Low Power Mode เป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่บน iPhone ซึ่งจะปิดฟังก์ชันการใช้งานบางอย่างที่ไม่จำเป็น ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ทำให้ iPhone ใช้งานได้นานขึ้น
โดยปกติแล้ว การเปิดโหมด Low Power Mode ผู้ใช้จะต้องเปิดใช้งานเอง ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Battery > เปิด Low Power Mode หรือตั้งเป็นปุ่มลัดที่ Control Center ซึ่งโหมดนี้จะปิดอัตโนมัติเมื่อมีการชาร์จและแบตเตอรี่เกิน 80% และต้องเปิดเองเมื่อต้องการใช้งาน
สำหรับใครที่อยากจะเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Low Power Mode ตลอดเวลา อันที่จริงก็พอมีวิธีอยู่บ้างเช่นกัน มาดูกันว่า ทำอย่างไร
วิธีเปิดโหมดประหยัดพลังงาน Low Power Mode แบบถาวรบน iPhone
- เปิดแอปฯ คำสั่งลัด (Shortcuts) และแตะที่แท็บการทำงานอัตโนมัติ (Automation)
- เลือกสร้างการทำงานอัตโนมัติส่วนบุคคล แล้วเลือกที่โหมดประหยัดพลังงาน
- เลือกปิดใช้อยู่ แล้วกดถัดไป
- ตรงบาร์ค้นหาแอปและการทำงาน ให้พิมพ์คำว่า ตั้งค่าโหมดประหยัดพลังงาน (Set Low Power Mode) เลือกแล้วแตะที่ถัดไป
- ตรงถามก่อนสั่งงาน (Ask Before Asking) ให้ปิด
- แตะที่เสร็จสิ้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงาน Low Power Mode ได้ตลอดเวลาแล้ว
วิธียกเลิกคำสั่งลัดเปิดโหมดประหยัดพลังงานตลอดเวลา ทำอย่างไร ?
- เข้าไปที่แอปฯ คำสั่งลัด (Shortcuts) แตะที่แท็บการทำงานอัตโนมัติ (Automation) แล้วเลือกคำสั่งลัดดังกล่าว
- ตรงเมนู เปิดใช้งานการทำงานอัตโนมัตินี้ ให้ปิด แล้วแตะเสร็จสิ้น เป็นอันเรียบร้อย
-------------------------------------
ที่มา : idownloadblog.com
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 31/10/2022
iPhone Low Power Mode How to
คุณตั้งค่าให้โทรศัพท์เปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติได้เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย และยังเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่เองได้ทุกเมื่ออีกด้วย คุณประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอีกในโทรศัพท์ Pixel 3 ขึ้นไปด้วยการเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด สําคัญ: ในขณะที่โหมดประหยัดแบตเตอรี่เปิดอยู่ โทรศัพท์ Pixel รุ่น 5G จะใช้บริการ 4G
ดูสิ่งที่จะเปลี่ยนไปเมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ เมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ ที่ด้านบนของหน้าจอ คุณจะเห็นว่าโหมดประหยัดแบตเตอรี่เปิดอยู่ วิธีเปิดหรือปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่เปิดหรือปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่
ให้อุปกรณ์เปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ
เคล็ดลับ: โหมดประหยัดแบตเตอรี่จะปิดขณะที่ชาร์จโทรศัพท์
ให้โหมดประหยัดแบตเตอรี่ปิดเมื่อชาร์จโทรศัพท์
โหมดประหยัดแบตเตอรี่จะปิดโดยอัตโนมัติได้เมื่อระดับแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ถึง 90%
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะแบตเตอรี่
โหมดประหยัดแบตเตอรี่
- เปิดปิดเมื่อชาร์จเต็ม
ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วยโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
ในโทรศัพท์ Pixel 3 ขึ้นไป คุณจะประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วยโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดจะทำให้โหมดประหยัดแบตเตอรี่ปิดฟีเจอร์ต่างๆ ได้มากขึ้น หยุดแอปส่วนใหญ่ไว้ชั่วคราว และมีการประมวลผลที่ช้าลงเป็นเวลานานขึ้นอีกในระหว่างการชาร์จแต่ละครั้ง
หลังจากที่เลือกเวลาที่จะใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดแล้ว ระบบจะแจ้งให้คุณทราบทุกครั้งที่เปิดฟีเจอร์นี้
สําคัญ: แอปที่หยุดชั่วคราวจะไม่ส่งการแจ้งเตือน ดูสิ่งที่จะเปลี่ยนไปเมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
เลือกเวลาที่จะใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
เลือกแอปที่จะให้ทำงานอยู่ต่อไปเมื่อใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
ใช้แอปที่หยุดไว้ชั่วคราวในโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดแค่ช่วงสั้นๆ
ในขณะที่โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดเปิดอยู่ แอปส่วนใหญ่จะหยุดชั่วคราว หากต้องการใช้แอปที่หยุดชั่วคราว ให้ยกเลิกการหยุดชั่วคราว
- แตะแอปที่หยุดชั่วคราว
- ในข้อความที่แสดงขึ้น ให้แตะยกเลิกการหยุดชั่วคราว
- คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 นาที
- หากต้องการให้แอปหยุดชั่วคราวอีกครั้ง ก็ไม่ต้องทำอะไรหรือทำเพียงแค่เลื่อนการแจ้งเตือนออกไป
- แตะรอจนถึงเพื่อให้แอปทำงานต่อไปโดยไม่หยุดชั่วคราวได้นานขึ้น
- หากต้องการให้แอปทำงานอยู่ต่อไปโดยไม่หยุดชั่วคราว ให้แตะไม่หยุดแอปไว้ชั่วคราว แอปจะไม่หยุดชั่วคราวอีกจนกว่าจะถึงครั้งถัดไปที่คุณใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
สิ่งที่จะเปลี่ยนไปเมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่และโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด
โหมดประหยัดแบตเตอรี่จะจํากัดแอปและฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อประหยัดพลังงาน ในโทรศัพท์ Pixel 3 ขึ้นไป โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดจะหยุดแอปส่วนใหญ่ไว้ชั่วคราว รวมทั้งปิดฟีเจอร์ต่างๆ และทํางานช้าลง นอกเหนือจากการจำกัดการทำงานลักษณะต่างๆ ในโหมดประหยัดแบตเตอรี่
โหมดประหยัดแบตเตอรี่และโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดจะไม่ปิดแอประบบที่จําเป็น เช่น โทรศัพท์, Messages, นาฬิกา และการตั้งค่า
การจํากัดการทำงานลักษณะต่างๆ ในโหมดประหยัดแบตเตอรี่
- แอปจะรีเฟรชเนื้อหาในแอป เช่น อีเมลหรือข่าว เมื่อคุณเปิดแอปนั้นอยู่เท่านั้น
- บริการตำแหน่งจะหยุดเมื่อปิดหน้าจอ
- แอปจะไม่ทํางานในเบื้องหลัง เว้นแต่คุณจะปิดการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่
- คุณจะใช้คำว่า "Ok
Google" และสนทนาต่อเนื่องกับโทรศัพท์ไม่ได้ ให้แตะ Google Assistant ในแต่ละครั้งแทน
- ธีมมืดจะเปิดขึ้น
- การแจ้งเตือนอาจมีความล่าช้า
- ปิด "แสดงเวลาและข้อมูลตลอดเวลา"
- โทรศัพท์ Pixel ที่ใช้ Active Edge จะไม่ตอบสนองต่อการบีบ
- ในโทรศัพท์ Pixel 3, Pixel 4 และรุ่นใหม่กว่า การตรวจจับการชนจะปิดไป
- ในโทรศัพท์ Pixel 4 ฟีเจอร์ Motion Sense จะปิดไป
- ในโทรศัพท์ Pixel 4 และรุ่นใหม่กว่า ฟีเจอร์ Smooth Display จะปิดไป
- โทรศัพท์ Pixel รุ่น 5G จะกลับไปใช้บริการ 4G แทน
การจำกัดการทำงานลักษณะต่างๆ ในโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด (Pixel 3 ขึ้นไป)
โหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุดทำให้การจำกัดการทำงานลักษณะต่างๆ ซึ่งมีอยู่แล้วในโหมดประหยัดแบตเตอรี่มีการจำกัดมากขึ้นอีก คุณจะเปิดการตั้งค่าอีกครั้งได้ทุกเมื่อในแอปการตั้งค่า
- แอปส่วนใหญ่จะหยุดชั่วคราว แอปที่หยุดชั่วคราวจะไม่ส่งการแจ้งเตือน
- การประมวลผล (CPU) ของโทรศัพท์จะช้าลง
- Wi-Fi และบลูทูธจะใช้งานได้ แต่การสแกนหา Wi-Fi และการสแกนหาบลูทูธเพื่อดูข้อมูลตำแหน่งจะปิดไป
- โปรไฟล์งานของคุณจะปิดไป
- ระยะหมดเวลาหน้าจอของโทรศัพท์จะลดเหลือ 30 วินาที
- ฮอตสปอตหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือในปัจจุบันจะหยุดลง
- หากต้องการใช้หน้าจอหลักด้านซ้ายสุด ให้ยกเลิกการหยุดแอป Google ไว้ชั่วคราว
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- ยืดอายุพลังงานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย
- ใช้แบตเตอรี่ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
- ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่
- แก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม
เราจะปรับปรุงได้อย่างไร