ใครที่ใช้คอนแทคเลนส์แล้วไม่เคยใช้ หรือใช้น้ำตาเทียมน้อยครั้งมาก ๆ ส่งผลอย่างไรต่อดวงตาของเราบ้าง ?
การใช้คอนแทคเลนส์ในยุคปัจจุบันไม่ใช่เพียงแต่มอบประสบการณ์ในการมองเห็นให้สะดวกสบายชัดเจนมากยิ่งขึ้นสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องค่าสายตาไม่ปกติเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคอนแทคเลนส์สีที่เพิ่มสีสันประกายสวยงามให้กับทุกคนมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคอนแทคเลนส์ในปัจจุบันจึงมีให้เลือกมากมาย ทั้งแบบใส แบบสี รายเดือน รายปี และรายวันเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
นอกจากน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ และตลับใส่คอนแทคเลนส์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จักษุแพทย์แนะนำให้ใช้ แต่อาจจะไม่ค่อยมีคนใช้เป็นประจำสักเท่าไร คือ น้ำตาเทียม หากใช้คอนแทคเลนส์ แต่ไม่ใช้น้ำตาเทียม จะเป็นอย่างไร ? อันตรายหรือไม่ ?
น้ำตาเทียม สำคัญอย่างไร ?
หากสังเกตดวงตาของเราเมื่อมีน้ำตาอยู่ จะรู้สึกว่าดวงตาสดชื่น สบายตา ขยับตา กลอกตาได้ง่าย น้ำตาเทียมจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตานั่นเอง
แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าเราไม่ใช้น้ำตาเทียม ?
ข้อมูลจากโรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ระบุว่า การใส่คอนแทคเลนส์ โดยเฉพาะคนที่ใส่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อาจมีปัญหา “ตาแห้ง” ได้ เนื่องจากคอนแทคเลนส์จะดึงน้ำที่ตาเพื่อทำให้ตัวคอนแทคเลนส์เองสามารถคงความใสอยู่ได้ ดังนั้นหากใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ จักษุแพทย์จึงแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ลดปัญหาตาแห้งที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างวัน
หากมีอาการตาแห้ง แต่ไม่ใช้น้ำตาเทียม อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาในภายหลังได้ เช่น แสบตา เคืองตา มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียวเป็นเส้น หากระคายเคืองมากอาจมีน้ำตาไหลมากจนล้น เพราะร่างกายพยายามขับน้ำตาออกมาแก้ปัญหาตาแห้ง เมื่อผ่านไปสักพักกลับไปตาแห้งอีก น้ำตาก็ไหลอีก สลับไปมาเรื่อย ๆ จนสร้างความทรมาน และเสียบุคลิกภาพ รวมไปถึงเสี่ยงต่อการอักเสบได้
ตาไม่แห้ง ไม่ใช้น้ำตาเทียมได้หรือไม่ ?
จักษุแพทย์มักแนะนำว่า ขอให้คิดว่าน้ำตาเทียมเป็นเหมือนโลชั่นทาผิว อย่ารอให้ผิวแห้งแล้วค่อยใช้ ควรใช้น้ำตาเทียม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาสุขภาพดีอยู่เสมอ ดีกว่าการใช้น้ำตาเทียมเมื่อมีอาการตาแห้งเกิดขึ้นแล้ว สามารถใช้น้ำตาเทียมได้ทุกครั้งเมื่อรู้สึกว่าตาแห้ง หรือหยอดตาระหว่างวัน วันละ 1-2 ครั้ง ในกรณีที่ไม่ได้มีอาการตาแห้งมากนัก
ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ จำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมหรือไม่ ?
อย่างที่กล่าวไปว่า น้ำตาเทียม มีไว้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของดวงตา ไม่จำเป็นว่าคุณต้องใส่คอนแทคเลนส์ ก็สามารถบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นของดวงตาได้ในทุกวัน เสมือนทาโลชั่นให้กับผิวของเราทุกวันนั่นเอง
วิธีลดปัญหาตาแห้ง
- ไม่ใส่คอนแทคเลนส์เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน กลับถึงบ้านถอดทันที
- พยายามลดจำนวนวันที่ใช้คอนแทคเลนส์ให้ได้มากที่สุด เช่น เสาร์อาทิตย์อาจเปลี่ยนไปใช้แว่นสายตาแทน
- ใช้น้ำตาเทียมให้ติดเป็นนิสัย วันละ 1-2 ครั้ง หรือทุกครั้งที่มีอาการตาแห้ง เคืองตา
- หากมีอาการตาแห้งมาก เคืองตามาก ควรหยุดใช้คอนแทคเลนส์ แล้วปรึกษาจักษุแพทย์
- อย่าใช้น้ำตาเทียมที่หมดอายุ เพราะน้ำตาเทียมมักมีวันหมดอายุค่อนข้างเร็ว (เพื่อความสะอาด ปลอดภัยจากการติดเชื้อ) เมื่อซื้อมาใช้แล้วควรใช้ติดต่อกันจนหมดก่อนเวลาหมดอายุ ถ้าหมดอายุแล้วควรหยุดใช้แล้วซื้อใช้ใหม่
“คอนแทคเลนส์” (Contact Lens) มีความสำคัญแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 ของบางคนเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ที่มีสายตาสั้น ถ้าไม่ใส่แว่น ก็คงต้องใส่คอนแทคเลนส์กันทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่ามีข้อควรระวังอะไรบ้าง
ประเภทของคอนแทคเลนส์ แบ่งตามวัสดุที่ใช้
- คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง ผลิตด้วย PMMA ซึ่งเป็นคอนแทคเลนส์รุ่นแรกๆของโลก คอนแทคเลนส์ชนิดนี้มีข้อเสียที่ไม่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่าน ปัจจุบันจึงเลิกใช้ไปแล้ว เพราะในปัจจุบันมีการคิดค้นวัสดุที่ใช้ผลิตคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งที่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี ซึ่งส่งผลให้ใช้งานได้ดีกว่า
- คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งที่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี (Rigid Gas Permeable Contact Lens, RGP) แน่นอนว่าพัฒนาต่อมาจากคอนเทคเลนส์ชนิดแข็งในยุคแรกๆ แต่คอนแทคเลนส์ชนิดนี้ก็ยังมีข้อเสียคือผู้ใส่รู้สึกระคายเคืองตามากกว่าการใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มในช่วงแรก แต่มีคุณสมบัติบางอย่างที่ดีกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม เช่น ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี มีความคมชัดในการมองเห็นดีกว่า ทำให้ตาแห้งน้อยกว่า และสามารถแก้ไขปัญหากระจกตาบิดเบี้ยวได้ดีกว่า ซึ่งมีอายุการใช้งานที่นานกว่าและประหยัดกว่าในระยะยาว
- คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มไฮโดรเจล เป็นวัสดุที่ใช้ผลิตคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
- คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจล เป็นวัสดุใหม่ล่าสุดสำหรับคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม มีคุณสมบัติที่ดีคือยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านสูงกว่า 97% ส่งผลให้ดีต่อสุขภาพตามากกว่า
ประเภทของคอนแทคเลนส์ แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
- แบบใส่เฉพาะตอนตื่น และถอดก่อนนอน ผู้ใส่จะต้องถอดเลนส์ก่อนนอนเสมอ ซึ่งเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- แบบใส่ต่อเนื่องนาน 6 วันโดยไม่ต้องถอด การใส่เลนส์นอนสามารถทำได้กับเลนส์บางรุ่นเท่านั้นและทำให้มีความเสี่ยงต่อดวงตาติดเชื้อสูงขึ้นกว่าการถอดเลนส์ก่อนนอนอย่างมาก
- แบบใส่ต่อเนื่องนาน 30 วันโดยไม่ต้องถอด ข้อเสียคือมีความเสี่ยงต่อดวงตาติดเชื้อสูงขึ้นกว่าการถอดเลนส์ก่อนนอนอย่างมาก
ด้วยความที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกใส่ คอนแทคเลนส์ แบบใส่เฉพาะตอนตื่น และถอดก่อนนอน เพราะฉะนั้น บทความนี้มี 4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับตอนแทคเลนส์ชนิดนี้มากฝากกันค่ะ
1. ความสะอาด สำคัญที่สุด
ด้วยควมที่คอนแทคเลนส์ต้องสัมผัสกับดวงตาโดยตรง ความสะอาดในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มเปิดใช้งานจนถึงการล้างทำความสะอาดเมื่อใส่เสร็จนั้นสำคัญอย่างมาก เมื่อซื้อคอนแทคเลนส์มาครั้งแรก คอนแทคเลนส์จะถูกแช่มาในน้ำยาคนละชนิดกับน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ปกติ ดังนั้น หลังจากที่นำคอนแทคเลนส์ออกมาจากบรรจุภัณฑ์ครั้งแรก ต้องนำคอนแทคเลนส์มาล้างทำความสะอาดก่อน และแช่ในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนนำมาใช้งานครั้งแรก ส่วนการใช้งานในครั้งต่อๆไปก็จำเป็นต้องล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ทุกครั้งก่อนใช้งานทุกครั้งด้วย
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งด้วยสบู่ที่อ่อนโยน
- เช็ดมือให้แห้งสนิทก่อนใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ เพื่อไม่ให้มีน้ำเปล่าไปสัมผัสกับเลนส์
- ทำความสะอาดตลับใส่คอนแทคเลนส์ทุกวันและรอให้แห้งก่อนนำไปใช้ใส่เลนส์
- เปลี่ยนตลับเลนส์ใหม่ทุกๆ 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
2. วิธีสังเกต คอนแทคเลนส์ ก่อนใส่
การใส่คอนแทคเลนส์ จะต้องใส่ให้ถูกด้านเพื่อให้ความโค้งของคอนแทคเลนส์รับกับดวงตา แต่การจะใส่ให้ถูกด้านนั้น สำหรับคอนแทคเลนส์สีอาจสังเกตได้จากลายของคอนแทคเลนส์ แต่สำหรับของคอนแทคเลนส์ใส จะสังเกตจากสีของคอนเทคเลนส์ไม่ได้ แต่ก็ยังมีวิธีในการสังเกตจากรูปร่างลักษณะของเลนส์แทนได้
ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ทุกครั้ง ควรสังเกตว่าคอนแทคเลนส์อยู่ในด้านที่ถูกต้องตามภาพหรือไม่ แค่นี้ก็ทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ได้อย่างถูกต้อง ไม่ระคายเคืองดวงตา
อีกข้อสำคัญก่อนจะสวมใส่คอนแทคเลนส์ ควรตรวจสภาพความพร้อมของดวงตาก่อนว่าดวงตาของคุณอยู่ในสภาพปกติ พร้อมที่จะใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ เช่น หากมีอาการตาแดง ตาแห้งจนรู้สึกแสบตา ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์และปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาดวงตาให้เป็นปกติก่อน
3. อายุการใช้งานของ คอนแทคเลนส์
ในกรณีที่ใช้คอนแทคเลนส์ที่มีอายุการใช้งานสำหรับ 1 เดือน ถึงแม้หลังจากเปิดใช้งานไม่ได้ใส่ทุกวัน แต่ให้เริ่มนับอายุการใช้งานครบรอบ 1 เดือน หลังจากวันแรกที่นำคอนแทคเลนส์ออกจากบรรจุภัณฑ์ หลังจากครบรอบ 1 เดือนแล้ว ควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์คู่ใหม่ทันที
ส่วนคอนแทคเลนส์รายวัน เป็นคอนแทคเลนส์แบบใช้แล้วทิ้ง โดยมีอายุการใช้งานที่เหมาะสมอยู่ที่คั้งละไม่เกิน 8 ชั่วโมง ดังนั้น ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์แบบรายวันหรือรายเดือนก็ตาม ควรใส่คอนแทคเลนส์ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดี และไม่เป็นการรบกวนดวงตามากจนเกินไป
4. คอนแทคเลนส์ ไม่ถูกกับ น้ำเปล่า
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถใช้น้ำเปล่าชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากสิ่งต่างๆได้แทบทุกชนิด แต่ไม่ใช่สำหรับคอนแทคเลนส์นะคะ แน่นอนว่าทั้งก่อนและหลังการใส่คอนแทคเลนส์ทุกครั้ง และต้องล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ก่อนทุกครั้ง โดยจำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้อย่างอื่นแทน และไม่ควรให้คอนแทคเลนส์สัมผัสกับน้ำเปล่า เพราะน้ำเปล่าอาจมีสิ่งสกปรกปะปนและอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมกับการสัมผัสดวงตา ดังนั้น หลังการล้างมือรือล้างตลับคอนแทคเลนส์ก็ควรรอหรือเช็ดให้แห้งก่อนที่จะนำมือไปสัมผัสกับคอนแทคเลนส์
“ใช้สายตามาก บำรุงไม่ยากด้วย 4 พลังธรรมชาติ”
- Astaxanthin (สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง) ฟื้นฟูภาวะเสื่อมของจอตา กระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยในจอตา
- Lutein (สารสกัดจากลูทีน) ช่วยกรองแสงสีฟ้า ปกป้องดวงตาจากแสงและอนุมูลอิสระ
- Bilberry (สารสกัดจากบิลเบอร์รี่) ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืด
- Vitamin E (วิตามินอี) คืนความชุ่มชื้นให้ดวงตา
มีสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิดที่สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ดี และยังช่วยลดอาการตาแห้งได้อีกด้วย เมื่อดวงตามีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ใส่คอนแทคเลนส์ได้ดี ไม่มีอาการระคายเคือง
มีผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคตาที่สัมพันธ์กับอายุ (Age-related eye diseases study) ของสถาบันจักษุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา พบว่าการรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, เบต้าแคโรทีน, ลูทีน และซีแซนทีน ในปริมาณสูงเพียงพอ สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
คลิ้กเพื่อดูผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา
ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่ //www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm หรือ //lin.ee/iu3gZAE