ตัวอย่าง email แจ้งผลการสัมภาษณ์งาน ไม่ผ่าน

หลังจากที่สัมภาษณ์งานเสร็จพี่เชื่อว่าทุกๆคนต้องได้กลับมาคิดเรื่องเดียวกันว่า เราทำได้ดีแล้วหรือไม่? เพราะบางทีถึงเราคิดว่าเราทำการทดสอบทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยมหรือตอบคำถามกรรมการได้อย่างลื่นไหล แต่ก็ยังไม่สามารถมั่นใจได้ 100% ว่าจะถูกเลือกนะคะ

บางทีเราอาจจะคิดว่าเราได้สร้างความประทับใจไว้ให้กับกรรมการแล้ว แต่หากน้องๆลองสังเกตดูให้ดีๆ อาจจะจับได้ว่ากรรมการไม่ได้ประทับใจเราเลย

ดังนั้น การเรียนรู้ที่จะอ่านสัญญาณจากกรรมการเป็นวิธีที่จะช่วยเป็นตัวบันทึกเทปให้น้องๆ เพื่อในครั้งหน้าน้องๆจะได้เลี่ยงการทำแบบเดิมๆ หรือช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้น้องๆคิดหาวิธีอื่นที่จะทำให้กรรมการประทับใจได้ในระหว่างการสัมภาษณ์นั่นเอง ซึ่งพี่ก็จะได้รวบรวมสัญญาณที่พี่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอในการสัมภาษณ์งานมากที่สุดมาให้น้องๆด้วยกัน

8 สัญญาณค่ะ

การสัมภาษณ์จบเร็วเกินไป

ปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์แบบ face-to-face หรือ online อย่างน้อยต้องมีระยะเวลาในการสัมภาษณ์อยู่ที่ 25-30 นาที ซึ่งถ้าน้อยกว่านั้นถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นล่ะก็ มันอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราไม่มีความน่าสนใจ (กรรมการจึงไม่ถามคำถามมากนัก) หรือมีข้อมูลที่ไปนำเสนอคณะกรรมการไม่มากพอ ทำให้เวลาในการสัมภาษณ์นั้นจบลงเร็วเกินไปนั่นเองค่ะ
กรรมการสัมภาษณ์ไม่ค่อยบอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งนั้นๆเท่าไหร่.
– โดยส่วนมากถ้าเกิดการสัมภาษณ์ดำเนินการไปด้วยดี กรรมการจะพยายามขายความดีงามของตำแหน่งนั้นให้เราฟัง เพราะไม่อยากให้เราเปลี่ยนใจจากตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีบางสถานการณ์ที่กรรมการยังมาทำงานได้ไม่นานหรืออาจจะตื่นตระหนกอยู่ก็เลยลืมพูดแนะนำตำแหน่งนั้นให้กับเราก็เป็นไปได้นะคะ ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะถามขึ้นมาเองก็ได้ค่ะ เป็นการแสดงออกว่าเราสนใจในตำแหน่งนั้นๆจริง สามารถใช้สร้างความประทับใจได้นะคะ

รู้สึกว่าเข้าไม่ถึงกรรมการเลย

ถ้าหากน้องๆอยู่ในระหว่างการสัมภาษณ์แต่รู้สึกว่ากรรมการไม่คุยเล่น หยอกล้อ หรือถามเรื่องส่วนตัวของน้องเลย นี่อาจจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่ากรรมการไม่ได้สนใจในตัวน้องค่ะ หรือหากบางสถานการณ์ที่การสัมภาษณ์เป็นไปแบบเงียบๆและจริงจัง แต่กรรมการก็ยังเอ่ยถามข้อมูลส่วนตัวของน้องอยู่ แบบนั้นก็ยังไม่ถือว่าเป็นสัญญาณไม่ดีค่ะ เพราะอาจจะเป็นที่บุคลิกส่วนตัวที่จริงจังของกรรมการอยู่แล้วก็ได้ค่า แต่ถ้าบรรยากาศทั้งจริงจังทั้งไม่มีกรรมการถามเพิ่มเติมเลยด้วยเนี่ย น่าเก็บไปคิดนะคะ

กรรมการถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย

กรรมการที่เขามีความสนใจจะจ้างคนเข้าทำงานก็ควรมความกระตือรือร้นจะรับฟังข้อมูลของคนที่มาให้สัมภาษณ์ใช่ไหมคะ แต่ถ้าระหว่างการสัมภาษณ์ กรรมการเอาแต่เล่นโทรศัพท์หรือว่าเดินเข้าเดินออกบ่อยๆ แบบนั้นน่าจะต้องคิดเรื่องไปสัมภาษณ์ที่อื่นไว้แล้วนะคะ

กรรมการไม่ยิ้มให้คุณ

ถ้ากรรมการไม่ส่งยิ้มให้เราเลยก็แปลว่าเราไม่ได้สร้างความน่าประทับใจอะไรไว้แม้แต่นิดเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นด้วยโทนเสียง การใช้คำพูด ภาษากายของเรา หรือบางทีเราเองก็อาจจะตื่นเต้นจนลืมส่งยิ้มให้กรรมการไปก็ได้นะคะ เพราะฉะนั้น น้องๆต้องอย่าลืมยิ้มให้กรรมการตอนไปสัมภาษณ์งานด้วยนะคะ เพราะยังไงเมื่อมีคนยิ้มมา คนเราจะยิ้มกลับโดยอัตโนมัติกันอยู่แล้วล่ะค่ะ แล้วการที่เราได้ยิ้มให้กันเนี่ย ก็เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจสุดๆไปเลยใช่ไหมล่ะคะ?เพราะฉะนั้นอย่าลืมยิ้มนะคะ!

กรรมการไม่ถามถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา

ในการสัมภาษณ์มักจะต้องมีคำถามเกี่ยวกับมุมมองการทำงานของเราเพื่อดูความสามารถของเรา อย่างเช่น

  • ทำไมถึงมาสมัครตำแหน่งนี้?
  • ทำไมถึงอยากทำงานนี้?
  • ทำไมถึงออกจากงานก่อน?
  • คุณเห็นตัวเองเป็นยังไงในอีก 5 ปีข้างหน้า?

เป็นต้น แต่ถ้าหากว่าเราตอบคำถามเหล่านี้ที่สามารถโยงไปถึงทัศนคติต่อตำแหน่งและประสบการณ์การทำงานของเราได้ไม่ดี กรรมการก็คงไม่มีอะไรที่อยากจะรู้เกี่ยวกับด้านนี้ของเรามากขึ้นกว่านี้หรอกนะคะ เพราะฉะนั้นการที่กรรมการไม่ขอให้เราเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราก็แสดงว่าเขาเห็นว่ามุมมองของเราไม่ผ่านไปแล้วล่ะค่า

กรรมการถามวนถึงจุดเดิมซ้ำๆ

ถึงแม้ข้อข้างบนพี่จะบอกว่าการที่กรรมการไม่ถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของเรานั้นเป็นสัญญาณไม่ดี แต่ว่าถ้าเขาถามเราซ้ำๆอยู่แค่เรื่องเดียวโดยใช้เวลามากเกินไปหรือมากกว่า 3-4 คำถามในเรื่องๆเดียว ตัวเราเองที่ถูกถามเรื่องเดิมบ่อยๆก็คงรู้สึกบ้างแน่ๆว่าเขาข้องใจหรือไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ของเราหรือเปล่า ใช่หรือเปล่าคะ? เพราะฉะนั้นถ้าเจอแบบนี้ต้องค่อยๆอธิบายให้กรรมการเข้าใจเรานะคะ อย่าเพิ่งกลัวกรรมการน้า

กรรมการพูดกับเราว่ามีความกังวล

ไม่มีอะไรจะชัดเจนเท่าอันนี้แล้วล่ะค่ะ กรรมการบางคนก็เลือกที่จะพูดตรงๆออกไปเลยค่ะ ถ้าหากว่าเขารู้สึกว่าคำตอบที่เราตอบไป มันมีบางส่วนที่ฟังดูน่าเป็นห่วง อาจจะเป็นเรื่องความสามารถ, สาขาที่เราเรียนจบมา หรือประสบการณ์ทำงานของเรา แต่ไม่ต้องตื่นกลัวไปนะคะ นี่คือการที่กรรมการเขากำลังเปิดโอกาสให้เราได้อธิบายหรือแก้คำตอบให้ดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าเราโดนแบบนี้แล้วไม่อธิบายอะไรที่ต่างออกไปเลย ก็ถือว่านี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาซะเลยนะคะ

นี่ก็เป็นทั้งหมด 8 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าการสัมภาษณ์ของน้องๆนั้นอาจจะไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวเช่น บุคลิกของกรรมการ ประสบการณ์ของกรรมการ หรือ สไตล์การสัมภาษณ์ของแต่บริษัทก็ได้นะคะ เพราะฉะนั้นถึงจะเจอกับสัญญาณแบบนี้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะต้องไม่ผ่าน 100% พี่อยากให้น้องๆได้รับรู้ไว้เพื่อจะได้เตรียมตัวแก้สถานการณ์ได้ทันนะคะ แต่อย่าถึงขั้นคอยแต่จะเก็บสัญญาณต่างๆจนไม่มีสมาธิให้สัมภาษณ์เลยน้า

  • สาเหตุที่ HR ไม่แจ้งผลสัมภาษณ์
    • ยังไม่มีผู้สมัครที่เข้าตา
    • ความต้องการคนของบางแผนกไม่แน่นอน
    • HR งานยุ่งมากจนลืม
    • ไม่อยากตัดความหวัง หรือทำให้เสียความรู้สึก
    • นโยบายของบริษัท และความไม่เป็นมืออาชีพของ HR
  • HR ไม่แจ้งผลสัมภาษณ์ ทำยังไงดี?

“เดี๋ยวจะติดต่อกลับไป”

ประโยคที่คนหางานหลายคนได้ยินจาก HR หลังสัมภาษณ์งานเสร็จ ซึ่งทำให้คนที่ถูกสัมภาษณ์รู้สึกมีความหวังที่จะได้งานไม่มากก็น้อย แต่ปัญหาคือ HR ไม่ค่อยติดต่อกลับมาแจ้งผลการสัมภาษณ์ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรืออีเมล แล้วปล่อยให้เราเสียเวลานับวันนับคืนรอ โดยผู้สมัครที่เจอแบบนี้ส่วนมากจะเป็นคนที่ไม่ผ่าน หรือยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ทำไม HR ถึงไม่แจ้งผลกับเรา วันนี้ JobThai รวบรวมสาเหตุหลัก ๆ มากฝาก

ยังไม่มีผู้สมัครที่เข้าตา

เหตุผลแรกคือยังไม่เจอผู้สมัครที่เข้าตาสักที เพราะการหาผู้สมัครงานที่ตรงใจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด ไม่ว่าจะเรื่องประสบการณ์ที่ตรงกับเนื้องาน ทัศนคติที่ไปด้วยกันได้ หรือเงินเดือนที่จ่ายได้ จะได้มาแบบครบองค์ประกอบจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างยากมาก ทำให้บริษัทไม่สามารถเลือกหรือตัดใครออกได้ทันทีทันใด เพราะยังต้องเรียกผู้สมัครงานคนอื่นมาสัมภาษณ์เพิ่มเพื่อเปรียบเทียบกันอีก ดังนั้น HR ถึงยังไม่สามารถแจ้งผลกับเราได้

ความต้องการคนของบางแผนกไม่แน่นอน

ในบริษัทนึงจะแบ่งออกเป็นหลายแผนก ซึ่งแต่ละแผนกอาจจะมีความต้องการคนที่แตกต่างกันไป บางแผนกอาจจะมีปริมาณงานที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่แน่นอน ตอนแรกงานเยอะจนคิดว่าจำเป็นต้องรับคนเพิ่ม ผ่านไปสักพักก็มีแนวโน้มว่างานจะน้อยลง เลยกลับมาแจ้ง HR ว่าไม่ต้องรับคนเพิ่มแล้ว แต่สุดท้ายกลับเห็นว่างานน่าจะกลับมาเยอะเหมือนเก่า เลยบอก HR อีกครั้งว่าต้องหาคนเพิ่ม บางที HR อาจยังแจ้งผลแบบฟันธงไม่ได้เพราะต้องรอคำตอบจากทางแผนกเช่นเดียวกัน

HR งานยุ่งมากจนลืม

คนทำงานมักมีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา HR เองก็เป็นเหมือนกับคนทำงานคนอื่น ๆ ในบริษัท หรือบางทีงานของฝ่ายสรรหาบุคลากรอาจจะงานยุ่งมากกว่าบางตำแหน่งด้วยซ้ำไป เพราะวัน ๆ หนึ่งต้องสัมภาษณ์คนมากหน้าหลายตา แถมกองเรซูเม่ที่ถูกส่งมาอีกมากมายเป็นภูเขา อีกทั้งงานเอกสารอนุมัติอื่น ๆ ที่มีมากมาย ยิ่งถ้าเป็น HR ในบริษัทที่ไม่ใหญ่มาก ก็อาจจะต้องทำเรื่องเงินเดือนควบไปด้วย ดังนั้นที่ HR ไม่สามารถแจ้งผลกับเราได้ทุกคน อาจเพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานต่าง ๆ จนไม่ได้โทรหรือส่งอีเมลบอกคนที่ไม่ผ่านสัมภาษณ์ครบทุกคน

ไม่อยากตัดความหวัง หรือทำให้เสียความรู้สึก

ถ้าเราผ่านสัมภาษณ์งาน ส่วนมากทาง HR จะรีบแจ้งให้เร็วที่สุด เพราะเขาเองก็อยากได้คน และกลัวว่าเราจะไปตอบรับทำงานกับบริษัทอื่นก่อน แต่ที่ HR บางคนไม่อยากแจ้งผลสัมภาษณ์ว่าเราไม่ได้งาน เป็นเพราะไม่อยากตัดความหวัง หรือกลัวจะทำให้เราเสียความรู้สึก เนื่องจากมีหลายครั้งที่มีการเลือกผู้สมัครคนหนึ่งไว้เป็นตัวจริง และเลือกผู้สมัครอื่นไว้เผื่อเป็นตัวสำรอง

ลองจินตนาการดูว่าถ้า HR โทรมาแจ้งก่อนว่าเราเป็นตัวสำรอง จากนั้นคนที่เป็นตัวจริงเปลี่ยนใจไม่มาร่วมงานทำให้เราได้เลื่อนขึ้นมาเป็นตัวจริงแทน แล้ว HR มาบอกเราว่าคนแรกที่เขาเลือกไว้ไม่เอา ตอนนี้คุณถูกเลือกมาแทนนะ เราจะรู้สึกยังไง บางคนอาจไม่คิดอะไร แต่ก็คงมีคนที่เสียความรู้สึกอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้น HR จึงอาจคิดว่าน่าจะดีกว่าถ้ายังไม่แจ้งผลเราตั้งแต่แรก เพราะไม่มีใครรู้อนาคตว่าบางทีเราอาจจะถูกเรียกกลับมาพิจารณาใหม่ รวมถึงเวลาติดต่อไปภายหลังเราจะได้ไม่เสียความรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ตัวสำรอง

นโยบายของบริษัท และความไม่เป็นมืออาชีพของ HR

การแจ้งผลสัมภาษณ์งานเป็นเรื่องที่ไม่ตายตัว ไม่มีข้อบังคับชัดเจนว่าจะต้องแจ้งคนสัมภาษณ์งานทุกคน ดังนั้นก็จะมีทั้งบริษัทที่แจ้งผู้สัมภาษณ์ทุกคนทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน และบริษัทที่เลือกแจ้งเฉพาะคนที่ผ่านการสัมภาษณ์เท่านั้น หรือบางบริษัท หลังสัมภาษณ์งานเสร็จเขาจะแจ้งเราก่อนเลยว่าหากผ่านการสัมภาษณ์จะติดต่อไปภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเหมือนเป็นสิ่งที่บอกเราว่าถ้าไม่ติดต่อกลับคือเราไม่ผ่านการสัมภาษณ์นั่นเอง

ในกรณีคนที่ HR แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปเพื่อบอกผลสัมภาษณ์ไม่ว่าเราจะผ่านหรือไม่ผ่านสัมภาษณ์ หรือเราแจ้งเขาไว้ว่าให้แจ้งผลสัมภาษณ์กับเราในทุกกรณี แต่สุดท้ายเขากลับไม่ติดต่อกลับมาตามที่คุยกันเอาไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่างานยุ่งจนลืมหรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นหมายความว่าคนสัมภาษณ์ที่เราเจออาจไม่มีความเป็นมืออาชีพพอ

HR ไม่แจ้งผลสัมภาษณ์ ทำยังไงดี?

แทนที่จะรอฟังผลจาก HR อย่างเดียว ให้โทรไปสอบถามผลการสัมภาษณ์เองโดยตรง เพราะการโทรไปสอบถามผลด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด และยังแสดงให้เห็นว่าเรากระตือรือร้นอยากทำงานที่นี่ด้วย แต่ควรโทรไปหลังจากระยะเวลาที่ HR เคยบอกไว้ว่าจะแจ้งผลกลับมา ถ้า HR ไม่เคยบอกก็ให้โทรไปติดตามผลหลังจากวันที่สัมภาษณ์ไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ ที่ต้องทิ้งระยะเวลาไว้บ้างก็เพราะขั้นตอนการคัดเลือกคนของบริษัทนั้นต้องใช้เวลา บางบริษัทมีขั้นตอนการรับคนที่ยุ่งยากและมีหลายขั้นตอน กว่าจะรับใครสักคนเข้าทำงานอาจต้องขออนุมัติจากผู้มีอำนาจหรือผู้บริหารหลายคน ซึ่งพวกเขาก็มักจะมีงานยุ่งกันทั้งนั้น กว่าแต่ละคนจะอนุมัติก็ผ่านไปหลายวัน หลังจากอนุมัติเสร็จก็อาจจะต้องส่งเรื่องไปลำดับต่อไปอีก กว่าจะถึงขั้นสุดท้ายก็อาจจะใช้เวลานานเป็นเดือนก็ได้

เมื่อโทรไปแล้วก็ควรแจ้งเขาว่าเราชื่ออะไร สัมภาษณ์งานตำแหน่งอะไร วันไหน แสดงถึงความต้องการทำงานกับบริษัทนั้นให้มากที่สุด ถ้าเขาตอบว่ายังไม่ได้พิจารณา ก็ถามต่อว่าต้องรออีกประมาณกี่วันถึงทราบผล เมื่อถึงกำหนดวันตามที่แจ้ง ถ้าเขาไม่ติตต่อมาแล้วเราไม่สบายใจก็ให้ติตต่อไปถามอีกครั้ง แต่หากเขายังแจ้งว่าจะติดต่อกลับอีกซ้ำ ๆ ก็ควรเผื่อใจแล้วหาที่ใหม่ไว้เลย

สุดท้ายสิ่งที่อยากแนะนำคือถึงใจจะอยากทำงานกับบริษัทที่ไปสัมภาษณ์มากแค่ไหน แต่ต้องเปิดโอกาสให้ตัวเองไปสัมภาษณ์ที่อื่นด้วย ไม่อยากให้เอาเวลามาเฝ้ารอบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพราะใครจะไปรู้ว่าบางทีเราอาจจะเจอสิ่งที่ดีกว่าก็ได้ หรือบางคนพอรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้งาน ก็รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ แต่อย่าลืมว่ายังมีบริษัทในเว็บไซต์หางานอีกมากมายที่มีงานรอเราอยู่ ดังนั้นให้ลองไปฝากประวัติกับเว็บไซต์หางาน เผื่อมีบริษัทมาค้นเจอประวัติเราแล้วสนใจ เราก็อาจจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานได้ อย่าหมดกำลังใจ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ใช่ เราจะเจองานที่ใช่ ในบริษัทที่เหมาะกับเราอย่างแน่นอน

ฝากประวัติกับ JobThai เพื่อเพิ่มโอกาสได้งาน ที่นี่

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก