3. อาณาจักรทวารวดี ในพุทธศตวรรษที่ 11-12 มีเมืองสำคัญ 2 เมือง คือ เมืองละโว้ และเมืองนครชัยศรี อยู่บริเวณสองฝั่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และยังมีเมืองโบราณอื่นๆกระจายอยู่ตามลุ่มแม่น้ำอีก เช่น เมืองคูบัว เมืองอู่ทอง เมืองศรีเทพ อาณาจักรทวารวดีเกิดขึ้นหลังจากฟูนันเสื่อมอำนาจ วัฒนธรรมประเพณีคล้ายกับอาณาจักรฟูนัน
เป็นลักษณะเมืองโบราณที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบเมืองเป็นรูปวงกลมหรือวงรี ประมาณ ๑-๓ ชั้น แต่ละเมืองจะมีกษัตริย์ปกครองตนเอง ชุมชนทวารวดีเจริญรุ่งเรืองมาก
4. อาณาจักรละโว้ แต่เดิมสันนิษฐานว่าเป็นอาณาจักรของขอม แต่จากหลักฐานในปัจจุบัน น่าเชื่อว่าเป็นอาณาจักรโบราณของไทย ลพบุรีหรือละโว้อาจเป็นถิ่นกำเนิดของพระเจ้าอู่ทอง ผู้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ละโว้ตกเป็นเมืองขึ้นของขอมในช่วงที่ขอมเจริญรุ่งเรือง วัฒนธรรมคล้ายขอม มีอายุในพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๘ พร้อมๆ กับอาณาจักรทวารวดีและศรีวิชัย มีพัฒนาการต่อเนื่องมาจากอาณาจักรทวารวดี
บางเมืองเกิดขึ้นซ้อนทับเมืองทวารวดี บางเมืองย้ายไปสร้างใหม่ในที่ไม่ไกลนัก
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญที่ค้นพบ ได้แก่ พระปรางค์สามยอด เทวรูปพระโพธิสัตว์ พระพุทธรูปปางนาคปรก
พระปรางค์สามยอด
พระพุทธรูปปางนาคปรก
5. อาณาจักรตามพรลิงค์
มีศูนย์กลางอยู่ทีนครศรีธรรมราช (อาจเป็นบริเวณบ้านท่าเรือหรือบ้านพระเวียง) ซึ่งตั้งอยู่ด้านเหนือ ของอาณาจักรลังกาสุกะ (บริเวณปัตตานี) มีอาณาเขตทางด้านทิศตะวันออกและตะวันตก นั้นจดทะเลอันดามันถึงบริเวณที่เรียกว่า ทะเลนอกซึ่งเป็นบริเวณจังหวัดกระบี่ปัจจุบัน
คำว่า ตามพร เป็นภาษีบาลี แปลว่า ทองแดง ส่วนลิงค์
เป็นเครื่องหมายบอกเพศเขียนเป็นอักษรภาษาอังกฤาว่า Tambalinga หรือ Tammaling หรือ Tamballinggam จีนเรียกตันเหมยหลิว หรือโพ-ลิง หรือ โฮลิง (แปลว่าหัวแดง)
อาณาจักรตามพรลิงค์ มีกษัตริย์สำคัญ คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช และพรเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราช ซึ่งทรงสามารถรวยรวมพวกมลายู และ แขกทมิฬไว้ในอำนาจ
อาณาจักรตามพรลิงค์เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ ไปยังอาณาจักรสุโขทัย และดินแดนทั่วแหลมมลายูพระภิกษุจากนครศรีธรรมราชเคยเดินทางไปสืบ
พระพุทธศาสนาถึงประเทศลังกา
ในพุทธศตวรรษที่ ๗ อาณาจักรตามพรลิงค์ ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรฟูนัน ต่อมา พ.ศ. ๑๓๑๘ อาณาจักรตามพรลิงค์ได้ตกเป็นเมืองขึ้นอาณาจักรศรีวิชัย และ พ.ศ. ๑๕๖๘ ได้ถูกพวกโจฬะจากอินเดียยกทัพมารุกรานใน พ.ศ.๑๖๕๘ ได้มีการส่งคณะทูต ไปเฝ้าพระเจ้ากรุงจีนราชวงศ์ซ้อง ที่เมืองไคฟง
ในพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรตาพรลิงค์ได้ส่งไพร่พลไปช่วยพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ สร้างเมืองนครธม พ.ศ. ๑๘๑๓ อาณาจักรตามพรลิงค์ได้ตกอยู่ในอิทธิพลอาณาจักรลังกาสุ พ.ศ. ๑๘๓๗ เมืองนครศรีธรรมราชได้เข้ารวมอยู่อาณาจักรสุโขทัย และ พ.ศ. ๑๘๙๓ เมืองนครศรีธรรมราชได้เข้ารวมกับอาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรตามพรลิงค์นี้ประกอบไปด้วยเมือง ๑๒ เมือง โดยใช้ตราสิบสองนักกษัตร เป็นตราประจำแต่ละเมือง คือ เมืองสายบุรี (หนู) เมืองปัตตานี (วัว) เมืองกลันตัน (เสือ) เมืองปาหัง (กระต่าย) เมืองไทรบุรี (งูเล็ก) เมืองพัทลุง (งูใหญ่) เมืองตรัง (ม้า) เมืองชุมพร (แพะ) เมืองบันทายสมอ (ลิง) เมืองสงขลา (ไก่) เมืองตะกั่วป่า (สุนัข) และเมืองครหิหรือกระบุรี (สุกร)
สำหรับเมืองบันทายสมอ ซึ่งใช้ตราลิงนั้น นักโบราณคดีบางท่าน เช่น หม่อมเจ้าจันทร์จิรารัชนี สันนิษฐานว่าอยู่เมืองกระบี่ ซึ่งอาจเป็นที่มาของเมืองกระบี่ปัจจุบัน
จดหมายเหตุจีนระบุว่า นครโฮลิง (เมืองตามพรลิงค์) นั้นได้ส่งทูตไปเฝ้าพระเจ้ากรุงจีน เมื่อ พ.ศ. ๑๒๙๑ , พ.ศ. ๑๓๑๐ , พ.ศ. ๑๓๑๑ พ.ศ. ๑๓๕๖ . พ.ศ. ๑๓๕๘ และพ.ศ. ๑๓๖๑
ต่อมาได้มีการเรียกชื่ออาณาจักรตามพรลิงค์ เสียใหม่ว่า อาณาจักรศิรธรรม ภายหลังเมื่อเมืองนี้อยู่ในอำนาจของอาณาจักรสุโขทัยจึงได้เปลี่ยนเป็น เมืองศรีธรรมราช
ศตวรรษที่ 18 ได้มีเมืองขึ้นถึง 12 หัวเมือง โดยใช้ตรารูปสัตว์ประจำปีนักษัตรเป็นตราประจำเมืองขึ้นนั้นๆ
สายบุรี – หนู
ปัตตานี – วัว กลันตัน – เสือ
ปาหัง – กระต่าย ไทรบุรี – งูใหญ่ พัทลุง – งูเล็ก
ตรัง – ม้า ชุมพร – แพะ
บันไทยสมอ – ลิง
สงขลา – ไก่ ตะกั่วป่า (ถลาง) – หมา กระบุรี – หมู
เมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองขึ้นของกรุงสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหง และถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในพุทธศตวรรษที่ 20
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ คือ พระบรมธาตุเจดีย์
6. อาณาจักรศรีวิชัย เป็นอาณาจักรใหญ่ในภาคใต้ของไทย ตั้งอยู่บนเกาะชวา เกาะสุมาตรา คาบสมุทรมลายู และดินแดนบางส่วนของไทย มีความเจริญรุ่งเรืองราวพุทธศตวรรษที่ 13-16 เสื่อมอำนาจราวพุทธศตวรรษที่ 18 เสียอำนาจให้กับอาณาจักรสุโขทัยและอยุธยา มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองไชยา และนครศรีธรรมราช
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ คือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เจดีย์พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และพระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
เจดีย์พระบรมธาตุไชยา
7. อาณาจักรโคตรบูร
ตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีศูนย์กลางอยู่ที่นครพนม ครอบคลุมดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่เมืองอุดรธานี หนองคาย เวียงจันทน์ นครพนม จนถึงอุบลราชธานี มีความสัมพันธ์กับอาณาจักรล้านช้าง
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ คือ พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ พระธาตุพนม
ปราสาทหินพิมาย
ปราสาทหินพนมรุ้ง
8.
อาณาจักรหริภุญชัย
ตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ตรงกับปี พ.ศ.1206 บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบน หรือบริเวณลุ่มแม่น้ำวัง มีเมืองสำคัญคือ เมืองลำปาง (เมืองเขลางค์นคร) เมืองลำพูน (เมืองหริภุญชัย) มีปฐมกษัตริย์คือ นางจามเทวี ธิดากษัตริย์แห่งกรุงละโว้ จนถึงพญายีบา รวมทั้งสิ้น 49 พระองค์ ต่อมาถูกรวมเข้ากับอาณาจักรล้านนาของพระยามังรายมหาราช ประมาณปี พ.ศ.1824
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ คือ วัดจามเทวี วัดพระธาตุหริภุญชัย
วัดจามเทวี
วัดพระธาตุหริภุญชัย
9. อาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยม สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในฐานะสถานีการค้าของรัฐละโว้ หลังจากนั้นราวปี 1782 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองแห่งราชวงศ์พระร่วง ได้ร่วมกันกระทำการยึดอำนาจจากขอมสบาดโขลญลำพงเป็นผลสำเร็จ และได้สถาปนาเอกราชให้รัฐสุโขทัยเป็นอาณาจักรสุโขทัยและปฐมกษัตริย์
มีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับและเพิ่มถึงขีดสุดในสมัย
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนจะค่อย ๆ ตกต่ำ และประสบปัญหาทั้งจากปัญหาภายนอกและภายใน และเสื่อมอำนาจลงในสมัยพระธรรมราชาที่ 4 จนต่อมาถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาไปในที่สุดรายพระนามและรายนามผู้ปกครอง
รัฐอิสระ
ลำดับ | พระนาม/นามตำแหน่ง | ราชวงศ์ | ช่วงเวลา | |
- | พระยาพาลีราช | เจ้าเมืองสุโขทัย | - | พ.ศ. 1043 - ไม่ทราบปี |
- ตำนานกล่าวว่า พ.ศ. 1043 พระยาพาลีราชแห่งอาณาจักรละโว้เป็นผู้ก่อตั้งเมืองสุโขทัย | ||||
- | พระยาอภัย | เจ้าเมืองสุโขทัย | - | ไม่ทราบปี |
- | พระอรุณกุมาร | เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย | - | ไม่ทราบปี |
- | พระยาพสุจราช | เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย | - | ไม่ทราบปี |
- | พระยาธรรมไตรโลก | เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย | - | ไม่ทราบปี |
- | พระยาศรีจันทราธิบดี | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | (อดีตภิกษุ) | พ.ศ. 1502 - ไม่ทราบปี |
1 | พ่อขุนศรีนาวนำถุม | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | นำถม | ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1724 |
2 | ขอมสบาดโขลญลำพง | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | - | ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1780 |
3 | พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1780 - ประมาณ พ.ศ. 1801 |
4 | พ่อขุนบานเมือง | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | ประมาณ พ.ศ. 1801 - พ.ศ. 1822 |
5 | พ่อขุนรามคำแหงมหาราช | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1822 - 1842 |
6 | พญาไสสงคราม | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1842 |
7 | พญาเลอไท | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1842 - 1866 |
8 | พญางั่วนำถุม | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1866 - 1890 |
9 | พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1890 - 1913 |
10 | พระมหาธรรมราชาที่ 2 (ลือไท) | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1913 - 1921 |
รัฐบรรณาการอาณาจักรอยุธยา
ลำดับ | พระนาม/นามตำแหน่ง | ราชวงศ์ | ช่วงเวลา | |
10 | พระมหาธรรมราชาที่ 2 (ลือไท) | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1921 - 1931 |
11 | พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไท) | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1931 - 1962 |
12 | พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | พระร่วง | พ.ศ. 1962 - 1981 |
13 | พระราเมศวร | พระร่วงเจ้าสุโขทัย | สุพรรณภูมิ | พ.ศ. 1981 - 1991 |
- | ว่าง | - | - | พ.ศ. 1991 - 2011 |
รัฐบรรณาการอาณาจักรล้านนา
ลำดับ | พระนาม/นามตำแหน่ง | ราชวงศ์ | ช่วงเวลา |
14 | พระยายุทธิษฐิระ | พระร่วงเจ้าสุโขทัย |
10. อาณาจักรสุพรรณภูมิ
มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอู่ทอง เจริญรุ่งเรืองในระยะเดียวกับอาณาจักรอโยธยา
แคว้นสุพรรณภูมิมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ผู้ก่อตั้งหรือสร้างเมือง คือ พระยาพาน สร้างที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ช่วงแม่น้ำสุพรรณบุรี บริเวณบ้านรั้วใหญ่เมื่อประมาณ พ.ศ. 1420 – 1425 ตั้งชื่อว่า เมืองพันธุมยุรี แคว้นสุพรรณภูมิมีอาณาเขตกว้างขวางอย่างด้านตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เป็นที่ตั้งที่มีการพัฒนามาหลายร้อยปี มีความเข้มแข็งทางการทหาร แคว้นสุพรรณภูมิเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณหลายแห่ง มีชื่อของสุพรรณบุรีปรากฏครั้งแรกในพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเชื่อว่ามีมาก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา จากศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ชื่อ พรรณทูม ต่อมามีชื่อใหม่เป็น เมืองสองพันบุรี เชื่อว่าต่อมาเพี้ยนเป็น เมืองสุพรรณบุรี
ราวพุทธศตวรรษที่ 13 – 19 เป็นแคว้นแรกที่เริ่มพัฒนาการมาจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างวัฒนธรรมทวารวดี และวัฒนธรรมจากเขมรเมืองพระนคร จากหลักฐานต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี สันนิษฐานว่า มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่าน
ทำให้มีความมั่งคั่งและมีความเจริญทางด้านศิลปะวัฒนธรรมและเทคโนโลยี
ภายหลังต่อมาได้พระเจ้าอู่ทอง ( ราวพุทธศตวรรษที่ 19 ) ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับแคว้นสุพรรณภูมิและแคว้นละโว้ นำไปสู่การรวมแคว้นทั้งสอง และสถาปนาเป็นอาณาจักรอยุธยาขึ้นใน พ.ศ. 1893 ขอบข่ายพื้นที่อยู่ฟากตะวันตกของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เจริญรุ่งเรืองในพุทธศตวรรษที่ 18 – 19
เมืองสำคัญในแคว้นได้แก่ เมืองแพรกศรีราชา (ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อยในจังหวัดชัยนาทปัจจุบัน) เมืองราชบุรี สิงห์บุรี และเพชรบุรี เมืองท่าสำคัญที่คุมเส้นทางการติดต่อค้าขายกับบ้านเมืองทางภาคใต้ เช่น แคว้นนครศรีธรรมราช
ศิลปวัฒนธรรมได้รับสืบทอดมาจากนครชัยศรี จึงนับถือพุทธศาสนานิกายหินยานเป็นหลัก
แคว้นสุพรรณภูมิมีความเข้มแข็งทางการทหาร อาณาจักรอยุธยาที่ก่อเกิดขึ้นใน พ.ศ.1893 ได้รับการสนับสนุนด้านพื้นฐานกำลังทหารจากแคว้นสุพรรณภูมิ ซึ่งมีความโยงใยการเป็นเครือญาติโดยการแต่งงาน และเจ้านายแคว้นสุพรรณภูมิมีส่วนร่วมในการปกครองอาณาจักรที่ก่อเกิดขึ้นนี้
ความเจริญรุ่งเรืองทางด้านต่าง ๆ
ด้านศาสนา เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากแคว้นนครชัยศรี ทำให้ชาวสุพรรณภูมิส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท มีการสร้างพระพุทธรูปและสถูปเจดีย์ไว้จำนวนมาก เช่น พระพุทธรูปที่วัดป่าเลไรย์ ในจังหวัดสุพรรณบุรี
แต่ก็มีบางส่วนที่นับถือนิกายมหายาน ดังหลักฐาน การสร้างปรางค์แบบลพบุรีที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี
ด้านเศรษฐกิจ เมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับแคว้นทางใต้และต่างประเทศ จดหมายเหตุของจีน ระบุ ใน พ.ศ. 1777 มีทูตสุพรรณภูมิเดินทางออกจากเพชรบุรีไปติดต่อกับจีน
ด้านวรรณกรรม
/ โบราณวัตถุ จากการดำรงชีวิตและความที่ชาวสุพรรณภูมิเป็นพุทธศาสนิกชน ทำให้มีการสร้างศาสนสถานและวัตถุที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
ด้านภาษาและความเป็นอยู่ วิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับสายน้ำ และดำเนินชีวิตแบบชนบท ประเพณีและวัฒนธรรมคล้ายกับแคว้นนครชัยศรีเพราะได้รับอิทธิพลมา
ด้านการปกครอง
เน้นความเข้มแข็ง ทำให้ทหารมีความแข็งแกร่งมากและเข้มแข็งมาก อำนาจมักจะกระจายสู่เครือญาติแต่เมื่อสิ้นสมัยของกษัตริย์แต่ละพระองค์จะเกิดการแย่งชิงอำนาจ
การล่มสลาย ในพ.ศ. 1893 พระเจ้าอู่ทองรวมแคว้นละโว้และแคว้นสุพรรณภูมิตั้งเป็นอาณาจักรอยุธยา แคว้นทั้งสองจึงสิ้นสภาพความเป็นแคว้นอิสระ
ส่วนเมืองละโว้และสุพรรณภูมิก็ลดสถานะเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรอยุธยา
11.
อาณาจักรอโยธยา
มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอโยธยา ทางตะวันออกของเมืองพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน ในระยะหลังผู้ปกครองแคว้นอโยธยาและแคว้นสุพรรณภูมิมีความเกี่ยวข้องกันทางเชื้อพระวงศ์ และต่อมาในปี พ.ศ.1893 พระเจ้าอู่ทองได้ตั้งอาณาจักรอยุธยาขึ้น
รายพระนาม
ราชวงศ์อู่ทอง (ครั้งที่ 1) | ||||||
1 | สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) | พ.ศ. 1855 | พ.ศ. 1893 | พ.ศ. 1912 | 20 ปี | |
2 (1) | สมเด็จพระราเมศวร | พ.ศ. 1885 | พ.ศ. 1912 | พ.ศ. 1913 | พ.ศ. 1938 | ไม่ถึง 1 ปี |
ราชวงศ์สุพรรณภูมิ (ครั้งที่ 1) | ||||||
3 | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) | พ.ศ. 1853 | พ.ศ. 1913 | พ.ศ. 1931 | 18 ปี | |
4 | สมเด็จพระเจ้าทองลัน (เจ้าทองจันทร์) | พ.ศ. 1917 | พ.ศ. 1931 | 7 วัน | ||
ราชวงศ์อู่ทอง (ครั้งที่ 2) | ||||||
2 (2) | สมเด็จพระราเมศวร | พ.ศ. 1885 | พ.ศ. 1931 | พ.ศ. 1938 | 7 ปี | |
5 | สมเด็จพระรามราชาธิราช | พ.ศ. 1899 | พ.ศ. 1938 | พ.ศ. 1952 | ? | 15 ปี |
ราชวงศ์สุพรรณภูมิ (ครั้งที่ 2) | ||||||
6 | สมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) | พ.ศ. 1902 | พ.ศ. 1952 | พ.ศ. 1967 | 15 ปี | |
7 | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) | พ.ศ. 1929 | พ.ศ. 1967 | พ.ศ. 1991 | 24 ปี | |
8 | สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ | พ.ศ. 1974 | พ.ศ. 1991 | พ.ศ. 2031 | 40 ปี | |
9 | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 | พ.ศ. 2005 | พ.ศ. 2031 | พ.ศ. 2034 | 3 ปี | |
10 | สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 | พ.ศ. 2015 | พ.ศ. 2034 | พ.ศ. 2072 | 38 ปี | |
11 | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (หน่อพุทธางกูร) | พ.ศ. 2040 | พ.ศ. 2072 | พ.ศ. 2076 | 4 ปี | |
12 | พระรัษฎาธิราช | พ.ศ. 2072 | พ.ศ. 2077 | 5 เดือน | ||
13 | สมเด็จพระไชยราชาธิราช | พ.ศ. 2045 | พ.ศ. 2077 | พ.ศ. 2089 | 12 ปี | |
14 | พระยอดฟ้า (พระแก้วฟ้า) | พ.ศ. 2078 | พ.ศ. 2089 | พ.ศ. 2091 | 2 ปี | |
- | ขุนวรวงศาธิราช | พ.ศ. 2049 | พ.ศ. 2091 | 42 วัน (ไม่ได้รับการยกย่อง แต่ผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก) | ||
15 | สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พระเจ้าช้างเผือก) | พ.ศ. 2048 | พ.ศ. 2091 | พ.ศ. 2111 | 20 ปี | |
16 | สมเด็จพระมหินทราธิราช | พ.ศ. 2082 | พ.ศ. 2111 | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 | 1 ปี | |
เสียกรุงครั้งที่ 1 | ||||||
ราชวงศ์สุโขทัย | ||||||
17 | สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 1) | พ.ศ. 2059 | พ.ศ. 2112 | พ.ศ. 2133 | 21 ปี | |
18 | สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2) | พ.ศ. 2098 | 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 | 25 เมษายน พ.ศ. 2148 | 15 ปี | |
19 | สมเด็จพระเอกาทศรถ (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 3) | พ.ศ. 2104 | 25 เมษายน พ.ศ. 2148 | พ.ศ. 2153 | 5 ปี | |
20 | พระศรีเสาวภาคย์ (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 4) | ? | พ.ศ. 2153 | 2 เดือน | ||
21 | สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (สมเด็จพระบรมราชาที่ 1) | พ.ศ. 2125 | พ.ศ. 2154 | 12 ธันวาคม พ.ศ. 2171 | 17 ปี | |
22 | สมเด็จพระเชษฐาธิราช | พ.ศ. 2156 | พ.ศ. 2171 | พ.ศ. 2173 | 1 ปี 8 เดือน | |
23 | พระอาทิตยวงศ์ | พ.ศ. 2161 | พ.ศ. 2173 | พ.ศ. 2173 | พ.ศ. 2178 | 36 วัน |
ราชวงศ์ปราสาททอง | ||||||
24 | สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5) | พ.ศ. 2143 | พ.ศ. 2173 | พ.ศ. 2199 | 25 ปี | |
25 | สมเด็จเจ้าฟ้าไชย (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 6) | ? | พ.ศ. 2199 | 9 เดือน | ||
26 | สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา (พระสรรเพชญ์ที่ 7) | ? | พ.ศ. 2199 | 2 เดือน 17 วัน | ||
27 | สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3) | พ.ศ. 2175 | พ.ศ. 2199 | พ.ศ. 2231 | 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 | 32 ปี |
ราชวงศ์บ้านพลูหลวง | ||||||
28 | สมเด็จพระเพทราชา | พ.ศ. 2175 | พ.ศ. 2231 | พ.ศ. 2246 | 15 ปี | |
29 | สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี) (พระเจ้าเสือ) | พ.ศ. 2204 | พ.ศ. 2246 | พ.ศ. 2251 | 5 ปี | |
30 | สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) | พ.ศ. 2221 | พ.ศ. 2251 | พ.ศ. 2275 | 24 ปี | |
31 | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ | พ.ศ. 2223 | พ.ศ. 2275 | พ.ศ. 2301 | 26 ปี | |
32 | สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) | พ.ศ. 2265 | พ.ศ. 2301 | พ.ศ. 2339 | 2 เดือน | |
33 | สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศ) | พ.ศ. 2252 | พ.ศ. 2301 | 7 เมษายน พ.ศ. 2310 | 26 เมษายน พ.ศ. 2311 | 9 ปี |
เสียกรุงครั้งที่ 2 |
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ | |||||
บ้านเชียง ประมาณ 2500 ปีก่อน พ.ศ. | |||||
บ้านเก่า ประมาณ 2000 ปีก่อน พ.ศ. | |||||
ยุคอาณาจักร | |||||
สุวรรณภูมิ ก่อนพุทธศตวรรษที่ 3- พุทธศตวรรษที่ 5 | |||||
โจฬะ พุทธศตวรรษที่ 2-17 | |||||
สุวรรณโคมคำ พุทธศตวรรษที่ 4-5 | |||||
ทวารวดี-นครชัยศรี-ศรีจนาศะ ประมาณ พุทธศตวรรษที่ 5-15 | |||||
โยนกนาคพันธุ์ พ.ศ. 638-1088 | |||||
คันธุลี พ.ศ. 994-1202 | เวียงปรึกษา 1090-1181 | ||||
ศรีวิชัย พ.ศ. 1202-1758 | ละโว้ 1191 -1470 | หิรัญเงินยางฯ 1181 - 1805 | |||
หริภุญชัย 1206-1835 | |||||
สงครามสามนคร พ.ศ. 1467-1470 | |||||
สุพรรณภูมิ ละโว้ ตามพรลิงค์ ลังกาสุกะ | |||||
พริบพรี นครศรีธรรมราช | สุโขทัย 1792-1981 | พะเยา 1190-2011 | เชียงราย 1805-1835 | ||
ล้านนา 1835-2101 | |||||
อยุธยา (1) | |||||
พ.ศ. 1893-2112 | |||||
สค.ตะเบ็งชเวตี้ | |||||
สค.ช้างเผือก เสียกรุงครั้งที่ 1 พ.ศ. 2112 | พิษณุโลก 2106-2112 | ล้านนาของพม่า 2101-2317 แคว้นล้านนา แคว้นเชียงใหม่ | |||
กรุงศรีอยุธยา (2) พ.ศ. 2112-2310 | |||||
เสียกรุงครั้งที่ 2 | |||||
สภาพจลาจล | |||||
กรุงธนบุรี พ.ศ. 2310-2325 | ล้านนาของสยาม 2317-2442 นครเชียงใหม่ | ||||
กรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325-ปัจจุบัน สงครามเก้าทัพ อานามสยามยุทธ การเสียดินแดน มณฑลเทศาภิบาล สงครามโลก: ครั้งที่ 1 - ครั้งที่ 2 | |||||
ยุครัฐประชาชาติ | |||||
ประเทศไทย ปฏิวัติ พ.ศ. 2475 เปลี่ยนแปลงชื่อประเทศ พ.ศ. 2475–2516 พ.ศ. 2516–ปัจจุบัน |
Cr. learning.eduzones.com, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, gotoknow.org
เมื่อรู้สึกเจ็บป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันน้อย อ่อนเพลีย แนะนำ...โปร-เอ็กบี: Pro-xB..เห็นผลดีขึ้นตั้งแต่สัปดาห์แรก ด้วยสารสกัดธรรมชาติ..