วันที่ 19 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรัฐบาลเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน หลังขณะนี้ได้รับผลกระทบวิกฤติพลังงานจากสู้รบรัสเซีย-ยูเครน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด และเบื้องต้นกระทรวงพลังงานแนะนำวิธีประหยัดพลังงานน้ำมันและไฟฟ้าให้ประชาชนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ตัวเองและครอบครัว
ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างน่าสนใจคือ ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส พร้อมกับเปิดพัดลมตั้งพื้นควบคู่กัน ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศในห้อง และช่วยลดอุณหภูมิลงได้ประมาณ 2 องศาเซลเซียส โดยจะช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาเซลเซียสอย่างเดียว รวมทั้งควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุกเดือน และล้างแอร์ทุก 6 เดือน จะช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์และประหยัดไฟ ซึ่งวิธีใช้แอร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ 10-30% ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตารีด ภายในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศด้วย
จากประเด็นดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยเนื่องจากที่ผ่านมามักมีภาพจำของการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสคือการประหยัด ในเรื่องนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไขข้อสงสัยในเรื่องนี้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ว่า เปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูงพร้อมเปิดพัดลม ประหยัดไฟได้มากกว่าเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำเป็นเรื่องจริง และมักจะใช้วิธีนี้ที่บ้านตัวเองเป็นประจำ
หลักการคร่าวๆ คือ การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูง เช่นที่ 27 องศาเซลเซียส แอร์จะกินไฟน้อยกว่าการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำ เช่น ที่ 23-24 องศาเซลเซียส ที่เป็นเช่นนั้นเพราะส่วนคอยล์ร้อนหรือคอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานน้อยลงเมื่อตั้งอุณหภูมิสูงขึ้น โดยคอมเพรสเซอร์จะทำงานไม่นาน ก็ตัดการทำงานเพราะอุณหภูมิลงไปถึงจุดที่ตั้งไว้แล้ว (27 องศาเซลเซียส) ทำให้แอร์กินไฟน้อยลงด้วย
ทั้งนี้ ความจริงการที่แอร์ลดอุณหภูมิห้องลงเหลือ 27 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะลดความชื้นในห้องจนทำให้เรารู้สึกสบายขึ้นได้แล้ว ขณะที่การเปิดพัดลมเป่ามาที่ตัวเราจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นอีกจากกระแสลมที่มาปะทะตัว ทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนออกจากร่างกายของเรา เกิดได้ดีขึ้น แถมพัดลมตั้งพื้นกินไฟต่ำกว่าแอร์มากๆ คือใช้ไฟเพียงแค่ไม่กี่วัตต์เท่านั้น แม้จะเปิดพัดลมเบอร์ 2 เบอร์ 3 หรือเปิดพัดลมเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ตัว ก็ยังกินไฟน้อยกว่าแอร์อยู่ดี
รศ.ดร.เจษฎา สรุปทิ้งท้ายว่า การปรับอุณหภูมิของเครื่องแอร์ จากที่เคยตั้งไว้ 23-24 องศาเซลเซียส มาเป็น 27 องศาเซลเซียสพร้อมเปิดพัดลมตั้งพื้นเป่าตัว ช่วยให้เราประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น และอย่าลืมว่าให้หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ ล้างแอร์เป็นประจำด้วย.
เปิดแอร์กี่องศาถึงจะประหยัดไฟ? นี่เป็นอีกคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนเลือกใช้วิธีเปิดแอร์แบบประหยัดไฟโดยการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส แต่รู้หรือไม่ว่านั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจผิด เพราะอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงอุณหภูมิที่มนุษย์เรารู้สึกสบายตัวมากที่สุด และในความเป็นจริงการเปิดแอร์ที่ช่วยให้ประหยัดไฟ ก็คือ การเปิดแอร์ให้มีอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 26-28 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงของอุณภูมิที่ยังทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายกำลังดี อีกทั้งการปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิสูงก็ยิ่งช่วยประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
3. เปิดพัดลมควบคู่กับแอร์
การเปิดพัดลมไปด้วยในขณะเปิดแอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งทริคที่ช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายได้ทั่วถึงควบคู่กับการเปิดแอร์ที่อุณภูมิประมาณ 26-28 องศาเซลเซียส แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนมีข้อสงสัยว่าแล้วแบบนี้จะไม่เป็นการเปลืองไฟกว่าปกติหรือ? เพราะเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าสองชนิด คำตอบคือไม่ เพราะการเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูงทำให้แอร์กินไฟน้อยลง แถมตัวเครื่องแอร์ไม่ต้องเร่งทำความเย็น เมื่อเป็นเช่นนี้หลังปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้ว ก็อย่าลืมเปิดพัดลมเบอร์เบา ๆ เพื่อเพิ่มรัศมีการกระจายความเย็นด้วยนะ
เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ พร้อมผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี…คลิกสมัครที่นี่
4. หลีกเลี่ยงการเพิ่มความชื้นภายในห้อง
การทำงานของแอร์ไม่เพียงแต่ทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นลงเท่านั้น ความเย็นจากแอร์ยังทำให้อากาศภายในห้องแห้งลงด้วย ดังนั้นถ้ามีสิ่งที่ก่อให้เกิดความชื้นอยู่ในห้องพัก สิ่งที่ตามมาคือแอร์ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม และส่งผลให้ต้องเสียค่าไฟเพิ่มตามไปด้วย
5. เลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนขณะเปิดแอร์
การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ให้ความร้อนหรือทำความร้อนไปใช้ภายในห้องแอร์ จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในห้องสูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนัก รวมถึงคงอุณหภูมิความเย็นภายในห้องไว้เป็นเวลานาน จึงไม่ควรใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนขณะเปิดแอร์
6. ตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้า
หลายคนมีช่วงเวลาในการเปิดแอร์ที่ตายตัว เช่น เปิดแอร์เฉพาะเวลานอน เปิดแอร์แค่ก่อนนอน หรือเปิดแอร์ในช่วงเวลาทำงานเท่านั้น แม้ส่วนใหญ่จะเลือกใช้งานเครื่องปรับอากาศตามช่วงเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรวางแผนใช้แอร์ควบคู่กันไป โดยวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้ดีที่ใครก็ทำได้ คือ ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ให้ชัดเจน เช่น หากต้องตื่นนอนเวลา 7 โมงเช้าทุกวัน ให้ตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนเวลาตื่นนอนประมาณ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง เพราะถึงจะปิดแอร์แล้วแต่มวลความเย็นของแอร์ยังคงหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง ซึ่งคุณสามารถเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็นได้มากยิ่งขึ้น
7. ใช้งานเท่าที่จำเป็น
การประหยัดไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ดีที่สุดคือ การเลือกใช้แอร์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และถ้าอากาศไม่ได้ร้อนจนเกินไปแนะนำให้ใช้พัดลมแทน เนื่องจากหลายคนมักมีความเคยชินกับการเปิดแอร์หรือต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ดังนั้นหากไม่ต้องการเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อเป็นการบรรเทาอากาศร้อน อาจหันมาใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณประหยัดไฟได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว