแทน การทำซีจีไอในหนังวูบวาบมาก งานภาพแนบเนียนไม่ได้ดู Fake หลอกตาผู้ชม หนังไม่ได้ทำให้ไดโนเสาร์เป็นผู้ร้าย แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เห็นว่านี่คือสิ่งมีชีวิตที่ก็ต้องอยู่รอดในรูปแบบของพวกมัน น่าเสียดายที่บางจุดหนังทิ้งโครงเรื่องเดิมออกไปทำให้บรรยากาศเหมือนเน้นที่ไดโนเสาร์เป็นผู้ล่าคนและการนำดาราเก่ากลับมาสู่แฟรนไชส์อีกครั้ง ทำให้หนังในช่วงแรกที่ใส่หนักใส่เต็มในสไตล์หนังแอ็คชั่น พอมาครึ่งเรื่องหลังดูผ่อนคลายไปหน่อย โชคดีที่มี Easter Eggs เก่าๆและเพลงสกอร์มาเติมเต็มให้หนังไม่ได้น่าเบื่อ
ส่วนในพาร์ทของนักแสดงนำ ต้องพูดในกลุ่มของ Chris Pratt ในฐานะครูฝึกไดโนเสาร์ที่ภาคนี้เปลี่ยนบทบาท กลายเป็นคนที่ต่อสู้หนักกว่าใครๆ ทั้งการช่วยชีวิตทั้งคนทั้งไดโนเสาร์ หรือการหนีตายจากการถูกไล่ล่า ฉากแอ็คชั่นปรุงแต่งมาให้เหมาะกับพ่อหนุ่มคนนี้มาก มันเลยได้ใจแฟนๆกลุ่มสาวๆไปเค็มๆ, Bryce Dallas Howard ภาคนี้ไม่สวยแล้ว แต่งตัวออกแนวลุยๆแทน มีบทบาทเยอะไม่แพ้พ่อหนุ่ม Chris พอนางปล่อยผมนางน่ารักมากๆเลยแก ส่วน DeWanda Wise กลายเป็นดาราสาวที่มาขโมยซีนช่วยเหลือพระเอกนางเอกไว้ได้เยอะมาก เธอมีบทบาทที่น่าจดจำเป็นสาวห้าวๆลุยๆ เมื่อขึ้นจอใหญ่บทบาทน่าจดจำมากๆ ในขณะที่ดารายุคบุกเบิกแฟรนไชส์ที่กลับมาผจญภัยอีกครั้งSam Neill , Laura Dern และ Jeff Goldblum แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเกือบ 30 ปี แต่ทั้งหมด ก็ต่อบทแสดงกันได้แบบไม่มีปัญหา ผู้ชมรุ่นเก่าๆเห็นหน้าพวกเขาได้ยินสกอร์ประกอบจะทำให้นึกว่าภาพจำเก่าๆ การนำพวกเขากลับมาถือว่ามอบความสุขให้ผู้ชมได้มหาศาล