สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้น ม.1 | ใบความรู้ เรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ | วิทยาศาสตร์พื้นฐานรหัส ว 21102 |
โครงงาน คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าสิ่งที่สนใจ โดยใช้วิธีการอย่างเป็นระบบ
โครงงานวิทยาศาสตร์เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากความต้องการของนักเรียน ซึ่งเป็นความต้องการค้นคว้าหาคำตอบเมื่อเกิดความสงสัยหรือเกิดปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งทางวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นคว้า ซึ่งประกอบด้วย
- ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มีขั้นตอนดังนี้
1.1 การตั้งปัญหา 1.2 การตั้งสมมติฐาน
1.3 การตรวจสอบสมมติฐาน(ออกแบบรวบรวมข้อมูลหรือออกแบบทดลองและ
ทำการทดลอง)
1.4 การวิเคราะห์และสรุปผล
2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือความชำนาญในการใช้ความคิดในการสังเกต
การคำนวณ การจัดกระทำข้อมูล การสื่อความหมาย การออกแบบการทดลอง ตลอดจนการสรุปผลการทดลอง ซึ่งทักษะเหล่านี้จะนำไปสู่การค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
2.1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ได้แก่
2.1.1 ทักษะการสังเกต 2.1.2 ทักษะการวัด
2.1.3 ทักษะในการใช้เลขจำนวนหรือการคำนวณ
2.1.4 ทักษะในการจำแนกประเภท
2.1.5 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา
2.1.6 ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
2.1.7 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล
2.1.8 ทักษะการทำนาย
2.2 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นผสม ได้แก่
2.2.1 ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร
2.2.2 ทักษะการตั้งสมมติฐาน
2.2.3 ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
2.2.4 ทักษะการทดลอง
2.2.5 ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
3. เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทางวิทยาศาสตร์ |
3.1. ความสนใจใฝ่รู้ |
3.2 ความมุ่งมั่น อดทน รอบคอบ |
3.3 ความซื่อสัตย์ ประหยัด |
3.4. การร่วมแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น |
3.5. ความมีเหตุผล |
3.6. การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ |
3.7. มีความพอใจ ความซาบซึ้ง ความสุขในการสืบเสาะหาความรู้และรักที่จะเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต |
3.8. ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ |
3.9. ตระหนักว่าการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีผลต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม |
3.10. แสดงความชื่นชมยกย่องและเคารพในสิทธิของผลงานที่ผู้อื่นและตนเองคิดขึ้น |
3.11. แสดงความซาบซึ้งในความงามและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและในท้องถิ่น |
3.12. ตระหนักและยอมรับความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และการทำงานต่างๆ |
ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ |
|
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยส่วนและหัวข้อต่างๆดังต่อไปนี้
- ปกนอก
- ปกใน
- บทคัดย่อ
- กิตติกรรมประกาศ
- สารบัญ
- สารบัญตาราง
- สารบัญกราฟ
- สารบัญรูปภาพ
- บทที่ 1 บทนำ
- บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการทดลอง
- บทที่ 4 ผลการทดลอง
- บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง
- บรรณานุกรม(เอกสารอ้างอิง)
- ภาคผนวก(ถ้ามี)
หมายเหตุ ภาคผนวกคือส่วนเสริมของรายงาน เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้อยู่ในบทใดบทหนึ่ง
ของรายงาน เพราะจะเป็นรายละเอียดเกินไป จึงเขียนแยกออกมา โดยขึ้นหน้าใหม่ต่อจากบรรณานุกรม เช่น คำอธิบายบางอย่าง วิธีการใช้เครื่องมือบางอย่าง เป็นต้น ภาคผนวกอาจไม่ต้องมีก็ได้ถ้าไม่จำเป็น
คำอธิบายรายละเอียดการเขียนรายงาน
- ปกนอก ประกอบด้วย
1.1 ชื่อโครงงาน
1.2 ชื่อผู้จัดทำ
1.4 รายละเอียดของการประกวด ดังตัวอย่าง
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ตอนต้น ประเภท ……………..ประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
โรงเรียนศรีสุขวิทยา
วันที่……………เดือน………………..พ.ศ…………
- ปกใน ประกอบด้วย
2.1 ชื่อโครงงาน
2.2 ชื่อผู้จัดทำ
2.3 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
3. บทคัดย่อ
เขียนเกี่ยวกับความสำคัญของโครงงานโดยย่อ เช่น วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลสรุปของการศึกษา ความยาวไม่ควรเกิน 1 หน้า
4. กิตติกรรมประกาศ
คำขอบคุณผู้มีส่วนช่วยในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์
5. สารบัญ ประกอบด้วย
5.1 สารบัญ
5.2 สารบัญตาราง
5.3 สารบัญกราฟ
5.4 สารบัญรูปภาพ
6. เนื้อเรื่องโครงงาน
บทที่ 1 บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
(กล่าวถึงความเป็นมา เหตุจูงใจ หรือปัญหาที่ศึกษา)
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
(ระบุจุดประสงค์ของการศึกษาค้นคว้าหรือปัญหาที่ต้องการศึกษาเพื่อให้ได้คำตอบ)
สมมติฐานของการศึกษา
(ข้อความที่แสดงการคาดคะเนคำตอบล่วงหน้าก่อนการทดลอง มีพื้นฐานจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและข้อมูลอื่น ๆ ถ้าเป็นโครงงานประเภทสำรวจก็ไม่ต้องระบุสมมติฐาน)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
(มีตัวแปรต้น……………., ตัวแปราตาม………………, ตัวแปรควบคุม……….)
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
(ระบุให้ชัดเจนว่าโครงงานนี้ทำกว้างแค่ไหน)
ข้อตกลงเบื้องต้นและศัพท์เทคนิค
(ระบุความหมายของคำบางคำให้ชัดเจน)
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
(กล่าวถึงข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษาจากเอกสาร ตำรา วารสาร หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ เพื่อให้ได้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องนำมาใช้และเป็นแนวทางของการตั้งสมมติฐาน)
บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดำเนินการทดลอง
วัสดุ-อุปกรณ์และสารเคมี
(ให้ระบุว่าใช้วัสดุอุปกรณ์และสารเคมีใดบ้าง)
วิธีดำเนินการทดลอง
(อธิบายวิธีการศึกษาค้นคว้าทุกขั้นตอนโดยละเอียด เช่นการออกแบบการทดลอง วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล การคิดตัวเลขทางสถิติ)
บทที่ 4 ผลการทดลอง
(ระบุผลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการทดลอง ควรนำเสนอในรูปตาราง กราฟ หรือรูปภาพ)
บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง
(การสรุปอาจสรุปเป็นตอน ๆ หรือสรุปเป็นความเรียงเดียวก็ได้ เนื้อหาการสรุปต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการศึกษาที่ตั้งไว้ การอภิปรายผลการทดลองให้ยึดหลักภาษาสำนวนที่ผู้อ่านจะเห็นคล้อยตามด้วย)
7. ข้อเสนอแนะ
(กล่าวถึงข้อคิดเห็นที่ได้จากการทำโครงงาน เช่น จะนำผลของการศึกษาไปใช้ประโยชน์
อะไรได้บ้าง และข้อคิดเห็นของการศึกษาค้นคว้าเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคต)
หมายเหตุ อาจแยกเป็นหัวข้อก็ได้ เช่น
– อุปสรรค (กล่าวถึงอุปสรรคในการศึกษาค้นคว้า)
– ข้อเสนอแนะ(กล่าวถึงข้อคิดเห็นสำหรับการศึกษาเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคต)
– ประโยชน์ของการศึกษา(กล่าวถึงการนำผลกรศึกษาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง)8. บรรณานุกรม (เอกสารอ้างอิง)
(ระบุชื่อหนังสือ เอกสาร ตำราต่างๆที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในการทำโครงงาน ควรเขียนให้ถูกต้องตามหลักการเขียนเอกสารอ้างอิงด้วย)
หลักการเขียนเอกสารอ้างอิง มีดังนี้
– ชื่อและนามสกุลผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. พิมพ์ครั้งที่. ชื่อโรงพิมพ์. จังหวัดที่ทำการพิมพ์. เลขพ.ศ. ที่พิมพ์
– เอกสารอ้างอิงเล่มหนึ่งๆหากต้องเขียนถึง 2 บรรทัด บรรทัดที่ 2 ต้องย่อหน้าเข้ามาประมาณ 8 ตัวอักษร
– หากมีหนังสืออ้างอิงหลายเล่ม ให้เรียงตามตัวอักษร ก ข ค ง …..ของชื่อผู้แต่ง
– หากมีข้อสงสัยให้ถามบรรณารักษ์หรือเจ้าหน้าที่ห้องสมุด
ตัวอย่างการเขียนเอกสารอ้างอิง
บุญพฤกษ์ จาฏามระ. แบบเรียนเคมีบรรยาย. พิมพ์ครั้งที่ 4. อักษรเจริญทัศน์.
กรุงเทพมหานคร. 2536.
วโรฬส นรินทร. “การป้องกันและลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติ” วารสารชัยพฤกษ์
วิทยาศาสตร์, ฉบับที่ 272 (กุมภาพันธ์, 2536) 28-29
9. ในกรณีที่เป็นโครงงานสิ่งประดิษฐ์
ต้องมีภาพแสดงโครงสร้างของเครื่องมือด้วย พร้อมทั้งคำอธิบายการทำงานของเครื่องมืออย่างชัดเจนว่าทำงานอย่างไร มีประสิทธิภาพเท่าไร มีการพัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือมาเป็นลำดับอย่างไร มีการเลือกและทดสอบความเหมาะสมของอุปกรณ์อย่างไร
10. กระดาษที่ใช้เขียนหรือพิมพ์รายงาน
กระดาษที่ใช้เป็นกระดาษ A4
การทำแผงโครงงาน
วัสดุ ใช้ไม้อัดหรือวัสดุอื่นที่ไม่เป็นอุปสรรคในการตั้งแผงแสดงโครงงาน
ขนาด ประกอบด้วยวัสดุเป็นแผ่น 3 แผ่น ดังนี้
– แผ่นกลาง มีขนาด 60 x 120 เซนติเมตร
– แผ่นข้าง มีขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
60 cm
121200
120 cm 60 cm