พื้นที่ใดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ o-net 60

#เฉลยข้อสอบโอเน็ตวิทยาศาสตร์ #ข้อสอบโอเน็ต #แชร์บอกเพื่อนวนไป 📌การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ มี 2 ประเภท คือ...

Posted by เฉลยข้อสอบ O-Net ชีววิทยา เตรียมสอบครูผู้ช่วย - ชีววิทยา on Tuesday, January 29, 2019

Oct 17, 2022 บาทเปิดอ่อนค่า! เงินบาทเปิดตลาดที่ 38.28 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ารับตลาดปิดรับความเสี่ยง-หวั่นเศรษฐกิจโลกถดถอย มีโอกาสผันผวน
.
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดภาวะตลาดเงินว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 38.28 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 38.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ระดับปิด ณ วันที่ 12 ตุลาคม โดยมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 37.80-38.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
.
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 38.20-38.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยผู้เล่นในตลาดกลัวการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนักและเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยกดดันให้ตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง
.
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทอาจผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 38.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินที่ยังหนุนเงินเหรียญสหรัฐ อนึ่งควรจับตาทิศทางราคาทองคำ หากราคาทองคำย่อตัวลง โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวอาจกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าได้ ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังมีทิศทางไหลออกสุทธิ โดยเฉพาะในฝั่งตลาดบอนด์ หากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐ พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 4.00% ชัดเจน
.
ด้านเงินเหรียญสหรัฐ โดยตลาการเงินอยู่ภาวะปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ผลประกอบการที่แย่ลงและอาจรวมถึงความผิดหวังผลการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน หากสุดท้ายไม่มีการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ เงินเหรียญสหรัฐยังมีโมเมนตัมฝั่งแข็งค่า ทั้งนี้ คาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ ระยะสั้นและระยะปานกลาง โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวสูงขึ้นในเดือนตุลาคม ส่งผลให้ตลาดกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ตลาดมองว่ามีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยแตะระดับ 5.00% ในต้นปีหน้า
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
//bit.ly/3TrYQMR
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: //m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: //m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: //mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: //btimes.biz
พ็อดคาสท์: //btimes.podbean.com/
.
#เงินบาท #บาทอ่อนค่า #ดอลลาร์สหรัฐ #เงินดอลลาร์ #อัตราแลกเปลี่ยน #กรุงไทย #BTimes

 

Oct 17, 2022 มีความหวังทุกงวด!กองสลากฯ อัดเพิ่ม”สลากดิจิทัล" อีก 1 ล้านใบ งวดวันที่ 1 พ.ย.65 เป็น 14.96 ล้านใบ พร้อมเปิดขายแล้ววันนี้
.
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากดิจิทัล ที่จำหน่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2565 จำนวนสลากทั้งหมด 13,964,500 ใบ จำหน่ายใบสุดท้ายขายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 14:21:12 น. รวมเวลา 11 วัน 9 ชั่วโมง จำนวนผู้ซื้อ 1,737,273 ราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการใช้ระยะเวลาจำหน่ายประมาณ 1-2 สัปดาห์
.
สำหรับการจำหน่าย "สลากดิจิทัล" ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" ในงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ทางกองสลาก ได้เพิ่มจำนวนขายอีก 1 ล้านใบ รวมเป็นการจำหน่ายสลากในระบบประมาณ 14.96 ล้านใบ โดยเริ่มจำหน่วยในวันที่ 17 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
.
สำหรับผู้ถูกรางวัล "สลากดิจิทัล" งวดประจำวันที่ 16 ต.ค. 65 ระบบจะทำการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ เป๋าตัง ข้อความว่า ยินดีด้วย คุณถูกรางวัลงวดวันที่ / เดือน / ปี ดูรายละเอียดได้ที่บริการ "สลากกินแบ่งรัฐบาล" ในแอปฯเป๋าตัง ซึ่งการขึ้นเงินรางวัลทำได้ทั้งการเดินทางไปรับด้วยตัวเอง หรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร
.
โดยสามารถขึ้นเงินได้ 2 วิธี ดังนี้
* 1.รับโอนเข้าบัญชีกรุงไทย
* 2.ขึ้นด้วยตนเองที่สำนักงานสลากฯ
.
ยกเว้นผู้โชคดี ถูก สลากดิจิทัล รางวัลที่ 1 ต้องไปขึ้นรางวัลที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ กองสลากฯ
ขั้นตอนการขึ้นเงินรางวัล สลากดิจิทัล ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย มีดังนี้..
* เลือก บัญชีกรุงไทย รับเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติ
* กรอกที่อยู่ตามบัตรประชาชน
* ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการขึ้นเงินรางวัล
* ใส่รหัส PIN 6 หลัก
* ทำรายการสำเร็จ
.
ขั้นตอนการขึ้นเงินรางวัล สลากกิจิทัล ด้วยตัวเองที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ กองสลากฯ มีดังนี้
* เลือก ขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเอง
* เลือกวันที่จะทำการขึ้นรางวัล
* ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการขึ้นเงินรางวัล
* ใส่รหัส PIN 6 หลัก
* ทำรายการสำเร็จ
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
//bit.ly/3s2R5Bw
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: //m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: //m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: //mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: //btimes.biz
พ็อดคาสท์: //btimes.podbean.com/
.
#สลากดิจิทัล #ลอตเตอรี่ #หวยออนไลน์ #หวย #เป๋าตัง #BTimes

 

กรมควบคุมโรค เผยตรวจพบ "ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร รายที่ 11" เป็นชาวไทย เดินทางกลับมาจากกาตาร์

วันนี้ 17 ตุลาคม 2565 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับรายงานพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายใหม่ เป็นชายชาวไทย อายุ 40 ปี ไปประกอบอาชีพให้บริการนวดที่ประเทศกาตาร์

โดยเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565 ด้วยอาการไข้ และมีผื่นที่บริเวณสะโพกมือแขน มีอาการป่วยตั้งแต่ก่อนเดินทางกลับไทย และในวันที่ 15 ตุลาคม 2565 เดินทางมาถึงประเทศไทย ได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจังหวัดปทุมธานี แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นเข้าข่ายผู้ป่วยฝีดาษวานร จึงประสานส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนาดูร ผลทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อไวรัสฝีดาษวานร ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 11 ของไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม

นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า สถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค. 65) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรยืนยัน จำนวน 72,198 ราย พบใน 109 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาด

ส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 26,594 ราย บราซิล 8,461 ราย สเปน 7,239 ราย ฝรั่งเศส 4,043 ราย และสหราชอาณาจักร 3,654 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย จากประเทศไนจีเรีย 7 ราย กานา 4 ราย บราซิล 5 ราย สเปน 2 ราย แคเมอรูน 2 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย เบลเยียม 1 ราย เอกวาดอร์ 1 ราย อินเดีย 1 ราย ซูดาน 1 ราย คิวบา 1 ราย และเช็กเกีย 1 ราย

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันของไทยรักษาหายแล้ว 10 ราย อยู่ระหว่างการรักษาและติดตามอาการ 1 รายคือรายนี้ จากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน จนครบกำหนด 21 วันแล้ว รวมจำนวน 59 คน ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม และได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ ผลตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และอยู่ระหว่างการติดตามอาการผู้สัมผัส 10 ราย

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกโรงพยาบาลเตรียมพร้อมกรณีที่พบผู้สงสัยติดเชื้อหรือผู้มีอาการเข้าข่าย ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยัน รวมถึงห้องแยกกักกันโรคจนกว่าผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการจะออก เพื่อการป้องกันการแพร่ของเชื้อ และเน้นย้ำว่า ประชาชนสามารถป้องกันตนเองจากโรคฝีดาษวานรได้ โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการไข้ มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสใกล้ชิดคนแปลกหน้าหรือไม่รู้ประวัติมาก่อน สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาด เลี่ยงการไปสถานที่แออัดหรือเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดโรคฝีดาษวานร

ทั้งนี้ หากมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด หลังจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านท่านได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

#ฝีดาษวานร #กรมควบคุมโรค #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

รู้จัก Alves Reis ชายผู้โกงสุด ในประวัติศาสตร์ โปรตุเกส - BillionMoney
เมื่อพูดถึงอาชญากรรมทางการเงินแล้ว หลาย ๆ คนมักจะคิดถึง
คดีแชร์ลูกโซ่ อย่างเช่น แชร์แม่ชม้อย หรือ Forex 3D
ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท และทำให้ผู้คนหมดตัวไปมาก
แต่รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในอาชญากรรมทางการเงิน ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
เกิดจากความคิดของชายชื่อ Alves dos Reis ซึ่งทำการหลอก หน่วยงานทางการเงิน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
อย่างธนาคารกลางโปรตุเกส จนสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศโปรตุเกส
ที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนั้น จนแทบจะพังทลายเลยทีเดียว
และถ้าหากคุณสงสัยว่านาย Reis เป็นใคร และเขามีวิธีการอย่างไร
ในการโกงที่ร้ายแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ?
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
นาย Alves dos Reis เกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงาน กลางกรุงลิสบอน
เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส ในปี 1896 ก่อนจะเติบโตมา และเข้าเรียนในสาขาวิศวกรรมศาสตร์
แต่เมื่อเรียนไปสักพัก นาย Reis ก็ตัดสินใจลาออก
ซึ่งหลังจากลาออก เขาก็ได้กลายเป็นหนูตกถังข้าวสาร เพราะได้แต่งงานกับหญิงชนชั้นสูง
แต่ด้วยการกดดันจากพ่อตา ที่ไม่ชอบเขาตั้งแต่แรก จากสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
เขาจึงตัดสินใจพาภรรยา หนีไปสร้างเนื้อสร้างตัวที่แองโกลา อาณานิคมของโปรตุเกส ในแอฟริกา ในปี 1916 โดยเข้าทำงานในตำแหน่ง วิศวกรอาวุโส ของบริษัท Angolan Railways ด้วยวุฒิการศึกษาปลอม
โดยวุฒิการศึกษาที่เขาปลอมขึ้นมาก็คือ อนุปริญญา สาขาวิศวกรรมศาสตร์
จาก Polytechnic School of Engineering มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
ซึ่งนอกจากเขา จะไม่ได้จบจากออกซฟอร์ดจริง ๆ แล้ว
Polytechnic School of Engineering ก็เป็นสถาบันการศึกษา ที่ไม่มีอยู่จริงเช่นเดียวกัน
เวลาล่วงเลยมาถึงปี 1918 เศรษฐกิจของโปรตุเกส ก็อยู่ในสภาพย่ำแย่
เนื่องจากโปรตุเกส เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฐานะฝ่ายสัมพันธมิตร
ที่ถึงแม้จะชนะ แต่ค่าปฏิกรรมสงคราม ที่เยอรมนีจ่ายให้โปรตุเกสนั้น
น้อยกว่าประเทศสัมพันธมิตรอื่น ๆ มาก
อีกทั้งโปรตุเกส ยังติดหนี้สหราชอาณาจักรจำนวนมาก
เนื่องจากพวกเขากู้เงินจากสหราชอาณาจักร มาใช้ในการทำสงคราม ทั้งในสมรภูมิยุโรป และแอฟริกา
โปรตุเกสที่ขาดดุลการคลังอย่างหนักในขณะนั้น ตัดสินใจแก้ปัญหาการขาดดุลการคลัง
ด้วยการพิมพ์เงินเพิ่ม เนื่องจากโปรตุเกส เลิกใช้ทองคำหนุนธนบัตร ตั้งแต่ปี 1891
พร้อมกับขึ้นภาษีให้มากขึ้น เป็นเหตุให้เงินเฟ้อของโปรตุเกสในตอนนั้น พุ่งสูงเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่านาย Reis ก็ได้รับผลกระทบ จากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในครั้งนี้ ทำให้เขาต้องหาเงินเพิ่ม
ด้วยการนำเครื่องจักรเก่ามาซ่อม ก่อนนำไปหลอกขาย ว่าเป็นเครื่องจักรใหม่
พร้อมกับทำการยักยอกเงิน ด้วยการปลอมแปลงเช็คจากบริษัท Angolan Railways ที่เขาทำงานอยู่
ก่อนจะถูกจับได้ในปี 1924 และนำตัวกลับไปคุมขัง ที่ประเทศโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม การถูกคุมขัง ไม่ได้ทำให้เขาสำนึกผิด แต่กลับเป็นโอกาส
ให้เขาได้นั่งคิดทบทวนกับตัวเอง จนได้แผนการที่จะกลายเป็นการโกง ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมา
นั่นก็คือการหลอกโรงพิมพ์ธนบัตร ของธนาคารกลางโปรตุเกส ให้ทำการพิมพ์เงินมาให้เขาใช้
หลังจากติดคุกเพียงแค่ 2 เดือน นาย Reis ก็ถูกปล่อยตัวออกมา เขาได้เริ่มหาผู้ร่วมขบวนการ
ด้วยการใช้เครือข่ายที่เขาเคยมี จากการเคยคลุกคลีอยู่ในวงของชนชั้นสูง
จนได้พบกับ Jose Bandeira ทูตโปรตุเกส ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์
ที่แนะนำให้เขารู้จักกับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ
Karel Marang นายธนาคารชาวดัตช์ และ Adolf Hennies สายลับชาวเยอรมัน
เมื่อได้ผู้ร่วมขบวนการแล้ว เขาก็ได้ทำตามแผนการขั้นต่อไป
ด้วยการให้ Marang เป็นตัวแทนในการเดินทางไปยังลอนดอน
เพื่อเข้าเจรจากับ Sir William Waterlow เจ้าของโรงพิมพ์ธนบัตร Waterlow and Sons
ที่รับพิมพ์ธนบัตร ให้กับธนาคารกลางของโปรตุเกส
Marang ได้เล่าเรื่องตามที่นาย Reis แต่งขึ้นมาว่า รัฐบาลโปรตุเกส ต้องการพิมพ์ธนบัตรพิเศษเพิ่มเติม
เพื่อเตรียมให้รัฐบาลของแองโกลากู้ สำหรับใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้พิมพ์ธนบัตร 500 เอสคูโด
ซึ่งเป็นสกุลเงินประจำชาติของโปรตุเกสในตอนนั้น จำนวน 580,000 ฉบับ
และธนาคารกลางของโปรตุเกส จะให้ค่าจ้างพิเศษเป็นจำนวน 2% ของมูลค่าธนบัตรที่พิมพ์
และเมื่อเล่าเรื่องจบ Marang ก็ได้กำชับกับ Sir Waterlow ว่าจะต้องติดต่อผ่านทางเขาเท่านั้น
เพราะนี่เป็นโครงการลับ ของทางธนาคารกลางโปรตุเกส
ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจาก “เหตุผลทางการเมือง”
Sir Waterlow ถึงกับตาลุกวาว เมื่อคิดถึงค่าจ้างพิเศษที่เขาจะได้รับ แต่อย่างไรก็ตาม
เขาก็ต้องการเอกสารยืนยัน จากทางธนาคารกลางโปรตุเกสก่อน
นั่นจึงทำให้ Marang บอกให้ Sir Waterlow ติดต่อกับธนาคารกลางโปรตุเกส
ผ่าน Bandeira ที่เป็นทูตโปรตุเกส ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์
แทนที่จะส่งไปยังธนาคารกลางโดยตรง เพื่อรักษาความลับของโครงการไว้
หลังจากจดหมายของ Sir Waterlow มาถึง นาย Reis ก็ได้ทำการเขียนจดหมายยืนยัน
และปลอมแปลงลายเซ็น ของผู้ว่าการธนาคารกลาง ก่อนจะส่งกลับไปหา Sir Waterlow
จนทำให้เขาเชื่อ และเริ่มการพิมพ์เงิน มูลค่า 290 ล้านเอสคูโด
โดยเงินจำนวนนี้ เมื่อคิดเป็นเงินในปัจจุบัน ก็จะเท่ากับประมาณ 5,600 ล้านบาท
ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากถึง ประมาณ 5% ของ GDP โปรตุเกสในตอนนั้นเลยทีเดียว
เมื่อได้เงินมาแล้ว นาย Reis ได้จ้างให้คนนำเงินที่พิมพ์มา ไปฝากไว้ในธนาคารก่อน
แล้วค่อยถอนเอาเงินที่ถูกกฎหมายจริง ๆ ออกมาจากธนาคาร
แต่ตอนนั้นก็มีบางธนาคาร ที่เกิดความสงสัยว่านี่จะเป็นเงินปลอม
จึงได้ส่งธนบัตรไปตรวจสอบกับทางธนาคารกลาง
ทว่าโชคก็ยังเข้าข้างนาย Reis เพราะในตอนนั้น เทคโนโลยียังไม่พัฒนามาก
และความหละหลวมของทางธนาคารกลาง จึงทำให้ตรวจไม่พบความผิดปกติ ในธนบัตรเหล่านี้แต่อย่างใด
โดยธนบัตรเหล่านี้ ก็เหมือนธนบัตรจริงทุกประการ
เพราะพวกเขาสั่งพิมพ์จากโรงพิมพ์เดียวกัน กับที่ธนาคารกลางของโปรตุเกสใช้
ด้วยจำนวนเงินที่มากมาย การฟอกเงินด้วยการฝากและถอนแบบนี้ อาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้น
ทำให้นาย Reis คิดหาวิธีฟอกเงิน ให้ได้คราวละมาก ๆ
จนนำไปสู่การตั้งธนาคารชื่อ Bank of Angola and Metropole ในแองโกลา
เมื่อปี 1925 และทำการปล่อยกู้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
นาย Reis ร่ำรวยเป็นอย่างมาก จากการทำแบบนี้ แต่ด้วยการที่ Bank of Angola and Metropole
ยังสามารถดำเนินกิจการได้ แม้จะปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ในขณะที่ธนาคารอื่น ๆ ในโปรตุเกส ต่างพากันล้มละลาย จากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
ได้ทำให้ธนาคารของนาย Reis เป็นที่สนใจ ของสื่อในโปรตุเกส ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนังสือพิมพ์ O Século
หนังสือพิมพ์ O Século ได้ออกบทความ ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเงินทุน
และการดำเนินธุรกิจของธนาคารแห่งนี้ เพราะนอกจากจะปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำแล้ว
พวกเขายังปล่อยกู้ ให้กับลูกหนี้ โดยไม่มีการเรียกสินทรัพย์ค้ำประกันด้วย
เรื่องนี้จึงร้อนถึงธนาคารกลางโปรตุเกส ต้องลงมาทำการตรวจสอบอีกครั้ง
และเมื่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางโปรตุเกส เข้ามาตรวจสอบ ก็ได้พบกับความจริงว่า
ธนบัตรเหล่านี้ ได้ถูกพิมพ์ซ้ำขึ้นมา เนื่องจากชุดตัวเลขบนธนบัตรที่ซ้ำกัน กับธนบัตรที่ใช้กันอยู่ในโปรตุเกส
แต่พวกเขานั้นไม่เคยตรวจพบเลย เนื่องจากธนบัตรส่วนใหญ่ ถูกนำมาใช้ที่แองโกลา
นั่นจึงทำให้นาย Reis และผู้ร่วมขบวนการ ถูกจับและดำเนินคดีทันที
โดยนาย Reis ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี จากความผิดในครั้งนี้
ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับโทษจนครบกำหนด ก็ได้ถูกปล่อยตัวในปี 1945
ก่อนที่อีก 10 ปีให้หลัง เขาจะเสียชีวิตลง ซึ่งในตอนบั้นปลายชีวิต เขากลายเป็นคนยากไร้ ที่ไม่มีเงินติดตัว
ถึงแม้เขาจะได้รับโทษ แต่ผลกระทบจากการที่เขาหลอกให้โรงพิมพ์ธนบัตร
พิมพ์เงินออกมาในระบบเศรษฐกิจ มากขนาดนี้
ก็ได้ซ้ำเติม สถานการณ์เงินเฟ้อในโปรตุเกส ให้สูงขึ้นไปอีก
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลให้ ประชาชนที่กำลังทุกข์ร้อนอยู่แล้ว
หมดความเชื่อใจ ในระบบธนาคาร และรัฐบาลของโปรตุเกส
จนทำให้ความวุ่นวายทางการเมือง ที่มีอยู่แล้ว ทวีความรุนแรงขึ้น
และกลายเป็นหนึ่งในชนวน สู่การรัฐประหาร เมื่อปี 1926
ซึ่งได้ทำให้ประเทศโปรตุเกส ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร ยาวนานถึง 48 ปี..
ติดตาม BillionMoney ช่องทางอื่นได้ที่
Website : billionmoney.com
Blockdit : blockdit.com/billionmoney
Facebook : facebook.com/BillionMoneyTH
Twitter : twitter.com/BillionMoneyTH
Instagram : instagram.com/billionmoneyth/
Youtube : youtube.com/billionmoney
References
-//medium.com/.../how-to-rob-a-central-bank-and...
-//visitmylisbon.com/alves-dos-reis-portuguese.../
-//encyclopedia.1914-1918-online.net/.../war_finance...
-//www.lse.ac.uk/.../Economic-History/2004/WP8204.pdf

 

Oct 17, 2022 สกัดจีนเต็มเหนี่ยว! แอปเปิลระงับแผนใช้ชิป YMTC ของจีน หลังได้รับแรงกดดันทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน อาจกระทบการผลิตไอโฟน
.
สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่าบริษัท Apple ได้ระงับแผนการที่จะใช้ชิปหน่วยความจำจาก Yangtze Memory Technologies Co. (YMTC) ของจีนในผลิตภัณฑ์ของ Apple โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการควบคุมการส่งออกของสหรัฐครั้งล่าสุดที่บังคับใช้กับภาคเทคโนโลยีของจีน และเป็นสัญญาณว่าการปราบปรามของสหรัฐกำลังสร้างผลกระทบอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทาน
.
Apple ได้เสร็จสิ้นกระบวนการนานหลายเดือนในการรับรอง YMTC's 128-layer 3D NAND flash memory ของ YMTC สำหรับใช้ใน iPhone เมื่อรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อจำกัดการส่งออกที่เข้มงวดยิ่งขึ้นต่อจีนเมื่อต้นเดือนนี้
.
NAND flash memory เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดตั้งแต่สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่ง YMTC'S 128-layer chips ของ YMTC นั้นล้ำหน้าที่สุดโดยผู้ผลิตชิปจีน แม้ว่าจะยังคงเป็นรุ่นหลังผู้นำตลาดอย่าง Samsung Electronics และ Micron
.
ผู้บริหารซัพพลายเชนกล่าวว่า เดิมที Apple วางแผนที่จะเริ่มใช้ชิปของ YMTC ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากมีราคาถูกกว่าคู่แข่งชั้นนำอย่างน้อย 20% แต่แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐ ทำให้ Apple เปลี่ยนแนวทางไป
.
"ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้รับการยืนยันแล้ว แต่ไม่ได้เข้าสู่สายการผลิต เมื่อเริ่มการผลิต iPhone ใหม่จำนวนมาก" แหล่งข่าวระบุ
.
โดยชิป YMTC เดิมมีแผนจะใช้สำหรับ iPhone ที่จำหน่ายในตลาดจีนเท่านั้น อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า Apple กำลังพิจารณาที่จะซื้อ NAND flash memory มากถึง 40% ที่จำเป็นสำหรับ iPhone ทั้งหมดจาก YMTC
.
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สหรัฐวาง YMTC ไว้ในรายการที่ไม่ได้รับการยืนยัน เมื่อเจ้าหน้าที่ของสหรัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้ปลายทางเป็นใคร รวมถึงห้ามบริษัทในสหรัฐเปิดเผยการออกแบบ เทคโนโลยี เอกสาร หรือข้อกำหนดใดๆ ในรายการที่ไม่ผ่านการตรวจสอบโดยไม่มีใบอนุญาต
.
ทั้งนี้ YMTC ยังได้รับผลกระทบจากการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดยิ่งขึ้นซึ่งประกาศในวันเดียวกัน โดยมุ่งเป้าไปที่ภาคส่วนชิปที่กว้างขึ้นของจีน กฎใหม่เหล่านี้ รวมถึงข้อจำกัดอื่นๆ ห้ามไม่ให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปของสหรัฐให้บริการหรือการสนับสนุนทางเทคนิคที่จะช่วยให้บริษัทจีนผลิตชิปขั้นสูง
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
//bit.ly/3D1QTbH
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: //m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: //m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: //mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: //btimes.biz
พ็อดคาสท์: //btimes.podbean.com/
.
#แอปเปิล #ชิปYMTC #ผู้ผลิตชิปไอโฟน #ผู้ผลิตชิป #จีน #สหรัฐ #ไอโฟน #Apple #Btimes

 

BRIEF: โฆษก กต.ถามต่างชาติบนทวิตเตอร์ มีสิทธิอะไรมาตัดสินนโยบายไทย หลังวิจารณ์กรณีงดออกเสียงที่ UN
.
ภายหลังจากที่ไทยโหวตงดออกเสียงในการลงมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ประณามการผนวกดินแดนที่ ‘ไม่ชอบด้วยกฎหมาย’ ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่าทีของไทยที่แสดงออกมาก็ทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
.
และไม่ใช่แค่คนไทย แต่ชาวต่างชาติบางส่วนก็ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งก็มีอยู่ 2 คน ที่มาต่อบทสนทนาเมื่อช่วงวันที่ผ่านมาบนทวิตเตอร์ แต่ท้ายที่สุดปรากฏว่า การแสดงความเห็นนั้นก็ต้องจบลง หลังจากที่ ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ มาตอบชาวต่างชาติดังกล่าวด้วยข้อความเชิงตำหนิ
.
ธานี แสงรัตน์ ทวีตตอบกลับผ่านบัญชี @SangratTanee เป็นภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า “อะไรหรือใครทำให้คุณมีสิทธิจะมาตัดสินนโยบายการต่างประเทศของไทย หรือประเทศใดๆ ก็ตาม ไทยยืนเคียงข้างตัวเองและผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ใช่เคียงข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในเกมระหว่างมหาอำนาจ เรายินดีกับการเจรจาและใช้การทูต มากกว่าสงครามและการสูญเสีย”
.
บทสนทนาดังกล่าว เป็นการพูดคุยกันภายหลังจากมีคนแชร์บทความแสดงความเห็น “Should We Be Proud of Thailand’s Abstention in UN Vote?” โดย ประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ และเป็นการแลกเปลี่ยนของชาวต่างชาติ 2 คน ที่ใช้บัญชี @AA6290034223 หรือ ‘AA62’ และ @rex_p_stoner ที่ระบุว่ามีชื่อว่า เร็กซ์ เพรสตัน สโตเนอร์
.
โดยเริ่มจากเจ้าของบัญชี ‘AA62’ ซึ่งระบุในโปรไฟล์ว่าเป็น “ผู้อาศัยในกรุงเทพฯ ระยะยาว” และมาแสดงความเห็นว่า “ผมเดาว่า การเป็นเจ้าภาพ APEC ทำให้การเมืองปฏิบัตินิยม (realpolitik) ขึ้นมาครอบงำเหนือสามัญสำนึกแล้ว“ ก่อนที่ สโตเนอร์ เจ้าของบัญชี @rex_p_stoner จะมาตอบว่า “ในทฤษฎี IR ผมคิดว่า คุณเรียกว่าไทยเป็น ‘ฟรีไรเดอร์’ ได้ในระบบระหว่างประเทศ เป็นการสรุปรวบยอดที่ดีที่สุดที่จะนึกได้แล้ว”
.
ทำให้เจ้าของบัญชี ‘AA62’ ตอบกลับอีกว่า “เมื่อถึงขั้นหนึ่งในการพัฒนาของแต่ละประเทศ มันก็จะถึงเวลาที่จะต้องสยายปีก และทำให้เป็นที่เคารพนับถือบนเวทีระหว่างประเทศได้แล้ว ชัดเจนว่าไทยยังไปไม่ถึงจุดนั้น” ซึ่ง สโตเนอร์ ก็มาย้ำอีกว่า “ถูกต้อง มันยังไม่ใช่ กระทรวงการต่างประเทศไทย – หรือหน่วยงานรัฐใดๆ ก็ตาม – ไม่ใช่ที่มั่นของ ‘การคิดเชิงยุทธศาสตร์’ เท่าไหร่”
.
จนกระทั่งบทสนทนาจบลงด้วยการตอบของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
.
ทั้งนี้ บัญชี @SangratTanee ของ ธานี แสงรัตน์ ระบุชัดเจนบนโปรไฟล์ว่า เป็น “โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย” แต่ก็ระบุด้วยว่า การทวีตและรีทวีตนับเป็น ‘ความเห็นส่วนตัว’
.
ไทยเป็น 1 ใน 35 ประเทศ ที่โหวตงดออกเสียงในการลงมติประณามการผนวกดินแดนของรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่า เป็นการลงมติในบรรยากาศที่ ‘พลิกผันได้ง่ายเป็นอย่างมาก’ และ ‘เต็มไปด้วยอารมณ์’ ซึ่ง “ยิ่งลดทอนโอกาสของการทูตช่วงวิกฤต ที่จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาผ่านการเจรจาที่สันติและใช้ได้จริง ให้กับความขัดแย้งที่อาจผลักโลกไปสู่สงครามนิวเคลียร์และการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลก”
.
.
.
อ้างอิงจาก
//twitter.com/SangratTanee/status/1581675759684329472
//thematter.co/brief/187997/187997
#กระทรวงการต่างประเทศ #สหประชาชาติ #TheMATTER

 

เครื่องตรวจวัดน้ำตาลผู้ป่วยเบาหวาน ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 24 ชั่วโมง

สิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน คือ การควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้เกินเกณฑ์ปกติ โดยเครื่องตรวจน้ำตาลกลูโคส (CGMs) จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถติดตามระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกวันและสามารถแสดงผลข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับน้ำตาลในเลือดว่ามีปฏิกิริยาต่ออินซูลินอย่างไรบ้าง

บริษัท แอ๊บบอต (Abbot) ได้เปิดตัวเครื่องตรวจเบาหวาน FreeStyle Libre 3 อุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดที่มีขนาดกะทัดรัด ซึ่งได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว สามารถนำตัวเซนเซอร์มาติดที่แขนของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อให้เซนเซอร์สามารถอ่านค่าระดับน้ำตาลในเลือดก่อนจะส่งข้อมูลที่ได้ไปยังสมาร์ตโฟนของผู้ใช้งาน

ระบบเซนเซอร์จะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน โดยใช้แอปพลิเคชันสแกนเซนเซอร์ หลังจากนั้นจะใช้เวลา 60 นาทีในการรอเพื่ออุ่นเครื่องอุปกรณ์ ในช่วง 12 ชั่วโมงแรกไอคอนรูปหยดเลือดก็ค่อย ๆ เริ่มปรากฏขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ได้มีการทดสอบการใช้งานอุปกรณ์ FreeStyle Libre 3 ควบคู่กับเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อทดสอบระดับความแม่นยำ ผลการทดสอบพบว่าเครื่องมีความแม่นยำในระดับหนึ่ง แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นการใช้งาน กาวที่ใช้ติดอุปกรณ์ก็ทำงานได้ดีโดยไม่หลุดลอก แม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ ส่วนการอ่านค่าการตรวจวัดจะมีลูกศรเป็นตัวระบุผลน้ำตาลในเลือดว่ามีความคงที่ เพิ่มขึ้น หรือลดลง โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งสัญญาณเตือนเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงได้ และสามารถใช้ฟังก์ชันห้ามรบกวนของแอปพลิเคชันได้ แต่ไม่สามารถปิดเสียงการแจ้งเตือนเร่งด่วนได้ตามที่องค์การอาหารและยากำหนด

การใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดขนาดเล็กนี้ ผู้ป่วยจะต้องมีใบสั่งจากแพทย์ถึงจะสามารถใช้งานได้ โดยอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินด้วยตัวเอง หรือผู้ที่ต้องควบคุมอาหารเพื่อจัดการกับโรคเบาหวาน ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง

ที่มาของข้อมูล //www.tnnthailand.com/news/tech/127999/
ที่มาของรูปภาพ Abbott FreeStyle

#abbott #monitor #diabetics #เครื่องตรวจวัดน้ำตาล #ผู้ป่วยเบาหวาน #แอปพลิเคชัน #tnntechreports #techreports #TNNONLINE #TNNThailand #TNNช่อง16 #ซิงเกิลอิมเมจ #Msatoshi
—————————————————————————
ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : //bit.ly/TNNTechWebsite
• Youtube : //bit.ly/TNNTechYoutube
• TikTok : //bit.ly/TNNTechTikTok0.
• Line @TNNONLINE : //lin.ee/4fP2tltIo
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
//www.facebook.com/TNN16LIVE/

 

พื้นที่ใดจะถูกเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ

1. การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ (primary succession) เป็นการเปลี่ยน แปลงแทนที่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตมาก่อนโดยเฉพาะพวกพืช เช่น บริเวณภูเขาไฟ ระเบิดใหม่ เกาะที่เกิดใหม่ แหล่งน้ำใหม่ บนก้อนหินและกองทรายที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ก่อนเลย

การเปลี่ยนแปลงแทนที่ ขั้น Pioneer เกิดขึ้นบริเวณใด

1. การเปลี่ยนแปลงแทนที่ขั้นปฐมภูมิ (Primary Succession) เป็นการ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในแหล่งที่ไม่เคยปรากฏสิ่งมีชีวิตใด ๆ มาก่อน เช่น บริเวณภูเขาไฟระเบิดใหม่ การเกิดแหล่งน ้าใหม่ ลานหิน

สิ่งมีชีวิตชนิดใด เป็นผู้บุกเบิกในการเปลี่ยนแปลงแทนที่ขั้นปฐมภูมิ

การเปลี่ยนแปลงแทนที่ที่เกิดขึ้นเป็นแบบปฐมภูมิ สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาอยู่ก่อนมักจะเป็นมอสและไลเคนส์

การเปลี่ยนแปลงแทนที่มีลักษณะตรงกับข้อใด

การเปลี่ยนแปลงแทนที่ (ecological succession) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มสิ่งมีชีวิตเดิม กลายเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหม่มาแทนที่ เมื่อ สภาพแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก