วันก่อนพี่ทุยไปเจอเพื่อนคนนึงเค้ามีปัญหาเรื่อง “หนี้สิน” ก็เลยจะไปช่วยจัดการให้ซะโหน่ย แต่แน่นอนว่าพี่ทุยไม่ได้ช่วยแก้ด้วยให้ยืมเงินพี่ทุยเองแน่นอน ต้องบอกเลยว่า “หนี้สิน” ที่ส่วนใหญ่ที่พี่ทุยเจอก็มักจะมาจากการกดเงินสด จากพวก “บัตรเครดิต” บัตรกดเงินสดเนี้ยแหละ หลาย ๆ คนไม่เคยรู้ว่าการกดเงินสดจาก “บัตรกดเงินสด” นั้นโหดร้ายขนาดไหนบัตรกดเงินสดเนี้ย โหดกว่าบัตรเดรดิตมาก ๆ
อย่างแรกเลย..
การใช้บัตรเครดิต ยังมีระยะเวลาผ่อนผัน แล้วแต่ธนาคาร แล้วแต่บัตรที่เราเลือกใช้ โดยทั่วไประยะเวลาผ่อนผันจะอยู่ที่ประมาณ 30-45 วัน แต่บัตรกดเงินสด ไม่มีระยะเวลาผ่อนผันเลยกดเมื่อไหร่คิดดอกเบี้ยทันที !
อย่างที่สอง..
บัตรกดเงินสดดอกเบี้ยสูงกว่าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 28% บัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 20% จุดประสงค์ที่เค้าออกบัตรกดเงินสดมา ก็คือ เพื่อ “เงินฉุกเฉิน” กรณีต่าง ๆ ซึ่งปัญหาอยู่ที่คำว่า “ฉุกเฉิน” นี่แหละ หลาย ๆ คนยังคิดว่า ชีวิตเราเกิด “เรื่องฉุกเฉิน” ขึ้นได้บ่อย ๆ
แต่ตามหลักการวางแผนการเงินแล้ว เรื่องฉุกเฉินมีเพียงเรื่องเดียวก็คือ เราโดน “ไล่ออกจากงาน” หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ “รายได้” เราหยุดลง ขนาดเรื่องฉุกเฉินเรื่องนี้ ยังสามารถวางแผนเตรียมการได้เลย ง่าย ๆ กันไปก็เตรียมเงิน 3-6 เดือน ของค่าใช้จ่ายก็จบแล้ว !!
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่หลาย ๆ คนเข้าใจ เช่น ป่วย อุบัติเหตุ ค่าเรียนลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ พวกนี้สำหรับพี่ทุยคิดว่าไม่ใช่ ” เรื่องฉุกเฉิน” เลย แต่เกิดจากที่พวกเราไม่วางแผนต่างหาก!! ลองคิดดูว่าเราฝากธนาคารได้ดอกเบีย 0.1-1% แต่เราต้องมาเสียดอกเบี้ย 28% !! แค่นี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะกดเงินออกมาใช้แล้วล่ะ
บัตรเครดิต vs บัตรกดเงินสด ปิดหนี้ก้อนไหนก่อนดี?
ใคร ๆ ก็คงไม่อยากเป็นหนี้นะครับ แต่เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วโดยเฉพาะหนี้ในระบบ ถูกกฎหมาย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอทั้งหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้บัตรเครดิต ก็คงจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าหากวันหนึ่งต้องการปิดหนี้ จะเลือกปิดหนี้ธนาคารรูปแบบไหนก่อนดี เพราะเอาเข้าจริงก็สมควรต้องปิดให้จบ ๆ ไปทั้งหมด แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ทำให้เลือกปิดหนี้ได้อย่างเดียวน่ะซิ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ต่อตนเองขั้นสุด วันนี้เรามีข้อมูลมาบอกต่อครับ
หนี้บัตรกดเงินสดVS หนี้บัตรเครดิต
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าสินเชื่อส่วนบุคคล กับบัตรเครดิตนั้น เรียกว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งคู่ แต่จะมีข้อแตกต่างกันตรงวิธีการใช้ และดอกเบี้ยครับ
1. บัตรกดเงินสด
ต้องบอกก่อนว่าบัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อที่ทางธนาคารจะออกบัตรที่มีวงเงินพร้อมใช้ให้กดเงินออกมาได้ ถ้าไม่กดเงินออกมาใช้ธนาคารก็จะไม่คิดดอกเบี้ยเราครับมีใช้จ่ายเมื่อถึงคราวฉุกเฉินต้องใช้เงินด่วนทั้ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอม ค่างวดบ้าน/งวดรถ หรือแม้แต่ใช้จ่ายจิปาถะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายร่วมกับเงินต้น โดยทั่วไปธนาคารจะกำหนดต่อปีไม่เกิน 25% (แต่เรื่องดอกเบี้ยแต่ละธนาคารก็จะมีโปรลดดอกเบี้ยออกมาจะเห็นจากโฆษณาที่มีเริ่มตั้งแต่ 9% เลยครับ)
2. หนี้บัตรเครดิต
มาต่อกันที่หนี้บัตรเครดิตบ้าง โดยจะเป็นสินเชื่อที่ถูกใจเหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่มักจะชอบซื้อสินค้า/บริการ โดยการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าต่างๆ โดยปกติแล้วดอกเบี้ยจะไม่เกิน 16% ต่อปี ครับ แต่บัตรเครดิตก็สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นการนำบัตรเครดิตไปใช้ด้วยการกดเงินออกมาก็จะเสียดอกเบี้ยเท่ากับบัตรกดเงินสดเลย
เลือกปิดรูปแบบไหนก่อนดีนะ?
จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบกันแล้วสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทบัตรกดเงินสดนั้นจะมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรเครดิต ถ้าหากมีเงินก้อนที่สามารถปิดได้ เราก็จะแนะนำให้นำไปปิดที่บัตรกดเงินสดก่อนครับ แต่จริงๆ คำแนะนำนี้ก็เป็นเพียงคำแนะนำเบื่องต้นที่เราอิงจากแนวคิดที่ว่าสินเชื่อไหนดอกเบี้ยสูงก็ให้ปิดสินเชื่อนั้นก่อนเพื่อจะทำให้เราเสียดอกเบี้ยน้อยลง
แต่ในความเป็นจริงเรายังมีอีกหลายปัจจัยที่จะต้องนำมาคิดประกอบด้วย เช่น ยอดผ่อนต่อเดือน ยอดวงเงินหนี้ที่เหลืออยู่ ฯลฯ ที่จะต้องนำมาพิจารณาด้วย
หากใครที่มีปัญหาภาระหนี้ที่สูง เช่น มีบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดหลายใบ ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนสูง จนทำให้เราเริ่มขนาดสภาพคล่อง รายได้ที่มีเอาไปจ่ายขั้นต่ำของแต่ละบัตรจนทำให้เงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนวนลูปแบบนี้ เราอยากแนะนำให้ดูสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจะเป็นการที่เราเอาหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่หลาย ๆ ใบมารวมแล้วรับเงินก้อนจากธนาคารหรือสถาบันการเงินไปปิด เพื่อที่เราจะได้มาผ่อนกับที่เดียว ทำให้เราไม่ต้องไปแยกจ่ายขั้นต่ำทุกบัตร แล้วมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาว ก็ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนเบาลงครับ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้เราผ่อนต่อเดือนน้อย มีสภาพคล่อง แล้วไม่ทำให้ประวัติทางการเงินเราเสียด้วยครับ เรื่องประวัติทางการเงินนี้ต้องรักษาไว้ดี ๆ เลย
เผยแพร่เมื่อวันที่ 04 ก.พ. 2564
ข้อแตกต่างระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
ทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมาให้อยู่ในรูปแบบของบัตรเช่นกัน หลายๆคนอาจสงสัยว่าบัตรทั้ง 2 ประเภทนี้จะต่างกันอย่างไร ซึ่ง Tadoo ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดไว้ในนี้แล้ว มาดูกันเลย
จุดเด่น
- สามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก
- สามารถผ่อนสินค้าและบริการกับร้านค้าที่บริการได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นก้อน
- สามารถใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั่วโลก เฉพาะประเทศที่รองรับประเภทบัตรที่เราถืออยู่เท่านั้น
- สามารถถอนเงินสดจากตู้ ATM ของธนาคารใดก็ได้ ได้เงินทันที
- ฐานเงินเดือนในการสมัครไม่สูงมาก ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทก็สมัครได้ง่ายๆ
- ให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานกว่าบัตรเครดิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป
บัตรเครดิตคืออะไร
บัตรเครดิตเป็นบัตรที่ธนาคารพาณิชย์หรือผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ออกให้แก่ผู้ถือบัตร เพื่อใช้แทนเงินสด ในการชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น อาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน ค่าน้ำมัน จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น ซึ่งทางธนาคารอนุมัติวงเงินในบัตรเครดิตให้สูงสุดประมาณ 3 เท่าจากเงินเดือนปัจจุบัน คุณยังสามารถใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าบริการอื่นๆได้ เช่น จ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการให้แก่ผู้ถือบัตร และเพื่อลดการพกพาเงินสดจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญหาย บัตรเครดิตจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยอยู่ที่ 45-55 วัน คุณสามารถจ่ายช้ากว่าวันที่กำหนดชำระในใบแจ้งยอดได้ 2-3 วันทำการ โดยที่ไม่คิดดอกเบี้ยและค่าปรับล่าช้า โดยที่บัญชีของเรายังคงมีสถานะปกติด้วย
ข้อดีของบัตรเครดิต
คนส่วนใหญ่ใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของบัตรเครดิตมีดังนี้
– สามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยในการชำระเงินมากกว่า
– สามารถผ่อนสินค้าและบริการกับร้านค้าที่บริการได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นก้อน สะดวกและรวดเร็ว
ได้รับสินค้าและบริการในทันที แล้วค่อยไปชำระทีหลังได้
– สามารถใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั่วโลก เฉพาะประเทศที่รองรับประเภทบัตรที่เราถืออยู่เท่านั้น ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศหรือมีธุระอื่นๆที่ต่างประเทศ ก็สามารถใช้บัตรเครดิตทำธุรกรรมได้เลย สะดวกรวดเร็ว
“บัตรเครดิตคือบัตรที่ธนาคารออกให้เพื่อใช้แทนเงินสดในการชำระสินค้า”
บัตรกดเงินสดคืออะไร
บัตรกดเงินสด คือบัตรที่สถาบันการเงินเจ้าของบัตรพิจารณาสินเชื่อเป็นเงินสด ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบสินเชื่อส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปของบัตร สำหรับดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้นเป็นดอกเบี้ยสินเชื่อที่สูงที่สุด ซึ่งสูงถึง 28% ต่อปี บัตรกดเงินสดนั้นเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบของบัตร โดยต้องกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มเท่านั้น และสามารถนำไปรูดซื้อสินค้าบางอย่างได้เหมือนกับบัตรเครดิต แต่การคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้นจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน เราสามารถใช้บัตรกดเงินสดให้อยู่ในรูปแบบวงเงินหมุนเวียนได้ตลอด เพราะเมื่อชำระยอดเงินคืนไปแล้วก็จะได้วงเงินเดิมคืนมา และสามารถใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง แต่ต้องไปจ่ายคืนให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียดอกเบี้ยสูงนั่นเอง
บัตรกดเงินสด คือบัตรที่ธนาคารออกให้เพื่อถอนเงินสดจากตู้ ATM
ข้อดีของบัตรกดเงินสด
ผู้คนนิยมใช้บัตรกดเงินสดมากขึ้น เพราะว่าสามารถถอนเงินสดได้ ซึ่งข้อดีของบัตรกดเงินสด มีดังนี้
– สามารถถอนเงินสดจากตู้ ATM ของธนาคารใดก็ได้ ได้เงินทันที สามารถนำเงินไปใช้ได้เลย ถ้ากดเงินที่ธนาคารเดียวกันกับบัตรก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
แต่ถ้ากดเงินจากต่างธนาคารก็มีค่าธรรมไม่มาก
– ฐานเงินเดือนในการสมัครไม่สูงมาก ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทก็สมัครได้ง่ายๆ
– ให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานกว่าบัตรเครดิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป
ใช้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินอย่างไรให้คุ้มที่สุด
เมื่อทราบถึงความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าเราจะสามารถใช้งานบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายๆดังนี้
1. ก่อนใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต้องวางแผนล่วงหน้าทุกครั้ง – การวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าก่อนการใช้บัตรเครดิตจะเป็นการบ่มเพาะวินัยทางการเงินที่ดี ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าทุกครั้งเพื่อให้การใช้บัตรเครดิตมีประสิทธิภาพที่สุด โดยไม่หมดไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย เพราะการใช้บัตรเครดิตนั้นเปรียบเสมือนการนำเงินล่วงหน้ามาใช้ก่อน แล้วจึงจ่ายทีหลัง ไม่ใช่ว่ามีวงเงินเท่าไหร่ก็รูดไม่อั้น เพราะนั่นจะทำให้เสียค่าบัตรเครดิตเกินตัวได้
2. ให้มองหาโปรโมชั่นผ่อน 0% เป็นอันดับแรก – เมื่อคุณต้องการซื้อสินค้าบางอย่างที่มีราคาแพงมากๆ จนบางครั้งเราไม่สามารถจ่ายเงินก้อนนั้นในครั้งเดียวได้ หรือสินค้าชิ้นนั้นไม่สามารถผ่อนด้วยเงินสดได้ การมองหาโปรโมชั่นผ่อน 0% เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการซื้อสินค้าชิ้นนั้น ซึ่งคุณไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลยแม้แต่น้อย
3. เมื่อใช้บัตรกดเงินสด ให้รับชำระหนี้อย่างเร็วที่สุด – อย่างปล่อยให้เวลาผ่านไปแล้วค่อยชำระหนี้ เพราะเราจะต้องเสียดอกเบี้ยมหาโหดให้กับธนาคาร เพราะบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน หมายความว่า ถ้าเราชำระเงินช้าเท่าไหร่ ธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุดในการใช้บัตรกดเงินสดก็คือ ให้ใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น และให้รีบชำระอย่างเร็วที่สุด โดยต้องจ่ายให้เต็มจำนวน จะทำให้ประวัติเครดิตของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้
ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
ประเภทของบัตรเครดิต
ติดเครดิตบูโรสามารถสมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่
เพิ่มเติม
การใช้บัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวในวันหยุด
เพิ่มเติม
การใช้คะแนนสะสมบัตรเครดิตให้คุ้มค่า
เพิ่มเติม
ใช้บัตรเครดิตเพื่อการช้อปปิ้งให้คุ้มค่าที่สุด
เพิ่มเติม
คู่มือยอดนิยมสำหรับบัตรกดเงินสด
ใช้บัตรกดเงินสดอย่างไรให้คุ้มที่สุด
เพิ่มเติม
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อสมัครบัตรกดเงินสด
เพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัตรกดเงินสด
เพิ่มเติม
บัตรกดเงินสดมีผลต่อคะแนนเครดิตหรือไม่
เพิ่มเติม