ปัจจุบันหากพูดถึงเรื่อง แบตเตอรี่ Notebook เรามักจะพบว่าแบตเตอรี่ของเรานั้นจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ แบตเตอรี่ที่เป็นชนิดของ Lithium Ion (Li-Ion) และ Li-Polymer นั่นเอง ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดดังกล่าวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา Memory Effect ของแบตเตอรี่รุ่นเก่าอย่าง Ni-Cd และรุ่น NiMH นั่นเอง
ซึ่งหากถามว่าเราควรชาร์ตแบตเตอรี่แบบไหนดีแล้วล่ะก็ คำตอบก็คือ เพื่อนๆนั้นสามารถชาร์ตแบตเตอรี่ได้อย่างไรก็ได้ เพราะเงื่อนไขการเสื่อมของแบตเตอรี่ประเภท Lithium Ion (Li-Ion) และ Li-Polymer นั้นมีปัจจัยส่วนน้อยที่จะเสื่อมเพราะมาจากการใช้งานของผู้ใช้นั่นเองครับ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราควรรู้ไว้และเป็นเทคนิคในการชาร์ตนั้นก็มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง ดังต่อไปนี้
ควรชาร์ตแบตเตอรี่เมื่อไหร่
ควรชาร์จแบตเตอรี่ ณ ระดับพลังงาน ที่ 35-60 % จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดครับ
หากจะไม่ได้มีการใช้โน้ตบุ๊คเป็นระยะเวลานาน ต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องไหม
การถอดและเก็บแบตเตอรี่นั้นควรให้แบตเตอรี่มีความจุ 40% และควรเก็บในสถานที่ที่มีอากาศเย็น และไม่มีความชื้น (ตัวเลข 40% นี้เป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดจากการทดลองในห้องแล็ป) ในทางกลับกัน กรณีที่มีการใช้งานโน้ตบุ๊ค การชาร์จแบตเตอรี่ทุกครั้งควรชาร์จให้เต็มความจุของแบตเตอรี่
ถ้าเสียบปลั๊กใช้งานควรจะใส่หรือจะถอดแบตเตอรี่ดี
ภายในแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คนั้นจะมีวงจรไว้สำหรับควบคุมการชาร์จ โดยลักษณะของวงจรชาร์จแบตเตอรี่ที่พบในโน้ตบุ๊คจะมีอยู่ 2 ลักษณะคือ
แบบที่ 1 ทำการชาร์จตลอดเวลาแม้ระดับความจุของแบตเตอรี่จะสูงกว่า 90% วงจรแบบนี้จะพบได้ในโน้ตบุ๊ค รุ่นเก่าๆ
แบบที่ 2 วงจรชาร์จแบตเตอรี่จะทำงานเมื่อระดับความจุของแบตเตอรี่ต่ำกว่า 90-95% (แล้วแต่ยี่ห้อ)
โดยโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นจะใช้วงจรแบบที่ 2 นี้ เกือบทั้งหมด ดังนั้นการเสียบปลั๊กเล่นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถอดแบตออกและจะไม่มีผลกระทบใดๆต่อ แบตเตอรี่เพราะวงจรการชาร์จของแบตเตอรี่ยังไม่ได้ทำงาน นอกจากนี้แล้วยังมีข้อดีข้อเสียในการเสียบปลั๊กเล่นและการไม่เสียบปลั๊กเล่นต่างกันออกไปดังนี้
การเสียบปลั๊กเล่นแบบใส่แบตเตอรี่
ข้อดี : มีแบตเตอรี่ไว้สำรองให้เครื่องไม่ดับ ไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายของอุปกรณ์กรณีหยุดการทำงานกระทันหัน
ข้อเสีย : สูญเสียจำนวนรอบการชาร์ต
การเสียบปลั๊กเล่นแบบถอดแบตเตอรี่
ข้อดี : รักษาจำนวนรอบชาร์ตของแบตเตอรี่
ข้อเสีย : มีความเสี่ยงอุปกรณ์พังเนื่องจากการหยุดการทำงานของอุปกรณ์กระทันหันกรณีไฟดับ
ซึ่งสรุปแล้ว Admin แนะนำให้เสียบแบตเตอรี่เล่นดีกว่าครับ เพราะถ้าแบตมันเสื่อมก็เปลี่ยนเอาได้ แต่หากคอมพังเพราะไฟดับนี่เรื่องใหญ่อย่างแน่นอน เพราะเราอาจจะเสียเงินค่าซ่อมเยอะกว่าค่าแบตเตอรี่อันใหม่ก็เป็นได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง (Related Posts)
เตือนกันไว้! ชาร์จแบตฯ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทิ้งไว้ในห้องพักรีสอร์ท เกิดระเบิดไฟไหม้เตียงนอน ซากแบตฯกระจัดกระจายเกลื่อน ส่วนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คกระเด็นไปอยู่อีกมุมหนึ่งของเตียง และฝ้าเพดานถูกควันไฟเผาเสียหายครึ่งห้อง เจ้าของห้องเผยชาร์จแบตฯทิ้งไว้แล้วออกไปซื้อของตามปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นไฟไหม้ แต่หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 8 ก.ค. ร.ต.ต.ปรเมศฐ์ เธียรอุมา ร้อยเวร สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิง ไหม้ในรีสอร์ท เดอะ คอทเทจ แอท สมุย ตั้งอยู่บริเวณหาดละไม หมู่ 3 ต.มะเร็ต จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันพุ่งออกจากห้องพักหมายเลข A6 เจ้าหน้าที่จึงทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลา 5 นาที เพลิงจึงสงบลง จากการตรวจสอบในห้องพัก พบบนเตียงนอนมีรอยไฟไหม้เสียหาย โดยมีซากแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกระจัดกระจายบนที่นอน ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเด็นไปอยู่อีกมุมหนึ่งของเตียง และฝ้าเพดานถูกควันไฟเผาเสียหายครึ่งห้อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 แสนบาท
สอบสวนนางวรรณธิรา มุสิกา พนักงานรีเซฟชั่นของรีสอร์ท กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุนายซีริลเจนเฮนรี่ กาล์ลี่ ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ทและพักอยู่ในห้องดังกล่าว ได้ออกจากรีสอร์ทไปซื้อของที่ห้างโลตัสเกาะสมุยประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด และกลิ่นไหม้พร้อมกลุ่มควันไฟโชยออกมาจากห้องพัก จึงรีบแจ้งให้ตำรวจทราบ
ด้านนายซีริลเจนเฮนรี่กล่าวว่า ตนได้ชาร์จแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กวางไว้บนที่นอนก่อนออกไปซื้อของ จากนั้นไม่นานพนักงานรีสอร์ทได้โทรศัพท์ไปบอกว่าไฟไหม้ห้องพักของตนจึงรีบกลับมาดู และรู้สึกตกใจเพราะตนชาร์จแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทิ้งไว้เป็นประจำ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นไฟไหม้ได้ แต่หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังมากขึ้น.
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
PS. พระเจ้าไม่ได้สร้างให้เรามีตาด้านหลัง เพราะว่าเราจำเป็นต้องมองแต่ปัจจุบันและอนาคตเท่านั้น